Monday, September 5, 2011

ออสซิอาโน่

  ของว่างรองท้องสัปดาห์ นี้ขอพาเพื่อนๆไป และเป็นคนขี้โม้หน่อยนะครับ เพราะผมต้องการเล่าให้เพื่อนๆฟังว่าผมได้ไปทานอะไรที่มันแสนเอร็ดอร่อยใน ร้านที่เมืองดูไป ณ โรงแรมแอตแลนติส เผอิญร้านนี้ชื่อออสซิอาโน่ และเชฟเป็นชาวเสปนซึ่งทำกับข้าวและมีชื่อเสียงมาก และพวกเราไปกันราวๆเกือบ 20 คน ได้จองโต๊ะไป 2 โต๊ะ ค่าอาหารก็แพงพอสมควร แต่จริงๆแล้วค่าไวน์เนี่ยแพงกว่า เพราะพวกเรากินไวน์เหมือนกินน้ำ แต่ว่าก็ต้องขอขอบคุณทาง ไรนิช ทราเวลล์ ที่ได้พาพวกเราไปลิ้มรสอาหารอร่อยที่ร้านนี้จริงๆ เพราะว่าร้านนี้ผมต้องยอมรับเลยว่ากินมาหลายแห่งแล้ว แต่ถูกอกถูกใจ คอร์สทั้งหมดที่เราได้กินนะครับ ราวๆ 14 คอร์ส เกือบตายแหน่ะครับ ถึงแม้ว่ามันจะชิ้นนิดเดียว แต่ว่ามันก็เยอะจริงๆ ร้านนี้บรรยากาศสวยงาม ติคองฟี่ แกะ กับหัวอองดิฟ และมันดกับ อควาเรี่ยมซึ่งเป็นตู้ปลาที่ใหญ่ที่สุดในโรงแรมแอตแลนติส แล้วก็มีปลามากมาย มองออกไปจากโต๊ะกินข้าวก็จะเห็นตู้ปลาที่ใหญ่เหลือเกิน และสูง เหมือนเรานั่งอยู่ใต้ทะเลเลยครับ ร้านก็สวยงาม บริการก็ดี แถมอาหารยิ่งดีใหญ่เลย เพราะฉะนั้นผมขอสาธยายให้เพื่อนๆฟังเพื่อจะได้อิจฉากันไปถ้วนหน้า เมื่อเราไปถึงก็พาเราไปนั่งอย่างสนุกสนานเฮฮา ทุกคนก็มีเมนูที่ผมได้เลือกเอาไว้ให้พวกเขาแล้ว พอเชฟได้ทราบว่าเรามาจากประเทศไทย และเจาะจงที่จะมากินที่นี่ เขาก็เพิ่มอาหารให้เรากินอีก โดยมากแล้วมันจะเป็นแค่ราวๆ 8 – 9 คอร์สเท่านั้นเอง แต่วันนั้นกินไปถึง 14 คอร์ส ผมเกือบตายเลยครับ แต่ว่าก็ยอมนะครับ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างอร่อยจริงๆ เริ่มด้วยเขาจะเอาอาหารว่างมาเสิร์ฟให้เราชิม วางไว้บนโต๊ะ ก็มีพวกตับห่านเย็นๆวางบนคานาเป้เล็กๆ มะเขือเทศสีดายัดไส้ด้วยตับ หรืออะไรต่างๆ เมือ่เขาเสิร์ฟ และเราสั่งไวน์มารับประทานเรียบร้อยแล้ว มีทั้งไวน์ขาวและแดง เขาก็จัดการเสิร์ฟอาหารจานต่อๆไป จานต่อไปก็คือ มูสในถ้วยแก้วคล้ายถ้วยมาตินี่ เป็นถ้วยเล็กๆให้กินกับผักดอง มันจะได้ตัดความเลี่ยนได้ เพราะว่าผักดองมีความเปรี้ยว มูสนั้นทำด้วยปลากินกับผักดอง คำเดียวก็หมด ตอนแรกคาฟาชิโอ ปลากับน้ำสลัดเรา นึกว่า แค่นี้เองหรอให้เรากิน แต่เดี๋ยวสิ จะมาอีกเรื่อยๆ เพราะฉะนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ หลังจากนนั้นก็เป็นอาหารจานต่อไปคือ หอยนางรมสด กับซอสที่เขาทำมาให้ แล้วใส่คาร์เวียนิดหน่อย มันช่างแสนอวบอร่อย แล้วก็หวาน ไม่ต้องใส่อะไรเลยนะครับ แต่ว่าทำไมมันอร่อยเช่นนี้ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ว่าหล่ะ จานก็เย็น หอยก็เย็น และทุกอย่างสดจริงๆเลย ใส่ซอสมานิดเดียว น้ำใสๆคล้ายๆน้ำสลัด แต่ว่ามันแสนจะอร่อยมากเลยพอได้กินคำนี้เข้าไปก็เออ อร่อยนะ อยากจะกินต่อ อาหารจานต่อไปก็กลายเป็นคาพาโช่ ปลาดิบเอามาหั่นบางๆ แล้ววางลงไปในจาน ใส่น้ำสลัดเข้าไปนิดนึง มีผักอยู่ข้างบน ให้กินดิบๆอย่างนั้นหน่ะครับ แต่ว่าทำไมมันอร่อยอย่างนั้นก็ไม่รู้ หลังจากกินปลาเสร็จแล้ว ก็ยังมีปลาอีกคอร์สนึงคราวนี้พิเศษสุดเลย ยำปลาฮามาชิเล็กหั่นเป็นลูกเต๋า กินกันแอปเปิ้ลเขียวก๊หั่นเป็นลูกบรรยากาศของร้านที่ติดกับอคาเรียมเต๋า เล็กๆ เสิร์ฟกับปลาคาร์เวียในแม่พิมพ์ แล้วก็มีซอสครีมเย็นๆ มีกลิ่นตะไคร้ด้วย ผมกินเข้าไปแล้ว ต้องกินช้าๆ ทีละนิดเพื่อได้ลิ้มรสที่แท้จริงขิงเขา ผมก็ได้ขโมยอาหารจานนี้มาทำในรายการของผมช่วงเซเลบ วิสิตด้วย ความจริงแล้วทะไม่ยาก แต่ผมจะหาไข่ปลาคาร์เวียสีดำที่แพงมากๆมาใช้ในรายการคงไม่ไหวครับ ผมก็เลยไม่ได้ใช้ ผมเลยใช้ไข่ปลาคาร์เวียจากแซลม่อนที่เป็นสีแดงแทน เป็นอาหารทะเลเกือบหมดเลยนะครับ จานต่อไปก็เป็นหอยเชลล์ เอาไปนาบกับกะทะนิดเดียวเท่านั้นเอง หลังจากนั้นเขาถึงจะทำซอส แล้วเอามาใส่จาน เป็นของที่อร่อยจริงๆเลย เพราะหอยเชลล์ทอดยังไม่สุกนัก ตรงกลางยังเป็นสีชมพู มีซอสครีม และมีหน่อไม้ฝรั่ง แล้วก็เอาครีมหรือนมเนี่ยไปตีให้เป็นโฟม แล้วยังราดยังราดด้วยน้ำมันทรัฟเฟิ่ล ทรัฟเฟิ่ลเนี่ยเป็นเห็ดชนิดนึงแต่ว่ามันมีกลิ่นที่หอมหวนชวนกินมาก ชิ้นเดียวจริงๆเลยนะครับ พอกินหอยเชลล์เสร็จ หลังจากนั้นก็จะมีปลาแซลม่อน เอามาทอด ด้านในยังเป็นสีชมพูๆอยู่เลย กินกับสตูผัก คุณเอ้อย ผมไม่เคยกินอะไรที่อร่อยอย่างนี้มาก่อน เพราะว่าปลาแซลม่อนเนี่ย ถ้าทอดนานเกินไปมันจะสุก แล้วจะแข็ง และแห้ง แต่ที่นี่ทอดแบบกำลังดีเลย ยังมีความชุมชื้น ยังเป็นสีชมพูอยู่ แล้วก็สดมากๆ น้ำซอสที่เสิร์ฟก็เป็นสตูผัก ถ้าพูดเป็นภาษาจีน คนจีนก็จะบอกว่า อาหารเนี่ยเชงๆสุดๆเลย กินปลากินมูสกินกับผักดองอาหาร ทะเลมาเยอะแล้ว อาหารคอร์สต่อไปเป็นคอร์สที่ 8 ก็คือ ตับห่าน เอาไปทอด เอาอะไรที่กรอบๆเนี่ยโรยด้านบน แล้วเสิร์ฟกับลูกแอปริคอตนะครับ แล้วก็มีซอสที่ทำจากเห็ดทรัฟเฟิ่ล โอ้โห อาหารจานนี้ก็ต้องละเมียดอีกแล้วหล่ะ เพราะผมรู้ว่ามันแพงแค่ไหน แล้วเขาทำได้เอร็ดอร่อยจริงๆเลย และเป็นสิ่งที่น่ากินจริงๆเลย ตอนนี้ล่อเข้าไป 8 – 9 คอร์สแล้ว ยังไม่ได้กินจานหลักเลย เพื่อนๆทราบไหมว่าเราใช้เวลาไป 2 ชม.แล้ว หลังจากนั้นเขาถึงจะเอาจานหลักมาเสิร์ฟให้ เขามีให้เลือก 2 อย่าง เป็นแกะ หรือ ปลา แกะก็เป็นคองฟีย์ ก็คือ แกะต้องเอาไปอบเสียก่อน เมื่อเอาไปอบแล้วเนี่ย เอาไปหมักไว้ในน้ำมันของแกะ ทิ้งไว้นานๆเลยครับ ถึงจะเอามาอบอีกที ถึงจะให้มันสุก ทิ้งไว้นานๆเนี่ยหมายถึง 2 – 3วันนะครับ หรือเป็นอาทิตย์ยังไก้เลย ถึงจะเอามาอบอีกที จนกระทั่งมันสุก และก็หอมมากๆ เสิร์ฟกับซอส แล้วก็ผักหัวอองดีฟ หัวอองดีฟเป็นผักชนิดหนึ่ง แล้วก็เสิร์ฟกับมันชิ้นเดียวเท่านั้นเองนะครับ แต่ว่าต้องขอบอกว่าน่ากินจริงๆ เลย ผมก็สั่งแกะเหมือนกัน กินกับซอสไวน์แดงที่เอร็ดอร่อยเหลือเกิน คนที่สั่งปลา ปลาก็ตุ๋นมาในหม้อทองแดง ชิ้นก็ไม่ใหญ่นัก แต่ว่าปลานั้นก็อร่อยเช่นเดียวกัน ไม่แห้งจนเกินไป หลังจากนั้นก็ยังมีขนมอีกหลายต่อหลายชนิด มีของว่างกินเล่นเป็นถาดมาให้เราชิม เสร็จแล้วยังมีเชอร์เบิทมาให้เรากินอีก หลังจากเชอร์เบิทมะนาวเสร็จแล้ว ก็ยังมีไอศครีมให้เรากิน แล้วก็น้ำชา กับกาแฟ คุณเอ๋ยคืนนั้นเรานั่งกินข้าวกัน 4 ชม. เราไม่รู้สึกอะไรเลย นอกจากอิ่มชะมัด ละอาหารอร่อยเป็นบ้า ยินดีที่ได้ไปกับทาง ไรนิช ทราเวล และได้ไปกินอาหารที่อร่อยเหลือเกิน ซึ่งความจริงแล้วผมเป็นคนเลือกอาหารว่าอยากจะกินอะไร แต่เชฟเขาทราบว่าผมมาเขาก็เลยให้กินมากขึ้นอีก สะใจจริงๆครับ แต่ว่าขอโม้หน่อยเถอะว่า แพงหูฉี่จริงๆครับ แต่ว่าคุ้มค่าที่เราได้ลิ้มรสของแบบนี้นานๆทีนะครับ

ชื่อร้านอาหาร ออสซิอาโน
ที่อยู่ Ground Floor, East Tower, Atlantis Hotel, Crescent Road, Dubai Landmark: On The Palm Jumeirah P.O.Box: 211188, Dubai
โทร. +971 (4) 4262626
เปิด. 19.00 – 23.30 น.
 ที่มา  หมึกแดงดอทคอม

No comments:

Post a Comment