Saturday, April 30, 2011

Spaghetti chicken & cream

credit   Nontarchi  bloggang.com
Spaghetti chicken & cream



Free TextEditor

สวัสดีครับ ทุกท่าน 

วันนี้เนื่องจากเป็นวันว่าง (ซึ่งความจริงไม่ว่าง) ก็เลยอยากมาเปิดครัวกันหน่อย

ปกติ แล้วผมเป็นคนที่ชอบทำอาหาร ทั้งที่ปกติก็ทำมั่วๆๆ ไม่เคยดูสูตร ไม่เคยตวง เพราะที่บ้านไม่มีเครื่องอะไรซักอย่าง ตวง เติืง ช่างมัน

ฮ่าๆๆ เอาเป็นว่า วันนี้ก็เลยจะทำอะไรอร่อยๆ ซักอย่าง เท่าที่หาได้ในครัว และแล้ว ก็ได้ เมนูนี้มาจากหัวสมองส่วน ซิริเบรัม (ปล. เดาเอา)

และวันนี้ เราก็จะมาทำ สปาเก็ตตี้ผัดเปสโต้ไก่ทอดราดซอสครีม ชื่อจะยาวไปไหน กะว่าครั้งหน้าทำอาหารจะเอาชื่อให้ยาวเท่ากรุงเทพกันเลยทีเดียว




มาเริ่มกันเลยแล้วกันครับ




ก่อน อื่น ก็ต้องต้ม สปาเก็ตตี้ก่อนนะครับ ใช้เวลาก็ กะเอา อย่าเอา นุ่มเกินไปเพราะเราจะเอาไปผัดต่อ อ้อ อย่าลืมใส่เกลือนิดหน่อยด้วยนะ



เสร็จแล้วก็พักไว้อย่างนี้นะครับ



จากนั้นก็เอาไก่ออกมาจากตู้เย็น ตัดครึ่งนึงนะครับ เพราะผมทอดในหม้อ เพื่อไม่ให้น้ำมันกระเด็นใส่ผนัง ขี้เกียจเช็ด



ทอดจนเหลืองทองอร่ามงามตา แบบนี้




แล้ว ก็พักไว้บนทิชชู่แบบนี้ อย่าเอาทิชชู่เนื้อนิ่มนะัครับ เดี๋ยวมันจะติดไก่เป็นกาว แล้วเวลากินจะได้กินทิชชู่ไปด้วย น่าจะเข้ากันดี ให้เลือกใช้ ทิชชู่แบบแข็ง



จากนั้น ก็มาเริ่มผัดเส้นสปาเก็ตตี้ ของเรากับซอสเปสโต้ผสมใบโหระพา กัน อันนี้มจาก อิตาลีนะ



แล้วก็เอาผสมลงในหม้อ ผัดๆซัก สองสามนาที ก็พอแล้ว ถ้าแห้งไป ก็เติมน้ำได้พอเป็น กระษัย




เสร็จแล้ว เราก็จะมาทำ น้ำซอสครีมกัน โดยนำครีมที่มีในตู้เย็น เทลงไปในหม้อน้อย เปิดไฟแบบ เบามาก เหมือน เป่าเอา



แล้วก็ใส่เครื่องเทศที่มีอยู่ลงไป ใส่อะไรก็ได้ ผมใส่กระเทียบบด แล้วก็พริกไทย และเครื่องเทศอื่นๆ อีกนิดหน่อย



จาก นั้นก็จัดใส่จานแบบนี้ ราดซอสครีมลงบนเนื้อไก่ แล้วก็หาผักแกล้มบาง ให้ดูมีวิตามินสำหรับร่างกายบ้าง แล้วก็ โปรยผงปาปริก้าตอนจบ แค่นี้ก็จบแล้ว



และแล้วก็เสร็จ ขอให้อร่อยเ้ด้ออออ แล้วเจอกันกับเมนูหน้า

Spaghetti chicken & cream

credit   Nontarchi  bloggang.com
Spaghetti chicken & cream



Free TextEditor

สวัสดีครับ ทุกท่าน 

วันนี้เนื่องจากเป็นวันว่าง (ซึ่งความจริงไม่ว่าง) ก็เลยอยากมาเปิดครัวกันหน่อย

ปกติ แล้วผมเป็นคนที่ชอบทำอาหาร ทั้งที่ปกติก็ทำมั่วๆๆ ไม่เคยดูสูตร ไม่เคยตวง เพราะที่บ้านไม่มีเครื่องอะไรซักอย่าง ตวง เติืง ช่างมัน

ฮ่าๆๆ เอาเป็นว่า วันนี้ก็เลยจะทำอะไรอร่อยๆ ซักอย่าง เท่าที่หาได้ในครัว และแล้ว ก็ได้ เมนูนี้มาจากหัวสมองส่วน ซิริเบรัม (ปล. เดาเอา)

และวันนี้ เราก็จะมาทำ สปาเก็ตตี้ผัดเปสโต้ไก่ทอดราดซอสครีม ชื่อจะยาวไปไหน กะว่าครั้งหน้าทำอาหารจะเอาชื่อให้ยาวเท่ากรุงเทพกันเลยทีเดียว




มาเริ่มกันเลยแล้วกันครับ




ก่อน อื่น ก็ต้องต้ม สปาเก็ตตี้ก่อนนะครับ ใช้เวลาก็ กะเอา อย่าเอา นุ่มเกินไปเพราะเราจะเอาไปผัดต่อ อ้อ อย่าลืมใส่เกลือนิดหน่อยด้วยนะ



เสร็จแล้วก็พักไว้อย่างนี้นะครับ



จากนั้นก็เอาไก่ออกมาจากตู้เย็น ตัดครึ่งนึงนะครับ เพราะผมทอดในหม้อ เพื่อไม่ให้น้ำมันกระเด็นใส่ผนัง ขี้เกียจเช็ด



ทอดจนเหลืองทองอร่ามงามตา แบบนี้




แล้ว ก็พักไว้บนทิชชู่แบบนี้ อย่าเอาทิชชู่เนื้อนิ่มนะัครับ เดี๋ยวมันจะติดไก่เป็นกาว แล้วเวลากินจะได้กินทิชชู่ไปด้วย น่าจะเข้ากันดี ให้เลือกใช้ ทิชชู่แบบแข็ง



จากนั้น ก็มาเริ่มผัดเส้นสปาเก็ตตี้ ของเรากับซอสเปสโต้ผสมใบโหระพา กัน อันนี้มจาก อิตาลีนะ



แล้วก็เอาผสมลงในหม้อ ผัดๆซัก สองสามนาที ก็พอแล้ว ถ้าแห้งไป ก็เติมน้ำได้พอเป็น กระษัย




เสร็จแล้ว เราก็จะมาทำ น้ำซอสครีมกัน โดยนำครีมที่มีในตู้เย็น เทลงไปในหม้อน้อย เปิดไฟแบบ เบามาก เหมือน เป่าเอา



แล้วก็ใส่เครื่องเทศที่มีอยู่ลงไป ใส่อะไรก็ได้ ผมใส่กระเทียบบด แล้วก็พริกไทย และเครื่องเทศอื่นๆ อีกนิดหน่อย



จาก นั้นก็จัดใส่จานแบบนี้ ราดซอสครีมลงบนเนื้อไก่ แล้วก็หาผักแกล้มบาง ให้ดูมีวิตามินสำหรับร่างกายบ้าง แล้วก็ โปรยผงปาปริก้าตอนจบ แค่นี้ก็จบแล้ว



และแล้วก็เสร็จ ขอให้อร่อยเ้ด้ออออ แล้วเจอกันกับเมนูหน้า

Walnut fudge chocolate Vanilla Cake

credit  ช้อย  bloggang.com
Walnut fudge chocolate Vanilla Cake


เค้กวนิลาฟัดจ์วอลนัทช็อคโกแลต





สูตร นี้ทำตั้งชื่อเก๋ไปแบบนั้น อันความจริงก็คือช็อคโกแลตวอลนัทเป็นมิลล์ช็อคฯ ธรรมดานั่นเอง ด้วยขณะนั้นฟ้าประทานมาเฉพาะวอลนัทช็อคฯ นน.ร่วม ๑ กก. ไหนจะเทาว์เบอโรนท์ดุ้นบิ๊กอีก ๒ ดุ้น กินไม่ทันครับ กลัวน้ำตาลพุ่ง แจกก็เสียดาย(ฮา) เพราะชอบ เก็บไว้นานก็กวนตากวนใจ เปิดตู้เย็นเห็นนอนแอ้งแม้งทับกันน่าสงสาร เลยตั้งใจเอามาทำเป็นหน้าเค้กจะดีกว่า





ผม ยังคงใช้สปันจ์วนิลาเค้กเป็นฐานสำหรับทำเค้กเมนูต่างๆ ด้วยผสมง่าย ไม่ต้องร่อนแป้ง ไม่เปลืองอุปกรณ์ ใช้เวลาเตรียมส่วนผสมไม่เกิน ๑/๒ ชม. นำเข้าอบอีกสัก ๓๐-๔๐ นาที และสำคัญที่สุดคือเค้กไม่ยุบไม่หด รวมเวลาตั้งแต่เตรียมถึงอบเสร็จประมาณ ๑ ชม. ค่อนข้างรวดเร็วสำหรับบางเวลาที่ต้องรีบเร่ง

ครั้งแรกตั้งใจทำฐาน เค้กเป็นบัตเตอร์ช็อคโกแลตคิดว่าคงจะเข้ากันกับหน้าแบบนี้เนื้อเค้กออกขม นิดๆ กับฟัดจ์ช็อคหวานๆ เข้มข้นดีบวกกับถั่ววอลนัทกรุบๆ ได้อารมณ์อีกแบบ





แต่ ไปเจอสูตรวนิลาเค้กที่ปาดแยมราสเบอรีตรงกลาง เลยเก็ทไอเดียทันทีเพราะช็อคโกแลตกับราสเบอรี่มันอยู่ในทฤษฎีขนมที่กินคู่ กันได้เหมาะสมบทหนึ่งเลย

เริ่มลงมือทำฟัดจ์วอลนัทช็อคฯ ก่อน ส่วนผสมมี วิปปิ้งครีม ช็อคโกแลตวอลนัท(มิลล์) รัม วิธีทำนำวิปปิ้งครีมตั้งไฟพอเดือดจากนั้นเทลงบน ช็อคโกแลตฯ รอสัก ๒-๓ นาทีแล้วคนผสมให้เนียนสุดท้ายเติมรัมไปสัก ๑ ชต. พักไว้

แล้วลงมือตี เค้ก นำเข้าอบ พักไว้ จากนั้นนำมาสไลด์กลางแล้วปาดแยมราสเบอรี่ (ต้องของสมัคเกอร์นะครับ ผมว่ารสชาติดี ) ประกบด้วยเค้กอีกแผ่นจากนั้นราดด้วยฟัดจ์ช็อคฯวอลนัท ใช้สปาตูล่าปาดไปมาไม่ต้องเนียนกริ๊บก็ได้ครับ เพราะเค้กแบบผมไม่ต้องเนียนแบบดิบๆ น่าจะเหมาะกับตัวผมมากว่า

และถึงเวลาชิมรสชาติมีขม หวาน เปรี๊ยว ๓ รสเลยครับ


Walnut fudge chocolate Vanilla Cake

credit  ช้อย  bloggang.com
Walnut fudge chocolate Vanilla Cake


เค้กวนิลาฟัดจ์วอลนัทช็อคโกแลต





สูตร นี้ทำตั้งชื่อเก๋ไปแบบนั้น อันความจริงก็คือช็อคโกแลตวอลนัทเป็นมิลล์ช็อคฯ ธรรมดานั่นเอง ด้วยขณะนั้นฟ้าประทานมาเฉพาะวอลนัทช็อคฯ นน.ร่วม ๑ กก. ไหนจะเทาว์เบอโรนท์ดุ้นบิ๊กอีก ๒ ดุ้น กินไม่ทันครับ กลัวน้ำตาลพุ่ง แจกก็เสียดาย(ฮา) เพราะชอบ เก็บไว้นานก็กวนตากวนใจ เปิดตู้เย็นเห็นนอนแอ้งแม้งทับกันน่าสงสาร เลยตั้งใจเอามาทำเป็นหน้าเค้กจะดีกว่า





ผม ยังคงใช้สปันจ์วนิลาเค้กเป็นฐานสำหรับทำเค้กเมนูต่างๆ ด้วยผสมง่าย ไม่ต้องร่อนแป้ง ไม่เปลืองอุปกรณ์ ใช้เวลาเตรียมส่วนผสมไม่เกิน ๑/๒ ชม. นำเข้าอบอีกสัก ๓๐-๔๐ นาที และสำคัญที่สุดคือเค้กไม่ยุบไม่หด รวมเวลาตั้งแต่เตรียมถึงอบเสร็จประมาณ ๑ ชม. ค่อนข้างรวดเร็วสำหรับบางเวลาที่ต้องรีบเร่ง

ครั้งแรกตั้งใจทำฐาน เค้กเป็นบัตเตอร์ช็อคโกแลตคิดว่าคงจะเข้ากันกับหน้าแบบนี้เนื้อเค้กออกขม นิดๆ กับฟัดจ์ช็อคหวานๆ เข้มข้นดีบวกกับถั่ววอลนัทกรุบๆ ได้อารมณ์อีกแบบ





แต่ ไปเจอสูตรวนิลาเค้กที่ปาดแยมราสเบอรีตรงกลาง เลยเก็ทไอเดียทันทีเพราะช็อคโกแลตกับราสเบอรี่มันอยู่ในทฤษฎีขนมที่กินคู่ กันได้เหมาะสมบทหนึ่งเลย

เริ่มลงมือทำฟัดจ์วอลนัทช็อคฯ ก่อน ส่วนผสมมี วิปปิ้งครีม ช็อคโกแลตวอลนัท(มิลล์) รัม วิธีทำนำวิปปิ้งครีมตั้งไฟพอเดือดจากนั้นเทลงบน ช็อคโกแลตฯ รอสัก ๒-๓ นาทีแล้วคนผสมให้เนียนสุดท้ายเติมรัมไปสัก ๑ ชต. พักไว้

แล้วลงมือตี เค้ก นำเข้าอบ พักไว้ จากนั้นนำมาสไลด์กลางแล้วปาดแยมราสเบอรี่ (ต้องของสมัคเกอร์นะครับ ผมว่ารสชาติดี ) ประกบด้วยเค้กอีกแผ่นจากนั้นราดด้วยฟัดจ์ช็อคฯวอลนัท ใช้สปาตูล่าปาดไปมาไม่ต้องเนียนกริ๊บก็ได้ครับ เพราะเค้กแบบผมไม่ต้องเนียนแบบดิบๆ น่าจะเหมาะกับตัวผมมากว่า

และถึงเวลาชิมรสชาติมีขม หวาน เปรี๊ยว ๓ รสเลยครับ


ผัดผักให้สีสวยชวนรับประทาน

credit  โสดในซอย  bloggang.com
ผัดผักให้สีสวยชวนรับประทาน

ผัดผักให้สีสวยชวนรับประทาน







การผัดผักที่สีสวย น่ารับประทาน
มีวิธีการทำอย่างไร
มาดูขั้นตอนกันค่ะ



1. ต้มน้ำให้เดือด เติมเกลือ และน้ำตาลเล็กน้อย
เพื่อเพิ่มรสชาติให้กับผัก

2. นำผักที่เตรียมไว้
เช่น ถั่วฝักยาว หรือกะหล่ำปลี
หรือผักอะไรที่ต้องการให้สีสดเขียว น่ารับประทาน
ใช้เวลาต้มประมาณ 2 นาที

3. รีบตักผักแช่ในน้ำเย็นทันที
เพื่อเพิ่มความสดใสใหม่ของสีผัก
โดยแช่ประมาณ 2 นาที

4. จากนั้นนำมาใส่กระทะ
และผัดเร็ว ๆ ด้วยไฟแรง
แล้วจึงปรุงรสอาหารตามความต้องการ



หรืออีกเทคนิคง่าย ๆ ที่จะทำผัดผัก
ให้ออกมาน่าทาน กรอบกำลังดี ไม่ดิบและไม่นิ่ม
คือเตรียมตัดแต่งผักให้เรียบร้อย
ที่สำคัญผักต้องสะเด็ดน้ำให้แห้ง
กระทะเลือกให้ใช้กระทะก้นลึกแบบครัวจีน

นำไปตั้งไฟพอร้อนใส่น้ำมัน
แล้วเกลี่ยให้ทั่วกระทะ
จากนั้นใส่เสื้อสัตว์ลงไปผัดให้สุกก่อน
คิวต่อมา ใส่ผักที่สุกยากลงไปผัด
เท่านี้ก็จะได้จานผักผัดที่อร่อยแล้ว

ผัดผักให้สีสวยชวนรับประทาน

credit  โสดในซอย  bloggang.com
ผัดผักให้สีสวยชวนรับประทาน

ผัดผักให้สีสวยชวนรับประทาน







การผัดผักที่สีสวย น่ารับประทาน
มีวิธีการทำอย่างไร
มาดูขั้นตอนกันค่ะ



1. ต้มน้ำให้เดือด เติมเกลือ และน้ำตาลเล็กน้อย
เพื่อเพิ่มรสชาติให้กับผัก

2. นำผักที่เตรียมไว้
เช่น ถั่วฝักยาว หรือกะหล่ำปลี
หรือผักอะไรที่ต้องการให้สีสดเขียว น่ารับประทาน
ใช้เวลาต้มประมาณ 2 นาที

3. รีบตักผักแช่ในน้ำเย็นทันที
เพื่อเพิ่มความสดใสใหม่ของสีผัก
โดยแช่ประมาณ 2 นาที

4. จากนั้นนำมาใส่กระทะ
และผัดเร็ว ๆ ด้วยไฟแรง
แล้วจึงปรุงรสอาหารตามความต้องการ



หรืออีกเทคนิคง่าย ๆ ที่จะทำผัดผัก
ให้ออกมาน่าทาน กรอบกำลังดี ไม่ดิบและไม่นิ่ม
คือเตรียมตัดแต่งผักให้เรียบร้อย
ที่สำคัญผักต้องสะเด็ดน้ำให้แห้ง
กระทะเลือกให้ใช้กระทะก้นลึกแบบครัวจีน

นำไปตั้งไฟพอร้อนใส่น้ำมัน
แล้วเกลี่ยให้ทั่วกระทะ
จากนั้นใส่เสื้อสัตว์ลงไปผัดให้สุกก่อน
คิวต่อมา ใส่ผักที่สุกยากลงไปผัด
เท่านี้ก็จะได้จานผักผัดที่อร่อยแล้ว

กล้วยแขก

credit   Brunnett  bloggang.com
กล้วยแขก


ไม่ได้อัพบล็อกตัวเองซะ นาน...นานมาก แต่ก็เข้าไปอ่านบล็อกโปรดอย่างสม่ำเสมอ อย่างบล็อกป้าเดซี่ บล็อกคุณแดงแม่ปุ๊กปุ๋ย และบล็อกแม่ปู อยากอ่านอะไรสนุกๆต้อมจะนึกถึงสามบล็อกนี้ตลอด


วันนี้อยากชวน ทุกคนมากินกล้วยแขกกัน ไม่รู้มีใครชอบเหมือนต้อมหรือเปล่า เมื่อวานลองทำเล่นๆเทสต์รสชาดดูก่อนเผื่อทำแล้ว...มะล่าย จะได้ไม่ต้องถ่ายรูปให้เสียเวลา แต่ชิมดูแล้ว(ที่จริงไม่ได้ชิมแต่....จริง เพราะหมดเป็นกระจาด)ใช้ได้ๆ


อย่าถามหาที่มาของสูตรนะคะ...เพราะ มั่วเอา มีแป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว แป้งมัน แป้งโกกิ แป้งข้าวโพด และแป้งสาลี อยู่ในครัว เดาๆว่าเค้าน่าจะใช้แป้งอะไร เลยเอาแป้งข้าวเจ้ากะแป้งโกกิมาผสมกันซะงั้น ออกมากรุบๆกรอบๆพอกินได้อยู่


งั้นเรามาดูส่วนผสมกันเลยดีกว่า
กล้วย หอม(ใช้แทนน้ำว้าไปก่อน)เลือกลูกห่ามๆเพราะไม่ชอบกินกล้วยแขกที่ข้างในเละๆ แป้งข้าวเจ้า แป้งโกกิ เบคกิ้งโซดา เกลือ งา และน้ำเปล่า
Photobucket



ถ้าทำอะไรแล้วง่ายเหมือนปอกกล้วยก็คงดีเนอะ
Photobucket


หั่น
Photobucket



ผ่า
Photobucket



ผสมแป้งข้นๆ
Photobucket



เติมงา
Photobucket



ชุบ
Photobucket




ทอด
Photobucket



กลับด้าน
Photobucket




ตักขึ้นจากกะทะพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
Photobucket



จัดใส่จาน
Photobucket




อย่าลืมราดหน้าด้วย Ahornsirup และ น้ำตาลไอซ์ซิ่ง
Photobucket



กินคู่กับชาเขียว
Photobucket



ขอบอกว่าตอนกินนี่ไม่ได้กินกล้วยแขกสลับกับจิบชา
แต่ฟาดกล้วยหมดก่อนค่อยดื่มชา ก็มันอร่อยอ่ะ


บล็อกนี้ขอลาไปก่อนสวัสดีค๊า...........

กล้วยแขก

credit   Brunnett  bloggang.com
กล้วยแขก


ไม่ได้อัพบล็อกตัวเองซะ นาน...นานมาก แต่ก็เข้าไปอ่านบล็อกโปรดอย่างสม่ำเสมอ อย่างบล็อกป้าเดซี่ บล็อกคุณแดงแม่ปุ๊กปุ๋ย และบล็อกแม่ปู อยากอ่านอะไรสนุกๆต้อมจะนึกถึงสามบล็อกนี้ตลอด


วันนี้อยากชวน ทุกคนมากินกล้วยแขกกัน ไม่รู้มีใครชอบเหมือนต้อมหรือเปล่า เมื่อวานลองทำเล่นๆเทสต์รสชาดดูก่อนเผื่อทำแล้ว...มะล่าย จะได้ไม่ต้องถ่ายรูปให้เสียเวลา แต่ชิมดูแล้ว(ที่จริงไม่ได้ชิมแต่....จริง เพราะหมดเป็นกระจาด)ใช้ได้ๆ


อย่าถามหาที่มาของสูตรนะคะ...เพราะ มั่วเอา มีแป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว แป้งมัน แป้งโกกิ แป้งข้าวโพด และแป้งสาลี อยู่ในครัว เดาๆว่าเค้าน่าจะใช้แป้งอะไร เลยเอาแป้งข้าวเจ้ากะแป้งโกกิมาผสมกันซะงั้น ออกมากรุบๆกรอบๆพอกินได้อยู่


งั้นเรามาดูส่วนผสมกันเลยดีกว่า
กล้วย หอม(ใช้แทนน้ำว้าไปก่อน)เลือกลูกห่ามๆเพราะไม่ชอบกินกล้วยแขกที่ข้างในเละๆ แป้งข้าวเจ้า แป้งโกกิ เบคกิ้งโซดา เกลือ งา และน้ำเปล่า
Photobucket



ถ้าทำอะไรแล้วง่ายเหมือนปอกกล้วยก็คงดีเนอะ
Photobucket


หั่น
Photobucket



ผ่า
Photobucket



ผสมแป้งข้นๆ
Photobucket



เติมงา
Photobucket



ชุบ
Photobucket




ทอด
Photobucket



กลับด้าน
Photobucket




ตักขึ้นจากกะทะพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
Photobucket



จัดใส่จาน
Photobucket




อย่าลืมราดหน้าด้วย Ahornsirup และ น้ำตาลไอซ์ซิ่ง
Photobucket



กินคู่กับชาเขียว
Photobucket



ขอบอกว่าตอนกินนี่ไม่ได้กินกล้วยแขกสลับกับจิบชา
แต่ฟาดกล้วยหมดก่อนค่อยดื่มชา ก็มันอร่อยอ่ะ


บล็อกนี้ขอลาไปก่อนสวัสดีค๊า...........