Friday, February 17, 2012

"บังคาร่า ราเม็ง"น้ำซุปเด่น เส้นเหนียวนุ่ม

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 กรกฎาคม 2551 15:34 น.
บรรยากาศโต๊ะนั่งภายในร้าน "บังคาร่า ราเม็ง"
       "อิ รัด ไช มา เสะ" เสียงบริกรหนุ่มสาว กล่าวคำทักทายเป็นภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า ยินดีต้อนรับ ดังลั่นร้าน เมื่อ "ผู้จัดการตระเวนกิน" เดินเยื้องกายเข้ามาภายในร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งนี้ที่มีนามว่า "บังคาร่า ราเม็ง" (Bankara Ramen) เป็นร้านราเม็งน้องใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวในเมืองไทยได้ไม่ถึงเดือน แต่นับว่ามีความน่าสนใจเชิญชวนให้มากินเป็นอย่างมาก
มุมโต๊ะนั่งสบายๆ ได้บรรยากาศแบบญี่ปุ่นๆ
       บังคาร่าฯ ร้านนี้นำเสนอราเม็งสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ เพราะเป็นเฟรนไชส์ของร้านบังคาร่า ราเม็งชื่อดังจากญี่ปุ่นที่มีความโดดเด่นอยู่ที่เส้นราเม็ง และน้ำซุปอันเลิศรส เมื่อมาอยู่ในเมืองไทยก็ยังคงรสชาติราเม็งแบบต้นตำรับแท้ๆ จากญี่ปุ่นไว้ โดยไม่ได้มีการปรับแต่งรสชาติแต่อย่างใดเลย พวกวัตถุดิบแทบจะทุกอย่างในการทำราเม็งของที่นี่ส่งตรงมาญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นน้ำซุป เส้นราเม็ง และวัตถุดิบปรุงรสอื่นๆ แถมยังมีพ่อครัวญี่ปุ่น มาลงฝีมือปรุงราเม็งรสเลิศให้กินกันด้วย
บังคาร่า ราเม็ง
       สำหรับราเม็งที่ชวนกินของที่นี่มีราเม็งหลักๆ อยู่ 4 แบบให้เลือกกินกันตามใจชอบ มี บังคาร่า ราเม็ง (160 บาท) เป็นราเม็งต้นตำรับจากสูตรของเจ้าของร้านบังคาร่าฯที่ญี่ปุ่น ที่มีความโดดเด่นอยู่ตรงที่น้ำซุปเป็นน้ำซุปกระดูกหมูที่ผ่านการเคี่ยวกรำ นานกว่า 15 ชม. จนได้น้ำซุปกระดูกหมูที่เข้มข้น และผสมกับซอสโชยุญี่ปุ่นสูตรพิเศษ ส่วนเส้นราเม็งเป็นเส้นหยักขนาดกลาง พร้อมกับใส่เครื่องมีชาชูคือหมูสไลด์ หน่อไม้ญี่ปุ่น สาหร่ายและโรยหน้าด้วยต้นหอมซอย ลิ้มรสราเม็งคีบเส้นส่งเข้าปากเส้นราเม็งเคี้ยวนิ่มเหนียวนุ่มปาก เข้ากับน้ำซุปที่ซดแล้วรสชาติเข้มข้น ออกเค็มนิดๆ และมีกลิ่นของโชยุ หน่อยๆ ส่วนเนื้อหมูรสดีเคี้ยวนุ่ม หน่อไม้ญี่ปุ่นมีรสชาติเคี้ยวกรึบกรับปากดี
ทงคัตซึ ราเม็ง
       ชามต่อมาเป็น ทงคัตสึ ราเม็ง (170 บาท) ที่ส่งกลิ่นหอมๆ ของน้ำซุปกระดูกหมูยั่วน้ำลาย น้ำซุปกระดูกหมูนั้นผ่านการเคี่ยวกรำนานหลายชั่วโมงจนกระดูกหมูนั้นละลายได้ น้ำซุปเป็นสีขาวๆ เหมือนน้ำนมที่มีความเข้มข้นมากๆ ส่วนเส้นเป็นราเม็งเส้นเล็กยาวตรง และก็ใส่เครื่องอย่างเห็ดหูหนู ชาชู และต้นหอมซอย กินแล้วต้องบอกว่าถูกปากเอามากๆ ตรงที่ได้ซดน้ำซุปกระดูกหมูที่หอมหวานกลมกล่อมลิ้น บวกกับได้เคี้ยวเส้นราเม็งเล็กๆ ที่เหนียวนุ่มนิ่ม เข้ากันดีกับเครื่องที่ใส่มา
ซึเคเมน ราเม็ง
       กินราเม็งแบบมีน้ำซุปร้อนๆ ใส่มาไปแล้วถึง 2 ชาม ชามต่อมาขอแนะนำ ซึเคเมน ราเม็ง(190 บาท) ที่มีจุดเด่นอยู่ตรงที่น้ำซุปกับเส้นนั้นมาแยกกัน ทางร้านใช้เส้นราเม็งขนาดใหญ่นำมาต้มจนสุกแล้วนำไปแช่เย็น ออกมาเหมือนบะหมี่เย็น เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำซุปสูตรเด็ดที่มีส่วนผสมของน้ำซุปถึง 2 อย่างคือซุปกระดูกหมูและน้ำซุปทะเลที่ได้จากปลาต่างๆเคี่ยวจนเป็นน้ำซุปที่ เข้มข้น แล้วใส่เครื่องมีชาชู หน่อไม้ญี่ปุ่น และหอมซอย ตามด้วยใส่น้ำมันพริกเผาของญี่ปุ่นคล้ายๆ กับน้ำพริกเผาบ้านเรา เวลากินต้องคีบเส้นราเม็งมาจุ่มในน้ำซุปแล้วก็ส่งเส้นเข้าปากเคี้ยวเส้นรา เม็งเต็มปากเค็มปากเหนียวนุ่มเด้งๆ อยู่ในปาก และได้รสชาติน้ำซุปออกมัน เค็ม เจือหวานและเผ็ดนิดหน่อยจากน้ำมันพริกเผา
มิโซะบูตะ ราเม็ง
       ราเม็งชามสุดท้าย มิโซะบูตะ ราเม็ง (230 บาท) เป็นราเม็งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะด้วยความกลมกล่อมของน้ำซุปที่ได้จากน้ำซุปกระดูกหมู บวกกับใส่มิโซะ (เต้าเจี้ยวญี่ปุ่น) และซอสสูตรพิเศษปรุงรสลงไปจนได้น้ำซุปที่เข้มข้นหอมกลิ่นเต้าเจี้ยว ส่วนเส้นเป็นเส้นราเม็งขนาดใหญ่สำหรับมิโซะโดยเฉพาะ พร้อมกับยังใส่เครื่องหลายอย่าง มีถั่วงอกผัด บูตะเป็นหมูสไลด์เป็นแผ่นและผัดกับซอสพิเศษ โรยหน้าด้วยต้นหอม คีบเส้นราเม็งเข้าปากเคี้ยวนุ่ม ซดน้ำซุปร้อนๆ ตามไปออกรสซอสมิโซะที่เค็มๆ หวานๆ แล้วก็เคี้ยวหมูบูตะนุ่มๆ ที่มีรสชาติกลมกล่อมถูกปากเอามากๆ
คาคูนิด้ง
       และการกินราเม็งของที่นี่ทางร้านยังมีท็อปปิ้งอีกกว่า 7 อย่าง ให้สามารถสั่งใส่เพิ่มมาในราเม็งแต่ละอย่าง ทำให้การกินราเม็งเพิ่มรสชาติความอร่อยไปอีกแบบ มีทามาโกะ (25 บาท) เป็นไข่ต้มยางมะตูม คาคูนิ (40 บาท) เป็นหมูสามชั้นตุ๋น ชาชู (30 บาท) คือหมูแผ่นหมักซอสหั่นเป็นแผ่นๆ คาราเนงิ (20 บาท) เป็นต้นหอมคลุกกับพริกเผาญี่ปุ่น โนริ (25 บาท) คือสาหร่ายแผ่น เนยแข็ง (10 บาท) และข้าวโพดต้ม (10 บาท)
      
       นอกจากราเม็งที่เป็นเมนูเด่นชูโรงแล้วทางร้านก็ยังมีเมนูกินเล่นอื่นๆ ที่ชวนสั่งมาลิ้มลองอีกมาก อาทิ คาคูนิด้ง (90 บาท) เป็นข้าวญี่ปุ่นใส่คาคูนิ ไข่ต้มยางมะตูมราดด้วยมายองเนส โรยหน้าด้วยต้นหอมซอยและสาหร่ายซอย เกี๊ยวซ่า (60 บาท) ที่แป้งเกี๊ยวบางนุ่ม ไส้เกี๊ยวเป็นหมูรสกลมกล่อม เนงิบูตะเมชิ (60 บาท) เป็นหมูชาชูนำมาสับปรุงรสชาติ ซึมามิชาชู (70 บาท) เป็นหมูชาชูผัดกับน้ำซุปสูตรพิเศษ เสิร์ฟพร้อมซอสญี่ปุ่น และมีของหวานอย่าง แอนนินโดฟุ (40 บาท) เป็นเต้าฮวยเย็นญี่ปุ่นที่ชวนกิน "ผู้จัดการตระเวนกิน" ขอแนะนำว่าร้าน "บังคาร่า ราเม็ง" เป็นอีกหนึ่งร้านราเม็งสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ที่ชวนให้มาลองลิ้มรสชาติกันไม่น้อยเลย
เกี๊ยวซ่า
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       "บังคาร่า ราเม็ง" ตั้งอยู่ภายในเดอะ แมนเนอร์ ซ.สุขุมวิท 39 ถ.สุขุมวิท กทม. การเดินทางนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีพร้อมพงษ์ แล้วลงทางฝั่งซ.สุขุมวิท 39 ตรงเข้ามาในซ.สุขุมวิท 39 ประมาณ 400 ม. จะเห็นตึกเดอะแมนเนอร์ทางขวามือ ร้านบังคาร่าฯ จะตั้งอยู่ภายในตึกนั้น มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน เปิดทุกวัน เวลา 11.00-23.00 น. โทร. 0-2662-5162-3

No comments:

Post a Comment