Friday, February 17, 2012

เสพติด(รส)อาหาร ที่ ร้าน"Lizm"

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 ตุลาคม 2551 11:38 น.
บรรยากาศน่านั่งแบบชิลล์ ชิลล์ ของร้าน Lizm
       มิตรรักนักกินเคยเกิดอาการเสพติดอะไรบางอย่างไหม เสพติดในที่นี้ไม่ใช่เสพติดยานะ เพราะนั้นเราย่อมรู้ว่ามันเป็นสิ่งไม่ดีไม่ควรติดมัน แต่อาการเสพติดที่กำลังจะพูดถึง คือ เสพติดกับใครบางคน เสพติดกับบรรยากาศของสถานที่ เสพติดหนังสือพิมพ์ ต้องอ่านทุกเช้าไม่เช่นนั้นชีวิตเหมือนขาดบางสิ่ง หรือบางคนตอนนี้ก็อาจจะกำลังเสพติด "ผู้จัดการตระเวนกิน"อยู่
      
       สำหรับ "ผู้จัดการตระเวนกิน" ตอนนี้ก็กำลังค้นพบสิ่งเสพติดอันน่าหลงใหลแห่งใหม่เข้าให้แล้ว นั้นก็คือ การมานั่งเสพติดกินอาหารในบรรยากาศชิลล์ ชิลล์ ที่ร้านน่านั่งอย่าง "Lizm"(ลิซึ่ม) ย่านประชานุกูล
กุ้งวาซาบิ
       ฟังดูอาจจะยังนึกภาพไม่ออกว่าอาการเสพติดอาหารที่ร้าน "Lizm"เป็นอย่างไร จะค่อยๆชี้แจ้งแถลงไขให้หายข้องใจ "Lizm" มีสไตล์การตกแต่ง ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว การออกแบบและตกแต่งภายใน ที่ถูกจัดวางได้อย่างลงตัว ด้วยเฟอร์นิเจอร์โต๊ะ เก้าอี้ โซฟา แบบย้อนยุค เส้นสายลายเหล็กดัดสีขาวให้อารมณ์ของยุค 60 - 70 เน้นความเรียบหรู แบบคลาสสิก แต่ไม่ล้าสมัย
เนื้อปลาช่อนผัดสมุนไพร
       ภายในร้านแบ่งเป็น 3 โซน มีโซนเล่นสด ดีเจโซน โซนซูซิบาร์ ร้านมีด้วยกัน 2 ชั้น จุคนได้เกือบ1,000คน มีโต๊ะสนุกเกอร์ตั้งอยู่ตามมุมเป็นการผ่อนคลาย มีบาร์ที่บริการเครื่องดื่มครบครัน
      
       สิ่งน่าสนใจอีกเรื่องหนึ่งก็ คือ เรื่องของดนตรี ภายในร้านทุกๆวันจะมีวงดนตรีขึ้นเล่นสดหมุนเวียนกัน 3 วง ต่อวัน สลับกับการเปิดแผ่น เพลงของที่นี่มีทุกแนวอาทิ Hip hop & เพลงไทยทั้งใหม่และเก่า แนวสกา ที่กำลังนิยมเขาก็มีเล่นกัน ดนตรีจะเริ่มเล่นตั้งแต่เวลา 20.30-02.00น. ที่นี่มีมินิคอนเสิร์ตทุกเดือน
สปาเก็ตตี้ผัดขี้เมาทะเล
       และถึงจะเป็นร้านอาหารสไตล์ Pub& Restaurant เขาก็ไม่ได้มีดีที่บรรยากาศเท่านั้น แน่นอนว่าอาหารก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่น่าดึงดูดใจไม่แพ้บรรยากาศของร้านที่ เดียว ด้วยเมนูอาหารแบบไทยๆ มีเมนูให้เลือกสรรมากกว่า 100 เมนู
      
       ว่าแล้วก็ไม่รอช้าเลือกสั่งเมนูเด็ดมาลิ้มลองกันเลยดีกว่า เริ่มประเดิมด้วย กุ้งวาซาบิ (130 บาท)ดูเผินๆคล้ายกุ้งแช่น้ำปลา เป็นการนำกุ้งแชบ๊วยสดๆที่ผ่านการผ่าหลังเรียบร้อยแล้วมาปรุงรสด้วยการราด น้ำจิ้ม 3 รส สูตรพิเศษตรงที่มีการผสมผงวาซาบิลงไป ทำให้ได้รสชาติเผ็ดขึ้นจมูก เวลากินจะต้องตักกินทั้งตัว เพราะใต้ตัวกุ้งยังมีเครื่องเคียงอย่างผักกระถินรองมาด้วย รสชาติเปรี้ยว เผ็ด เข็ดฟันแบบนี้ แนะนำว่าจานนี้เหมาะสำหรับเป็นกับแกล้มถูกใจคอเบียร์ เป็นแน่
ปลาสำลียำมะม่วง
       อย่ารอช้าสั่งมาอีกเมนูเลยดีกว่า กับ เนื้อปลาช่อนผัดสมุนไพร (130 บาท)เมนูดีๆที่อุดมด้วยสมุนไพรนานาชนิด อย่าง หอมแดงเจียว ตะไคร้ ข่า ใบมะกรูด กระชาย ขิง พริกไทยอ่อน พริกแห้ง ที่ผ่านการทอดจนกรอบน่ากิน นำมาโรยลงบนเนื้อปลาช่อนที่แล่เอาแต่เนื้อ แล้วลงปะแป้งเล็กน้อย ก่อนทอดจนเหลืองกรอบน่ากิน จานรสกลมกล่อมเลยทีเดียวเนื้อปลาช่อนกรอบนอกนุ่มใน หอมกลิ่นสมุนไพรมาแต่ไกล
      
       ตามด้วยอีกหนึ่งเมนูเส้นอย่าง สปาเก็ตตี้ผัดขี้เมาทะเล (120 บาท) จานนี้รสจัดจ้านแบบขี้เมาแท้ ด้วยเส้นสปาเก็ตตี้อันเหนียวนุ่ม เมื่อนำมาผัดรวมกับ กุ้ง ปลาหมึก แครอท พริกไทยอ่อน เหยาะซอสขี้เมาสูตรพิเศษลงไปโรยหน้าด้วยใบกระเพรากรอบ ก็กลายเป็นเมนูน่ากินแล้ว กุ้งก็สด ปลาหมึกก็เคี้ยวหนึบชิ้นโต ยากจะห้ามใจไม่ให้กิน
ลาบหมูทอด
       อีกหนึ่งเมนูชวนหม่ำ ปลาสำลียำมะม่วง (250 บาท) เป็นปลาสำลีไร้กาง นำมาชุบแป้งแล้วชุบเกล็ดขนมปัง กินคู่กับน้ำยำมะม่วง สูตรลับเฉพาะ รสชาติของเนื้อปลากรอบนอก นุ่มใน จะกินเนื้อปลาเปล่าๆก็หวาน เพราะปลาสด จะกินคู่กับน้ำยำก็เข้ากัน เพราะได้รสชาติความเปรี้ยวจากเนื้อมะม่วง
ชิคาโกฟรายด์
       เมนูนี้มาแล้วไม่สั่งไม่ได้ เพราะเป็นเมนูขึ้นชื่อของทางร้าน ลาบหมูทอด (90 บาท) เขาเอาหมูสับมาหมักเครื่องลาบแล้วตีจนเหนียว จากนั้นปั้นก้อน มีเคล็ดลับคือทอดในน้ำมันเดือด รอจนลาบลอยตัวเองก็ถือว่าสุกใช้ได้ แล้วเสิร์ฟพร้อมผักชีฝรั่ง ใบมะกรูดซอย สะระแหน่ รสชาติกลมกล่อม ไม่เผ็ดมาก หอมกลิ่นข้าวคั่ว
      
       ตบท้ายกันด้วย ชิคาโกฟรายด์ (100 บาท)เมนูอาหารว่างที่ใช้เฟรนฟรายด์ชุบแป้ง หมักเครื่องเทศ ทอดจนกรอบเหลือง กินคู่กับน้ำจิ้มมายองเนสสูตรเฉพาะของทางร้าน หอมกลิ่นเครื่องเทศ ด้วยรสเค็มนิดๆเหมาะสำหรับนักดื่มยิ่งนัก ระวังหยิบชิ้นเพลินหมดจานอย่างไว
อีกมุมหนึ่งของบรรยากาศภายในร้าน
       ใครมาแต่หัวค่ำกินหมดเร็ว จะสั่งเพิ่มก็ยังมีอีกหลากหลายเมนู ที่ขึ้นชื่อทั้ง เกี๊ยวห่อชีสทอด (90 บาท),ทาโร่อบเนย (70 บาท),เม็ดมะม่วงผัดขี้เมา (100 บาท),เนื้อสิงห์ย่าง(120 บาท) ที่เป็นเมนูพิเศษเป็นเนื้อวัวหมักเครื่องเทศ หมักเบียร์สิงห์, มีอาหารเซตคู่ราคา(170 บาท)อาทิ ปีกไก่ทอดน้ำปลาคู่กับยำก้านคะน้า,แหนมข้อไก่คู่กับยำรวมเห็ด,หมูมะนาวคู่กับไก่คั่วเกลือ เป็นต้น
      
       ประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็มีให้เลือกนานาชนิด แต่ถ้าใครชอบแบบเบาๆหน่อยประเภทค็อกเทลขอแนะนำ Sex on the beach (140 บาท),Pink lady (140 บาท) ด้วยสรรพคุณมากมายขนาดนี้เห็นหรือยังเล่าว่า"Lizm"มีดีที่น่าเสพติดตรงไหน
Pink lady
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       ร้าน "Lizm" ตั้งอยู่ที่ 9/240 ซ. รัชดาภิเษก 74 บางซื่อ กทม. การเดินทางจากแยกประชานุกุลให้วิ่งตรงมายังเส้นที่จะไปวงศ์สว่าง แล้วกลับรถใต้สะพานที่จะข้ามไปยังสี่แยกวงศ์สว่าง ขับมาอีกเล็กน้อยจะพบป้ายร้านขนาดใหญ่และร้านตั้งอยู่ซ้ายมือ จุดสังเกตร้านตั้งอยู่ริมถนน ด้านหลัง ร.พ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18.00 - 02.00น. ส่วนดนตรีจะเล่นประมาณ 20.30-02.00 ทางร้านยินดีรับบัตรเครดิตทุกชนิด สามารถจอดรถได้ภายในร้าน ผู้สนใจสอบถามได้ที่โทร.โทร.0-2913-9880-1

No comments:

Post a Comment