Monday, January 23, 2012

“Himali Cha Cha” อาหารอินตะระเดีย รสเด็ด

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 มิถุนายน 2547 14:31 น.
บรรยากาศของร้าน Himali Cha Cha ที่ตกแต่งสไตล์อินเดียประยุกต์
       “เฮ ฮาลาชาลาฮา เฮ”เสียงเพลงสำเนียงไม่คุ้นหูดังแว่วมาจากจอสี่เหลี่ยม (ขนาด 21 นิ้ว) พร้อมๆกับภาพชายหนุ่มหญิงสาวหน้าตาคมเข้มวิ่งไปมาท่ามกลางแมกไม้และใบหญ้า ดวงหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยกับระยะทางซึ่งถ้าวัดกัน แล้วก็คงจะหลายกิโลเมตร
      
       ภาพยนตร์อินเดีย ดูจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่หาชาติใดเหมือนได้ยาก แต่สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์อีกอย่าง เห็นจะหนีไม่พ้น อาหารอินเดียที่ทั้งรสชาติและกลิ่นของเครื่องเทศบ่งบอกความเป็นอินเดียไว้ได้อย่างดีเยี่ยม
Chicken Masala
       สำหรับคนที่เปรี้ยวปาก อยากจะกินอาหารอินเดีย ก็ไม่ต้องบินไปไกลถึงประเทศอินเดีย แค่เดินทางมาที่สุขุมวิท 35 ก็จะได้พบกับร้าน Himali Cha Cha ซึ่งเป็นร้านขายอาหารอินตะระเดียแท้ๆ ตกแต่งสไตล์อินเดียประยุกต์แถมเปิดเพลงพื้นบ้านอินเดียบรรเลงเบาๆ พาลให้เรานึกว่าตัวเองอยู่ในดินแดนภารตะซะแล้ว
      
       หลังจากซึมซับกับบรรยากาศได้พักหนึ่ง “ผู้จัดการตระเวนกิน”ก็ไม่รอช้า(เพราะกระเพาะเริ่มประท้วง)จึงรีบสั่ง Chicken Masala (แกงกระหรี่ไก่ 130 บาท) อาหารอินเดียที่คุ้นลิ้นคนไทยมาประเดิมมื้อนี้กันก่อน กลิ่นเครื่องเทศแตะจมูกมาแต่ไกล เพียงคำแรกที่เข้าปากก็รู้สึกได้ถึงสารพัดเครื่องเทศ ไม่ว่าจะเป็นผงยี่หร่า ผงขมิ้น พริกป่นแขก ผงผักชี นำไปเคี่ยวกับเนื้อไก่ให้ได้ที่แถมเพิ่มความหอมด้วยไม้หอม รสชาติที่ได้จึงทั้งกลมกล่อม หอมมัน เวลาทานสามารถเลือกทานกับแป้งแผ่นที่เรียกว่า Nan(แผ่นละ 25 บาท) หรือจะทานกับข้าวเหลือง( 70 บาท)ก็ได้ มีเคล็ดลับนิดนึงว่าถ้าจะทานให้ได้รสชาติอินเดียแท้ ต้องฉีกแผ่นแป้งด้วยมือแล้วจิ้มกับแกงกะหรี่ แล้วก็อ้ำเข้าปากไปเลย สำหรับคนที่ชื่นชอบกุ้ง ก็สามารถสั่ง Prawn Dopezia (แกงกระหรี่กุ้งผัดแห้ง 185 บาท)มาทานได้
Boti Kebab
       เคยได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างของกลิ่นเนื้อแพะหรือแม้แต่นมแพะว่า ถ้าไม่รู้จักกรรมวิธีการทำที่ดี ก็จะทำให้อาหารที่ทำจากเนื้อแพะจานนั้นมีกลิ่นสาบของแพะจนทานไม่ได้ “ผู้จัดการตระเวนกิน” อยากลองค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง จึงลองสั่ง Boti Kebab (แพะย่าง 225 บาท)มาลองลิ้นดูซักตั้ง ทันทีที่เราส่งเนื้อแพะคำแรกเข้าปากก็รู้สึกได้ถึงความเหนียวนุ่ม หอมกลิ่นเครื่องเทศที่บรรจงหมักข้ามวันพร้อมกับโยเกิร์ต สำหรับใครที่กลัวเลี่ยนสามารถบีบมะนาวพร้อมกับจิ้มหอมหัวใหญ่ซอยเข้าปากเป็น เครื่องเคียงได้ดีนักแล
Tandoori Chicken
       กำลังเคี้ยวเพลินๆ สายตาก็เหลือบไปเห็นโต๊ะข้างๆกำลังฉีกไก่ย่างสีสันจี๊ดจ๊าดเข้าปาก เห็นหน้าตาน่าสนใจชวนกิน เราเลยสั่งมาลิ้มลองบ้าง กับเมนูไก่ที่ชื่อ Tandoori Chicken (ไก่ย่างแขก 280บาท)“ผู้จัดการตระเวนกิน” อดสงสัยไม่ได้ว่ารสชาติจะเหมือนกับไก่ย่างของไทยรึเปล่า จึงลองสั่งมาทานดู อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ตอนต้นว่าจะกินอาหารอินเดียให้อร่อยต้องใช้มือและมือ เท่านั้น เราจึงใช้สองมือน้อยๆบรรจงฉีกไก่ย่างจานนี้พร้อมกับส่งเข้าปาก แล้วก็ถึงบางอ้อว่าไก่ย่างแขกจะไม่มัน เนื้อออกแห้งๆเมื่ออยู่ในปากแล้วเหมือนกับจะยุ่ยในปาก ไม่ต้องออกแรงเคี้ยวมากมาย แถมหอมกลิ่นเครื่องเทศซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นของอาหารอินเดียอีกด้วย
ชาแขก
       บางคนอาจติดนิสัยเวลารับประทานอาหารเสร็จ ต้องดื่มกาแฟตบท้าย แต่ถ้ามาทานอาหารอินเดีย ดื่มกาแฟก็ดูจะไม่ครบสูตร ต้องดื่มชาแขก (50 บาท)ชาใส่นมรสเข้มข้นหอมเครื่องเทศ ที่ทำให้กระเพาะอิ่มอุ่น หรือถ้าใครกลัวอ้วนก็สามารถสั่งชาแขกแบบไม่ใส่นมแต่ใส่ใบสะระแหน่หอมกรุ่น แทนได้
      
       สำหรับใครที่ยังรู้สึกว่าเหลือที่ว่างในกระเพาะอยู่ ทางร้าน Himali Cha Cha ก็มีเมนูอาหารอีกหลายหลากไว้ให้เลือกทาน ไม่ว่าจะเป็น Bindi Masala (แกงกระเจี๊ยบ 85 บาท) Chicken Cuplet (ทอดมันไก่ 145 บาท) Fish Tikka (ปลาย่างแขก 165 บาท)แต่ตอนนี้ “ผู้จัดการตระเวนกิน” ต้องขอตัวไปเดินย่อยอาหารก่อน เพราะอิ่มเหลือเกิน
      
       
*    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    * 
       
 
       
ร้าน Himali Cha Cha ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท 35 (ตรงข้ามเอ็มโพเรี่ยม)เปิดช่วงกลางวันตั้งแต่เวลา 11.00-15.30 น. และช่วงเย็นเวลา 18.00-22.00 น.เปิดทุกวันโทร.0-2258-8846

No comments:

Post a Comment