Monday, January 30, 2012

ลิ้มรสปูขน หนึ่งปีมีหน ที่ "ภัตตาคารเชียงการีลา"

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 พฤศจิกายน 2549 12:16 น.
บรรยากาศโต๊ะนั่งกินอาหารภายในภัตตาคารเชียงการีลา
       "ปูขน"จัดว่าเป็นปูน้ำจืดชนิดหนึ่ง ที่อาศัยอยู่ตามทะเลสาบในประเทศจีน เจริญเติบโตอยู่ในสภาพอากาศหนาว และน้ำที่เย็นจัด ปูขนมีลักษณะพิเศษตรงที่จะมีขนตรงบริเวณก้ามปู และขาปู ยิ่งถ้าตรงบริเวณขาปูมีขนออกสีเหลืองทองอ่อน ถือว่าเป็นปูขนที่สมบูรณ์มากๆ ซึ่งในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคมนี้ ถือว่าเป็นช่วงที่ปูขนมีความอุดมสมบูรณ์ และเหมาะแก่การลิ้มรสเป็นที่สุด
      
       ที่ "ภัตตาคารจีนเชียงกรีลา" ตรงเยาวราช ในทุกๆ ปีจะจัด"เทศกาลปูขน" ขึ้นเพื่อเอาใจคอกินปูขน ในปีนี้จัดตั้งแต่วันนี้ไปถึงประมาณปลายเดือนธันวาคม ซึ่ง"ผู้จัดการตระเวนกิน" เองในปีนี้ก็ได้มีโอกาสมาลองลิ้มรสชาติปูขนที่นี่กับเขาด้วย
ปูขนนึ่ง เสิร์ฟพร้อมน้ำขิงร้อนๆ
       สำหรับปูขนของที่นี่ เขาสั่งปูขนคัดขนาดส่งตรงมาจากเซี่ยงไฮ้ประเทศจีน มาแบบยังเป็นๆสดๆ และนิยมนำปูขนมาทำเป็นเมนูปูขนนึ่งเพียงอย่างเดียว เพราะนำไปทำเมนูอย่างอื่นไม่ได้รสชาติปูขนที่ดี สนนราคาปูขนหนึ่งตัว (ตัวไม่ใหญ่มากนัก) ตกตัวละ 250 บาท
      
       การทำเมนูปูขนนึ่งของที่นี่มีกรรมวิธีการนึ่งปูที่พิเศษเฉพาะไม่ เหมือนที่อื่น ตรงที่จะนำปูขนสดๆ มาล้างทำความสะอาด จากนั้นนำไปนึ่งพร้อมกับใบชาจีน เพื่อเป็นการช่วยดับกลิ่นคาวของปู นึ่งประมาณ 15-20 นาทีจนปูสุกกระดองปูกลายเป็นสีส้มๆ ชวนกิน
      
       ปูขนของที่นี่เสิร์ฟมาแบบให้กินง่ายๆ ทางร้านแกะปูมาให้เสร็จสรรพ ก้ามเป็นก้าม และแคะเนื้อปูมาเป็นส่วนๆ แล้วนำมาเรียงเป็นตัวปูใหม่อย่างสวยงาม การกินปูขนส่วนที่อร่อยที่สุดต้องกินตรงมันปู ยิ่งปูตัวผู้มีมันเยอะ มันเยิ้มๆ หอมๆ มัน สุดยอดขอบอก ส่วนไข่ปูก็มันๆ ปากดี และเนื้อปูถึงจะมีไม่มาก แต่ก็รสชาติดีจิ้มกินกับน้ำจิ้มจิ๊กโฉ่วใส่ขิง ตบท้ายการกินปูขน ทางร้านจะเสิร์ฟน้ำขิงร้อนๆ มาให้กินกลั้วคอ เพราะเชื่อว่าปูขนมีฤทธิ์เย็น ต้องแก้ด้วยฤทธิ์ร้อนจากขิง
เนื้อปลาเก๋ามังกรยัดไส้กุ้งเจี๋ยนน้ำมันหอย
       นอกจากเมนูปูขนแล้ว หากมากินอาหารตามปกติก็มีเมนูจีนชวนกินมากมาย อย่าง เนื้อปลาเก๋ามังกรยัดไส้กุ้งเจี๋ยนน้ำมันหอย (ชิ้นละ 80 บาท) เป็นเนื้อกุ้งสับปรุงรส ห่อด้วยเนื้อปลาเก๋าและชุบแป้งทอด แล้วราดด้วยน้ำมันหอยปรุงรส ลิ้มรสปลาเก๋าเนื้อแน่น เคี้ยวเด้งกรอบทั้งเนื้อปลาและเนื้อกุ้ง ออกรสเค็มๆ น้ำมันหอย และมีบล็อกโคลี่ต้มกินตัดความเลี่ยน
      
       หอยเชลล์ออสเตรเลียผัดเต้าซี่ (ตัวละ 200 บาท) หอยเชลล์ออสเตรเลียตัวโตลวกพอสะดุ้ง ผัดกับเครื่องเต้าซี่ปรุงรส ราดด้วยต้นหอม พริกสด หอมใหญ่ และมีคะน้าไต้หวันลวกเสิร์ฟมาด้วย กินเนื้อหอยเชลล์เนื้อนุ่ม เด้งเคี้ยวหนึบ หอมเครื่องผัดเต้าซี่
หอยเชลล์ออสเตรเลียผัดเต้าซี่
       เป๋าฮื้อขาห่าน (ชุดละ 350 บาท) เป๋าฮื้อตัวโต กับขาห่านตุ๋นเครื่องยาจีนจนเปื่อยนุ่ม ใส่ผักกาดแก้ว และมีน้ำแดงที่ได้มาจากซุปหูฉลามเคี่ยวกับไก่แห้งเข้มข้น ลิ้มรสเป๋าฮื้อเคี้ยวกรุบ ขาห่านเปื่อยยุ่ยได้ที่ น้ำแดงออกหวานๆ เค็มๆ หอมกลิ่นสมุนไพรจีนอ่อนๆ
เป๋าฮื้อขาห่าน
       นอกจากนี้ยังมีติ่มซำ (เข่งละ 35บาท ขึ้นไป) มีกว่า 80 ชนิด ให้เลือกกิน หมุนเวียนสลับสับเปลี่ยนกันไปกว่า 45 ชนิดต่อวัน อย่างขนมจีบ ฮะเก๋าหงส์ มี บะหมี่หยกห่อกุ้ง ฮะเก๋าหอยเชลล์ และเมนูอื่นๆ ที่ชวนกินอีก อาทิ หมูหันฮ่องกง (ตัวละ 950 บาท) พระกระโดดกำแพง (โถละ 800 บาท) หอยเชลล์ผัดซอสเอ็กซ์โอ (500 บาท, 950 บาท, 1400 บาท) ปลาเก๋ามังกรหม้อไฟ (ขายตามน้ำหนัก)
      
       เห็นทีว่าหากใครเป็นคอปูขนานแท้ และไม่อยากพลาดการได้ลิ้มรสชาติ “ปูขน” ที่นานทีปีครั้งจะมีมาให้กิน ก็ต้องหาต้องรีบหาโอกาสไปลองลิ้มกันให้จงได้
      
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
     

No comments:

Post a Comment