Monday, January 23, 2012

สเต็กเนื้อนุ่ม ชุ่มด้วยน้ำซอส ที่ “สเต็ก ฮันเตอร์”

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 สิงหาคม 2547 15:36 น.
บรรยากาศภายในร้าน “สเต็ก ฮันเตอร์”
       เวลาพูดถึง “สเต็ก” ขึ้นมาทีไร ภาพของเนื้อสเต็ก (เนื้อวัว หรือเนื้อหมู) ชิ้นโต ราดด้วยน้ำซอสฉ่ำๆ ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนเตะจมูก มันช่างยั่วน้ำลายสอปากเป็นยิ่งนัก
      
       เดี๋ยวนี้นะสเต็กหากินง่ายจะตายไป ไม่จำเป็นต้องไปกินตามโรงแรมหรูๆ หรือร้านอาหารแพงๆ ที่ขายสเต็กกันอีกแล้ว ตามร้านเล็กๆ ทั่วไปก็เริ่มมีสเต็กออกมาขายเป็นเมนูจานเด็ดกันมากมาย แถมสนนราคาก็ไม่แพงเรียกว่ากินได้อิ่มท้องสบายเงินในกระเป๋ากันละ
Pepper Steak
       เหมือนอย่างเช่นมื้อนี้ “ผู้จัดการตระเวนกิน” มีร้านสเต็กมาแนะนำ เอาใจคนชอบกินสเต็กกันสักหน่อย สเต็กร้านนี้มีชื่อว่า “สเต็ก ฮันเตอร์” (Steak Hunter) เป็นร้านสเต็กเทรนด์ใหม่ ที่ผสมผสานความเป็นตะวันตกและตะวันออกเข้ากันได้อย่างลงตัว กลายมาเป็นสเต็กจานโปรดที่มีรสชาติถูกลิ้นคนไทยอย่างเราดี และเรื่องราคาก็ไม่ต้องเป็นห่วงคนไทยทำขายคนไทย ราคาย่อมเยาสมเหตุสมผลกับตัวอาหารดี
      
       และรูปแบบของสเต็ก ฮันเตอร์นี้ เขามีความแปลกไม่เหมือนสเต็กที่ไหนๆ เนื้อสเต็กของเขาจะเป็นสเต็กที่มีรสชาติในตัวเองไม่ว่าจะเป็นแบบเผ็ดหรือว่า ไม่เผ็ด และมีความหอม นุ่ม น่ากิน เพราะว่าเขาจะหมักและปรุงรสชาติที่ตัวเนื้อด้วยเครื่องเทศสูตรเฉพาะของทาง ร้าน หมักนานกว่า 20 นาที ให้เครื่องปรุงเหล่านี้แทรกซึมเข้าไปในตัวเนื้อ และอีกหนึ่งความพิเศษที่ไม่เหมือนใคร คือเนื้อสเต็กของที่นี่จะใช้วิธีนำเนื้อไปย่างบนเปลวไฟ Flamebroiled ที่ใช้ความร้อนสูงถึง 650 ฟาเรนไฮท์ ในการย่าง ทำให้เนื้อที่ย่างออกมามีความนุ่มฉ่ำ ไม่เหนียว ส่วนน้ำซอสที่ราดบนตัวสเต็ก เขาก็มีน้ำซอสให้เลือกหลากหลายทั้งแบบไทย และแบบเทศกว่า 9 ชนิด ราดมาบนตัวสเต็กที่กินแล้วเข้ากั๊น เข้ากัน
Triple Steak
       ถึงตรงนี้หลายคนอาจจะแอบเช็ดน้ำลายที่มุมปาก ชักเริ่มอยากรู้แล้วใช่ไหมละว่ามีสเต็กอะไรน่ากินบ้าง เอาเป็นว่าตาม “ผู้จัดการตระเวนกิน” ไปดูกันเลยดีกว่า
      
       อย่างจานแรกเป็นจานเด่นของที่นี่ Pepper Steak (109 บาท) เป็นสเต็กเนื้อ เนื้อวัวชิ้นโตๆ ตรงส่วนสะโพกไม่มีมัน ราดด้วยน้ำซอสเปปเปอร์หอมกลิ่นเครื่องเทศพริกไทย เสิร์ฟพร้อมกับเส้นสปาเก็ตตี้ผัดซอส เนื้อสเต็กเหนียวนุ่มชุ่มกำลังดี เคี้ยวหนึบได้รสชาติเผ็ดในตัว และเผ็ดจากน้ำซอสเปปเปอร์ที่ราดมา กินกับเส้นสปาเก็ตตี้ก็เข้ากัน
Lemon Delight
       Triple Steak (89 บาท) เป็นสเต็กอีกจานที่ขายดี สเต็กปลา ที่ใช้เนื้อปลาสร้อยทะเลคลุกกับเกล็ดขนมปังทอดจนกรอบเสิร์ฟคู่กับข้าวที่ผัด กับเนย แถมมีซอสให้เลือกจิ้มกินตั้ง 3 อย่าง ทั้ง ซอสเทราซัน ทาร์ทาร์ และทริปเปิ้ลซอส (ซอส 3 รส) เนื้อปลานั้นกรอบนอกนุ่มใน กินกับข้าวมันที่หอมเนย จิ้มกับซอสที่ให้มา รสชาติเด็ดแปลกใหม่ลิ้นดี
      
       Lemon Delight (99 บาท) อีกหนึ่งสเต็กปลา ที่ใช้ปลาสร้อยทะเลสดๆ แล่เป็นชิ้นขนาดกำลังดีทอดจนพอสุก และราดด้วยเลมอนซอส เสิร์ฟคู่กับสปาเกตตี้ผัดซอส สเต็กปลาจานนี้ถูกใจคนชอบเปรี้ยวกันละ เพราะน้ำซอสเลมอนนั้นออกเปรี้ยวเข้มข้นเข้ากับเนื้อปลาที่สดหวาน
      
       Grill Pork (99 บาท) สเต็กหมู ที่ใช้เนื้อตรงส่วนสันคอหมูย่าง แล้วราดด้วยน้ำซอสสะเต๊ะ รสออกแนวอินเดียหน่อย โรยหน้าด้วยอาจาดอีกที รสชาติหมูเนื้อนุ่มติดมันหน่อยๆ ออกหวานนิดๆ จากซอสสะเต๊ะ และมีอาจาดกินแก้เลี่ยน
Grill Pork
       Pork Chop Brown Sauce (119 บาท) เป็นสเต็กหมูชุบแป้งสาลีทอด ราดด้วยบราวน์ซอส มีหอมเจียวโรยหน้า เนื้อหมูชุบแป้งกรอบนอก แต่เนื้อในหมูนุ่มกำลังดี น้ำซอสออกหวานๆ เค็มๆ กินคู่กับสปาเก็ตตี้ผัดซอสก็เข้ากันดีไปอีกแบบ
      
       เมนูสเต็กทั้ง 5 เมนูนี้เป็นแค่เศษเสี้ยวของรายการที่เราได้นำเสนอ เพราะถ้าใครได้มาเปิดเมนูสั่งกินเองจะรู้ว่ายังมีอีกหลายเมนูทั้งสเต็ก ยำ สลัด อาหารว่าง หรือจะเป็นขนมหวานทั้งไทยและเทศ และเครื่องดื่มอีกสารพัด ที่ “สเต็ก ฮันเตอร์” เขามีให้เลือกกิน ชนิดอิ่มกันจนพุงกาง จะสงสารก็แต่พุงบางๆ ที่จะกางออกจนเกือบแตก เหมือนที่ “ผู้จัดการตระเวนกิน” เป็นอยู่ตอนนี้หลังจากที่มากินสเต็ก ที่ “สเต็ก ฮันเตอร์” แห่งนี้
      
       
       *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    * 
       

       

       
สเต็ก ฮันเตอร์ ตั้งอยู่ที่บิ๊กซี ราชดำริ ชั้น 4 ตรงส่วนของโซนอาหาร เปิดทุกวันตั้งแต่ 10.00-22.00 น. โทร. 0-2250-4793 และมีอีก 4 สาขา คือ  มาบุญครอง ชั้น 7 โทร.0-2611-7169, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ชั้นใต้ดิน โซนโรบินสัน โทร. 0-2958-5858, เมเจอร์ รัชโยธิน ชั้น 2 โทร. 0-2511-5800, โลตัส จรัญสนิทวงศ์ ชั้น1 โทร. 0-2434-7180

No comments:

Post a Comment