Tuesday, January 24, 2012

"แพสามพราน" อาหารพื้นบ้านรสเด็ด

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 กรกฎาคม 2548 11:58 น.
บรรยากาศภายใน "แพสามพราน" นั่งกินอาหารบนเรือนแพริมแม่น้ำท่าจีน
       บางครั้งการที่จะคิดออกไปกินอาหารนอกบ้านสักมื้อ นอกจากจะเลือกร้านที่มีเมนูอาหารรสชาติโดนใจโดนปากแล้ว เรื่องของบรรยากาศก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เราตัดสินใจว่ามื้อนี้จะไป กินที่ร้านไหนดี
โต๊ะนั่งติดริมน้ำ บรรยากาศชวนนั่ง
       สำหรับ "ผู้จัดการตระเวนกิน" แล้วในมื้อนี้ เรามีร้านอาหารที่ตอบโจทย์ของเราได้ทั้ง 2 อย่าง คือเรื่องของรสชาติอาหารที่ถูกปาก และบรรยากาศก็ถูกใจ คือ ที่ "แพสามพราน" ตั้งอยู่ในตัวโรงแรมโรสกาเด้น (สวนสามพราน) จ.นครปฐมนี่เอง
ยำยอดน้ำ
       ที่ "แพสามพราน" แห่งนี้เป็นร้านอาหารที่มีลักษณะเป็นเรือนแพไม้ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน พื้นที่กว้างขวางดูไม่อึดอัด แถมมีนักดนตรีเล่นกีตาร์ขับกล่อมบทเพลงเพราะๆ ให้ฟังอีกด้วย (เล่นทุกวันเวลา 18.30-21.00 น.) หรือถ้าอยากจะร้องคาราโอเกะก็มีให้ร้องเหมือนกัน เรียกว่ามานั่งกินอาหารที่นี่ได้ชมวิวแม่น้ำรับลมเย็นๆ ธรรมชาติอย่างสบายอารมณ์
      
       และสำหรับเมนูอาหารของที่นี่มีมากมายหลายรายการ ส่วนใหญ่เป็นเมนูอาหารไทยพื้นบ้าน และเมนูปลาน้ำจืด ที่มีให้เลือกมากว่า 40 รายการ งานนี้เราเลยเลือกไม่ถูกว่าจะกินเมนูอะไร เพราะล้วนแล้วแต่น่ากินไปหมด เลยต้องขอให้ทางร้านช่วยแนะนำเมนูเด็ดมาชิมกัน
      
       เมนูแรกที่แนะนำมาเป็น ยำยอดน้ำ (70 บาท) ชื่อออกจะฟังไม่คุ้นหู แต่ที่จริงแล้วก็คือยำผักบุ้งนั่นเอง เป็นผักบุ้งแม่น้ำนำมาชุบแป้งทอดจนกรอบ ราดมาด้วยน้ำยำออกข้นนิดหน่อย และก็มีพริกทอดโรยหน้ามา ยำจานนี้กินเป็นกับแกล้มคู่เบียร์เย็นๆ ก็เข้าท่า ส่วนถ้ากินกับข้าวร้อนๆ ก็เข้าที รสชาติเด่นตรงน้ำยำออกเปรี้ยวอมหวานนิดๆ และมีรสเผ็ดแซมนิดหน่อย ส่วนผักบุ้งถึงจะโดนน้ำยำแต่ก็ยังคงความกรอบและอุ้มน้ำยำได้รสชาติเข้าลิ้น ดี
เนื้อเค็มต้มกะทิ
       น้ำพริกไข่ปู (120 บาท) ถูกส่งตามมาติดๆ เป็นน้ำพริกที่ใช้ไข่เค็มและเนื้อปูตำรวมกันออกมาเป็นน้ำพริกที่มีรสชาติจัด จ้าน เผ็ดลิ้นถึงเครื่องน้ำพริก ออกรสเปรี้ยว ส่วนไข่เค็มและเนื้อปูนั้นเวลาเคี้ยวจะเค็มๆมันๆ กินกับผักที่เสิร์ฟเคียงคู่มา เพลินปากนัก นอกจากจะมีผักสดแล้วน้ำพริกถ้วยนี้ ยังมีความพิเศษตรงที่มีดอกไม้ที่นำมาทอดกรอบให้กินคู่กัน อย่าง ดอกเข็มทอด เล็บครุฑทอด อีกด้วย
      
       ตามต่อกันด้วย เนื้อเค็มต้มกะทิ (100 บาท) ขอบอกว่าคนชอบกินเนื้อไม่ควรพลาด เพราะเป็นการนำเอาเนื้อแดดเดียวมาต้มกับกะทิ ที่ผสมกับเครื่องแกงสูตรเด็ดของทางร้าน ออกแนวแกงกะทิข้นๆ รสชาตินั้นขอบอกว่าเด่นตรงที่เนื้อเค็มนุ่มเหนียวได้ที่รสชาติกลมกล่อมเข้า กับน้ำกะทิที่ออกหวานหอมมัน คลุกกินกับข้าวสวยร้อนๆ เด็ดสะระตี่ทีเดียว
      
       ปลาเกยตื้น (180 บาท) เมนูปลาตัวเด่นของทางร้านชื่อเก๋ซะไม่มี เป็นปลาทับทิมสดๆ ตัวโต (หรือจะเลือกเป็นปลากะพง ปลาช่อนก็ได้) ชุปแป้งทอดจนปลาเหลืองกรอบ แล้วหั่นมาเป็นชิ้นๆ มีเครื่องน้ำยำเหมือนเครื่องเมี่ยงคำ ราดมาบนตัวปลา มีพริกทอดและเม็ดมะม่วงหิมพานต์โรยหน้าอีกที กินเมนูปลาจานนี้แล้ว เหมือนได้กินสมุนไพรด้วยจากตัวน้ำยำที่เป็นเครื่องเมี่ยง ส่วนรสชาตินั้นเด่นตรงที่เนื้อปลาทับทิมเนื้อนุ่มหวาน กรอบ และน้ำยำออกรสหวานนำ เผ็ดกำลังดีไม่ถึงกับเผ็ดมาก
แกงส้มหลดบัวกุ้ง
       ส่งท้ายมื้ออิ่มด้วยเมนูน้ำๆ ซดคล่องคอกับ แกงส้มหลดบัวกุ้ง (100 บาท) เสิร์ฟมาเป็นหม้อไฟ ร้อนๆ ดูแล้วก็เหมือนแกงส้มกุ้งธรรมดาๆ ทั่วไป แต่ความโดดเด่นของแกงส้มเมนูนี้มันอยู่ตรงที่ หลดบัวกุ้ง (หรือไหลบัว) ที่เคี้ยวกรอบกรุบๆ เข้ากันดีกับน้ำแกงส้มนั้นที่รสเข้มข้นเปรี้ยว เผ็ด ถึงเครื่องแกง
      
       ถึงแม้ว่า "ผู้จัดการตระเวนกิน" จะปิดมื้ออิ่มด้วยเมนูทั้ง 5 อย่างนี้ แล้ว แต่ทางร้านยังแนะนำว่า ที่นี่ยังมีเมนูเด็ดอย่างอื่นอีกเพียบไม่ว่าจะเป็น ปลากะพงแช่น้ำปลา (220 บาท) ปลาคังลวกจิ้ม (180 บาท) ปลากดผัดฉ่า (200 บาท) แกงส้มปลาช่อนชะอมทอด( 180 บาท) ยำเนื้อมะเขืออ่อน (70 บาท) และอีกสารพัดเมนู
      
       สำหรับที่อยากกินอาหารพื้นบ้าน พร้อมๆ กับดื่มด่ำบรรยากาศริมแม่น้ำท่าจีน "แพสามพราน" นับเป็นหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย

No comments:

Post a Comment