Saturday, January 14, 2012

“เมียงกา” ร้านนี้มีชื่อเสียง อาหารเกาหลีรสต้นตำรับ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 สิงหาคม 2554 16:01 น. 
บรรยากาศโต๊ะนั่งชั้นล่างร้านเมียงกา
       “มา ชิส ซอ โย” เป็นภาษาเกาหลี แปลว่า “อร่อย”
      
       “ตระเวนกิน” ต้องขอเอ่ยปากชมเป็นภาษาเกาหลี ก็เพราะว่าในมื้อนี้เราได้มาอิ่มอร่อยกับอาหารเกาหลีรสชาติดีอันถูกปากยังร้านที่มีชื่อว่า “เมียงกา” (Myeong Ga) เป็นภาษาเกาหลี แปลว่า “ร้านที่มีชื่อเสียง” ซึ่งตั้งอยู่ตรงโคเรียนทาวน์ (สุขุมวิทพลาซ่า) ซ.สุขุมวิท 12
ห้องส่วนตัวตกแต่งสไตล์เกาหลี
       “เมียงกา” เป็นร้านอาหารเกาหลีขนานแท้จริงๆ ที่เปิดให้บริการความอร่อยมานานกว่า 5 ปีแล้ว มีเจ้าของเป็นคนเกาหลีชื่อคุณ Dae-Sook Yoon เป็น ผู้หญิงที่น่ารัก ยิ้มแย้มแจ่มใส บริการลูกค้าด้วยมิตรไมตรี และเธอก็ยังเป็นแม่ครัวฝีมือเอกที่ลงมือปรุงอาหารเกาหลีหลากหลายเมนูที่มี ขายอยู่ที่ร้านด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นสูตรแบบต้นตำรับเกาหลีขนานแท้ อีกทั้งวัตถุดิบส่วนใหญ่ก็ต้องส่งตรงมาจากประเทศเกาหลี และเลือกสรรคัดแต่วัตถุดิบที่ดี มีคุณภาพเพื่อนำมาปรุงเป็นเมนูเกาหลีที่ชวนลิ้มรสมากมาย
พันชัง
       อย่างถ้ามาถึงร้านเมียงกาแล้วก็มีเมนูเกาหลีหลายอย่างที่อยากแนะนำ ให้ได้ลองลิ้มรสกัน โดยก่อนอื่นที่เราจะได้สั่งเมนูจานเด็ดมาชิมกันนั้น ถือว่าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันเลยก็ว่าได้ ที่ว่าเมื่อเราเข้านั่งที่โต๊ะเรียบร้อยแล้วทางร้านก็จะเสิร์ฟเครื่องเคียง หรือที่เรียกว่า พันชัง ให้ทุกโต๊ะก่อนเลย ซึ่งเครื่องเคียงที่ว่านี้ก็คืออาหารจานเล็กๆ ที่ทางร้านจะนำมาเสิร์ฟประมาณ 8 อย่าง โดยจะมีเมนูหลากหลายหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันไปในแต่ละวัน อาทิ กิมจิหัวไชเท้า แตงกวาดอง เห็ดนางฟ้าปรุงรสน้ำมันงา ไข่ตุ๋น ถั่วลิสงต้มน้ำตาล ผักขม ยำมะเขือยาว ซูกินีกับมันฝรั่งชุบแป้งทอด ซึ่งเครื่องเคียงพวกนี้สามารถเติมได้ด้วย
กิมชีจิแข่
       เอาล่ะจากนั้นก็สั่งอาหารเกาหลีจานหลักมากินกันดีกว่า มีเมนูจานเด่นที่ชวนลิ้มรสอยู่หลายอย่าง อย่างแรกที่อยากแนะนำ คือ กิมชีจิแข่ (Kim Chi Chi Gae) (200 บาท) เป็นซุปผักดองแบบเกาหลี ปรุงรสด้วยหมู 3 ชั้น เต้าหู้ขาว หัวหอมใหญ่ เสิร์ฟมาในหม้อร้อนๆ พร้อมกับข้าวหอมมะลิ กินซุปกิมจิหอมๆ ซดน้ำร้อนๆ ชุ่มชื่นโล่งคอ และออกรสเข้มข้นกลมกล่อมมากๆ กินคู่กับข้าวสวยเม็ดนุ่ม อร่อยได้ใจจริงๆ
โดลซดบีบิมบับ
       เมนูต่อมา คือ โดลซดบีบิมบับ (Dol Sot Bi Bim Bab) (220 บาท) ที่ยกเสิร์ฟกันมาแบบเป็นชามหินร้อนๆ ข้างในมีข้าวสวยคลุกกับน้ำมันงา และมีสารพัดเครื่องใส่โรยหน้ามามีทั้ง ถั่วงอกยำ เห็ดหอมผัด กิมจิผัด หมูผัดปรุงรส ผักขมยำ มะละกอ ไข่ขาว และไข่แดงดิบ และมีโคชูจัง (น้ำพริกเกาหลี) มาให้ด้วย เวลากินให้เอาโคชูจังใส่ลงไปในชามและคลุกเคล้าเครื่องทุกอย่างให้เข้ากัน ลิ้มรสข้าวเม็ดนุ่มเคี้ยวนิ่มเข้ากับเครื่องทุกอย่างที่ใส่มาได้รสชาติโคชู จังที่เข้ากันได้อย่างกลมกลืน
พาจ็อน
       ตามมาติดๆ ด้วยเมนูนี้ พาจ็อน (Pa Jun) (280 บาท) หรือที่เรียกว่าพิซซ่าเกาหลี เพราะมีลักษณะกลมๆ เหมือนพิซซ่า แต่ว่าเป็นแป้งหมักสูตรพิเศษ ใส่กุ้ง หมึก และใส่ต้นหอมเยอะมากๆ ชิมแล้วก็ถูกปากดีกับแป้งนุ่มๆ ได้รสชาติกุ้ง หมึก และต้นหอมที่ลงตัวเข้ากัน และจิ้มกินกับน้ำจิ้มซอสถั่วเหลืองที่ผสมกับน้ำส้มสายชูนิดหน่อย เพิ่มรสชาติไปอีกแบบ
แดจิคัลบี
       หลังจากได้กินเมนูจานเดียวกันแล้ว คราวนี้มากินเมนูสไตล์ปิ้งย่างแบบเกาหลีกันบ้าง ซึ่งที่นี่มีเนื้อให้เลือกสั่งมาย่างอยู่หลายแบบ อย่างที่อยากนำเสนอก็มี แดจิคัลบี (Green tea Gal-bi) (300 บาท) เป็นเนื้อหมูส่วนซี่โครงหมักกับเครื่องเทศและโคชูจังนานกว่า 1 วัน ก่อนจะนำมาให้ย่างบนเตาถ่านร้อนๆ และยังมีผักสดมาให้ห่อกิน มีพริกกับกระเทียมมาให้ย่างกินด้วย และมาพร้อมกับน้ำจิ้มที่ให้เลือกกินถึง 3 แบบ คือ มีน้ำจิ้มน้ำมันงาผสมกับเกลือและพริกไทย มีน้ำจิ้มซอสถั่วเหลือง และน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวที่ทางร้านปรุงขึ้นมาเป็นพิเศษ
      
       ย่างหมูบนเตาร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมๆ พอหมูสุกกำลังพอดี คีบชิ้นเนื้อหมูส่งเข้าปากเคี้ยวนุ่มได้รสชาติเครื่องหมักถูกปากดี หรือจะจิ้มกินกับน้ำจิ้มตามรสที่ชอบ และห่อกินกับผักยิ่งอร่อยเข้าไปใหญ่
ยังเนียมคัลบี
       ยังมีเนื้อที่น่าสั่งมาย่างอีก คือ ยังเนียมคัลบี (Yang-nyum Gal Bi) (450 บาท) เป็นเนื้อวัวส่วนซี่โครงที่ทางร้านนำมาหมักกับเครื่องปรุง เครื่องเทศเกาหลี และผักตามสูตรเด็ดของทางร้าน หมักนานกว่า 1 วัน เนื้อจะถูกเสิร์ฟมาแบบม้วนห่อมาเป็นก้อน เวลาย่างก็คลี่เนื้อออกมาย่างบนเตา ย่างจนสุกได้ที่ทางร้านจะมีกรรไกรไว้ให้ตัดเนื้อออกเป็นชิ้นๆ พอดีคำ ลิ้มรสเนื้อเคี้ยวนุ่มหนึบหนับปาก ได้รสชาติเครื่องหมักกลมกล่อมถูกใจคนกินเนื้อจริงๆ
แอลเอคัลบี
       และก็มีเนื้อวัวอีกอย่างที่น่ากิน คือ แอลเอคัลบี (L.A Gal-bi) (450 บาท) เป็นเนื้อวัวส่วนติดซี่โครง ที่แล่มาเป็นชิ้นยาวๆ และหมักกับเครื่องเทศเครื่องปรุงเหมือนเนื้อตัวอื่นๆ ซึ่งหมักนานถึง 1 วันเช่นกัน กินเนื้อแล้วก็ต้องบอกว่าเนื้อนุ่มลิ้นมากๆ ไม่เหนียวเลย
เต็มอิ่มกับเมนูปิ้งย่าง
       ในมื้อนี้เราก็ได้เลือกอิ่มกับอาหารเกาหลีไปหลายเมนูแล้ว แต่ก็ยังเห็นว่าในเมนูอาหารมีอาหารจานอื่นอีกหลายอย่างที่น่าลองลิ้ม อาทิ Sam Gae Tang (ซุปไก่) (300 บาท) Dak Bul Go Gi (ไก่หมึกย่างสไตล์เกาหลี) (280 บาท) Jab-Chae (ผัดวุ้นเส้นเกาหลี) (350 บาท) Ddok Bok ki (ด็อกโบคกิ) (200 บาท) และอีกสารพัดอาหารเกาหลีที่ล้วนแล้วแต่น่าลองลิ้มทั้งนั้นเลย
ย่างเนื้อร้อนๆ บนเตาถ่าน
       เรียกว่าหากใครที่เป็นสาวกเกาหลี และชื่นชอบอาหารเกาหลี ก็อยากจะเชิญชวนให้มาที่ร้าน “เมียงกา” แห่งนี้กันดูเพราะจะได้ลิ้มรสชาติอาหารเกาหลีแบบต้นตำรับขนาดแท้ที่ถูกปากคนไทยอย่างแน่นอน
บรรยากาศโต๊ะนั่งชั้น 2
 “เมียงกา” (Myeong Ga) ตั้งอยู่ที่ 212/16 ชั้น 1 สุขุมวิทพลาซ่า ซ.สุขุมวิท 12 ถ. สุขุมวิท คลองเตย คลองเตย กทม. การเดินทางจากถ.สุขุมวิท มุ่งหน้ามาที่ซ.สุขุมวิท 12 สุขุมวิทพลาซ่า (โคเรียนทาวน์) และตรงเข้ามาในสุขุมวิทพลาซ่าบริเวณชั้น 1 จะเห็นร้านเมียงกาตั้งอยู่มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน จอดรถได้ที่บริเวณลานจอดรถของสุขุมวิทพลาซ่า ร้านเปิดทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น. แต่ทุกวันจันทร์เปิด 16.00 น. ถ้ามากินแนะนำว่าควรโทร.มาจองโต๊ะก่อนจะดี และทางร้านรับจัดงานเลี้ยงด้วยโทร. 0-2229-4658, 08-1630-0532

No comments:

Post a Comment