Tuesday, March 27, 2012

ลิ้มลองอาหารเจสไตล์อินเดียที่..รพ.สมิติเวช

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 ตุลาคม 2552 15:17 น.

เชฟแยม
       ตามปกติเวลาไปโรงพาบาลไม่ว่าจะไม่สบายไปหาหมอหรือไปเยี่ยมคนไข้นั้น  ด้วยบรรยากาศในโรงพยาบาลก็ทำให้ไม่อยากกินอาหารอยู่แล้ว
       ด้วยเหตุผลนี้ คุณหมอโชคชัย จารุศิริพัฒน์ ซึ่งเป็นรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมิติเวชสุขุมวิท จึงพยายามจัดบรรยากาศของโรงพยาบาลให้เหมือนบ้านเพื่อให้คนไข้สบายอกสบายใจ เวลาต้องเข้ามารักษาตัว โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกินนั้นคุณหมอจะให้ความสำคัญมาก ๆ ถึงขนาดห้องอาหารของโรงพยาบาลแห่งนี้ต้องจัดโปรโมชั่นเทศกาลอาหารเป็นประจำ ทุกเดือนเหมือนโรงแรมก็ว่าได้ ล่าสุดเพิ่งเสร็จเทศกาลฮ่องกงไปหมาด ๆ พร้อมกับเสียงชื่นชมของทั้งคนไข้และคนมาเยี่ยมว่าอร่อยถูกปาก
       พอเดือนนี้เข้าหน้าเจ คุณหมอโชคชัยเลยปิ๊งไอเดียทำอาหารแขกซึ่งปกติก็เป็น Vegetarian คือเน้นผักอยู่แล้ว แต่การกินผักของชาวอินเดียก็ยังมี “เจผัก” ซึ่งละม้ายคล้ายเจของคนจีนเช่นกัน งานนี้ได้เชฟแยม ลาล เคนดาล จากร้าน อินเดียน โฮสต์ โรงแรมแกรนด์เมอร์เคียว ปาร์คอเวนิว ซึ่งได้รางวัล “ร้านอาหารอินเดียยอดเยี่ยมในประเทศไทยประจำปี 2552” โดยนิตยสาร Thailand Tatler
       

ซาโมซ่าไส้ผัก
       เชฟแยมเคยอยู่โรงแรมระดับห้าดาวมาหลายแห่ง แล้ว นอกจากสามารถปรุงอาหารได้หลากชนิดในตำรับมูฆัลอาหารอินเดียตอนเหนือแบบดั้ง เดิม ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเครื่องเสวยของพระราชาในอดีต รวมถึงเมนูแกงอินเดียโบราณและอาหารจานเนื้ออย่างทันดูริ และอาหารจานผักซึ่งอาหารเจและอาหารเจน(Jain)ถือเป็นอาหารมังสวิรัติที่เคร่ง ครัดของคนอินเดียที่จะไม่กินผักหัว เช่น มันฝรั่ง กระเทียม หัวหอม แครอท หัวไชเท้า มันสำปะหลัง มันเทศ และอื่นๆ นอกจากนี้ ยังสามารถแสดงฝีมือในการผสมผสานเทคนิคการปรุงอาหารของจีนและอินเดียเข้าด้วย กันได้อย่างดีอีกด้วย
       ในเทศกาลนี้เชฟแยมได้เลือกเมนูสำหรับเทศกาลเจ 3 จานด้วยกัน ซึ่งเป็นเมนูอาหารอินเดียทางเหนือที่มีรสชาติเข้มข้นแต่ไม่เผ็ดเท่ากับ อินเดียทางใต้ และเลือกวัตถุดิบที่เป็นข้อห้ามของอาหารเจอีกด้วย
       เมนูแรกเป็นอาหารทานว่างที่ขึ้นชื่อของอินเดียคือ ซาโมซ่าไส้ผัก (Vegetable Samosa) และน้ำจิ้มที่ทำจากใบสาระแหน่ (Mint Chutney) ราคา 60 บาท ( 3 ชิ้น )  ซึ่งความโดดเด่นของเมนูนี้คงเป็นผักสดและเครื่องเทศที่สดใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ถั่วลันเตา(Green Pea) มันฝรั่ง(Potato) ขิงสับ(Ginger) ผงมะม่วง(Amcher Powder) พริกเขียวบดละเอียด(Green Chiiles) เมล็ดผักชี(Coriander Seeds) หลังจากผัดทุกอย่างเข้าด้วยกันจนส่งกลิ่นหอมกรุ่น ก็นำมาห่อด้วยแป้งซาโมซ่าแล้วนำไปทอด แก้เลี่ยนด้วยน้ำจิ้มใบสาระแหน่ที่มีกลิ่นหอมผสมเครื่องเทศ
       

ผัดหมี่จีนสไตล์อินเดีย
      
ผัดเปรี้ยวหวานอินเดีย
       อีกเมนูหนึ่งที่พิเศษสำหรับคนรับประทานอาหารเจโดยเฉพาะ ได้แก่ เมนูผัดหมี่จีนสไตล์อินเดีย (Vegetable Hakka Noodles) ราคา 90 บาท เชฟแยมเลือกใช้เส้นหมี่เหลือเจของคนจีน พริกหยวก(Capsican) กะหล่ำปลี(Cabbage) แครอท(Carrot) เกลือ(Salt) พริกไทย(Pepper) ซอสถั่วเหลือง(Soya Sauce) และเครื่องเทศ(Seasoning) ดูไปแล้วหน้าตาอาจจะคล้ายคลึงกับผัดหมี่จีน แต่ด้วยเป็นเชฟแขกจึงผัดรสชาติกระเดียดไปทางแขกที่หอมเครื่องเทศ ทำให้ผัดหมี่จานนี้รสชาติเข้มข้นและแปลกอร่อย
       ปิดท้ายด้วยเมนู ผัดเปรี้ยวหวานอินเดีย (Vegetable Sweet-n- Sauce)  ราคา 110 บาท ซึ่งมีรสชาติและสีสันของผักหลากสี ไม่ว่าจะเป็น ข้าวโพดอ่อน(Babycorn) มะเขือเทศ(tomato) กะหล่ำปลี(Cabbage) บร็อคโคลี่(Broccori) และ Oli-Cucumber เมนูผักจานนี้เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบรสชาติกลมกล่อมและไม่ชอบกลิ่นฉุนของ เครื่องเทศ
       นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารที่ขึ้นชื่อของอินเดียให้เลือกลิ้มลองอีกมาก มายตลอดเดือนตุลาคมนี้ ที่ห้องอาหาร L’Avenue ชั้น G โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท
       

No comments:

Post a Comment