Tuesday, May 22, 2012

อาหารสร้างอาชีพ "โกแบ๋น-บางกร่าง" ก๋วยเตี๋ยวเรือดีลิเวอรี่

อาหารสร้างอาชีพ "โกแบ๋น-บางกร่าง" ก๋วยเตี๋ยวเรือดีลิเวอรี่





ภาพ : ภาพประกอบจากบล็อกแก๊ง




อาหารสร้างอาชีพ "โกแบ๋น-บางกร่าง" ก๋วยเตี๋ยวเรือดีลิเวอรี่
"ของผมเอาเส้นเล็กน้ำ 4 ต่อ 1 เหมือนเดิม"

ชาย ร่างใหญ่เดินเข้าไปใกล้เจ้าของร้าน ซึ่งกำลังสาละวนกับการลวกเส้น ลวกผักอยู่หน้าหม้อน้ำซุปใบใหญ่ แล้วร้องสั่งก๋วยเตี๋ยวเรือ ด้วยถ้อยคำซึ่งเป็นที่เข้าใจความหมายกันดีกับเจ้าของร้าน

"เส้นเล็กน้ำ 4 ต่อ 1 หมายถึง เส้นเล็กน้ำ 4 ชาม ทำเสร็จแล้วเอามารวมเป็นชามเดียวเลย"
"คุณพรชัย อ้นอุ่น" หรือ "โกแบ๋น" หนุ่มใหญ่วัย 47 ปี เจ้าของร้าน "ก๋วยเตี๋ยวเรือ โกแบ๋น-บางกร่าง" เฉลยให้ฟัง พร้อมรอยยิ้ม

ไม่ เพียงลูกค้ารายนี้เท่านั้น ที่สั่งด้วยสูตรนี้ หากแต่ยังคล้ายกันกับลูกค้ารายอื่น ที่เดินเข้ามาในร้าน ซึ่งตั้งอยู่ในซอยหมู่บ้านบัวทอง บนถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี

อาจจะต่างกันเพียงแค่รายอื่นสั่งครั้งละชาม แล้วสั่งเพิ่มอีก หรือบางรายก็สั่งพิเศษ 2 ชามในคราวเดียว

จะ เป็นเพราะว่าก๋วยเตี๋ยวเรือร้านนี้ ชามเล็กก็คงไม่ใช่ เพราะดูจากขนาดและปริมาณแล้ว ก็พอเหมาะกับราคาคือ ชามละ 15 บาท ซึ่งดูแล้วออกจะราคาย่อมเยาด้วยซ้ำไปในยุคสมัยปัจจุบัน

"เท่าที่รู้ ลูกค้าเขาบอกว่า รสชาติอร่อยถูกปาก เลยสั่งครั้งละหลายชาม ไม่ใช่เพราะให้น้อยหรอก"

โก แบ๋นตอบยิ้มๆ เมื่อถูกตั้งคำถาม พร้อมกับเล่าต่อว่า ส่วนหนึ่งมาจากสูตรเฉพาะของน้ำซุปที่ได้มาจากเพื่อนรักชาวบ้านแพน อยุธยา ซึ่งทำให้มี "ก๋วยเตี๋ยวเรือ โกแบ๋น-บางกร่าง" มาจนทุกวันนี้

"โก แบ๋นเป็นคนบางกร่าง นนทบุรี เป็นลูกชาวสวนมาแต่เกิดเลยแหละ มีพี่น้องกัน 5 คน เราเป็นคนที่ 4 พอจบ ม.6 ที่โรงเรียนวัดเขมาฯ พ่อแม่ก็ส่งไปเรียนต่อที่เทคนิคกำแพงเพชร จนจบอนุปริญญาช่างไฟ"

โกแบ๋น เริ่มต้นเล่าประวัติตัวเอง ถึงที่มาของชื่อร้าน "บางกร่าง" อันเป็นภูมิลำเนาเดิม

"พอ เรียนจบอนุปริญญาก็พอดีติดทหาร ติด 2 ปีปลดประจำการ ก็คิดแล้วว่า จะหางานทำ แต่ไม่คิดทำสวนแล้วนะ เพราะรู้สึกว่า ถ้าทำสวนต่อไปถ้ามีครอบครัวคงไม่น่าพอกินพอใช้แน่ๆ เพราะเห็นมาตลอดแล้ว"

อาชีพชาวสวนมังคุด สวนทุเรียน ซึ่งเก็บผลผลิตขายปีละครั้ง โกแบ๋นเห็นว่ารายได้น้อยเกินไป

นั่น จึงเป็นสาเหตุให้โกแบ๋นตัดสินใจสมัครทำงาน ในตำแหน่งพนักงานรักษาความปลอดภัย หรือ รปภ. ที่โรงงานผลิตรถจักรยานยนต์แห่งหนึ่ง แถบเสนานิคม เขตลาดพร้าว

"เป็น รปภ. ได้ไม่กี่เดือน ที่บ้านแฟนที่เขาทำข้าวหมูแดงขาย เขาก็ชวนไปอยู่ด้วย เราก็เลยเริ่มต้นเป็นพ่อค้าตั้งแต่นั้นมา ไปช่วยทำช่วยขายข้าวหมูแดงที่บ้านแฟน จนทำเองได้ถนัด ก็ย้ายออกมาทำขายเอง"

ร้าน ข้าวหมูแดงของโกแบ๋น ในคราวแรกเป็นเพียงรถเข็นที่ช่วยกันขายกับภรรยา บริเวณหน้าตลาดสดนนทบุรี ซึ่งขายอยู่ประมาณ 2 ปี จนกระทั่งมีลูกคนแรก

"พอ มีลูกคนแรกก็เริ่มมีปัญหาเรื่องที่ขายของ สุดท้ายก็ต้องเลิกขาย พอดีกับได้เจอเพื่อนเก่าคนบ้านแพน อยุธยา น้องสาวเขาทำก๋วยเตี๋ยวเรือขายอยู่แถวบางกะปิ เขาก็แนะนำว่า ถ้าอยากทำเขาจะสอนให้"

ในที่สุด โกแบ๋นจึงตัดสินใจเปลี่ยนจากขายข้าวหมูแดง มาเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือ นับแต่นั้น

โก แบ๋น เล่าว่า หลังจากได้สูตรมาจากน้องสาวของเพื่อนแล้ว ก็เริ่มต้นโดยการเช่าที่แถวบ้านเกิด เปิดเป็นร้านเล็กๆ ประมาณ 5-6 โต๊ะ และใช้ชื่อว่า "ก๋วยเตี๋ยวเรือบางกร่าง"

หลังจากนั้นก็ย้ายที่ขายอีก 2-3 ครั้ง จนกระทั่งในที่สุด ตัดสินใจปักหลักด้วยการซื้อตึกแถวแถบถนนบางกรวย-ไทรน้อย เปิดเป็นร้าน "ก๋วยเตี๋ยวเรือบางกร่าง" อย่างเป็นทางการ

"10 กว่าปีก่อนถนนยังไม่ตัดผ่านขนาดนี้ ตอนนั้นที่ตั้งร้านเป็นเส้นที่รถต้องวิ่งผ่าน เป็นทำเลทองเลยแหละ ตอนเที่ยงๆ หรือวันเสาร์-อาทิตย์ รถลูกค้าที่ร้านจอดยาวเป็นกิโลเลยนะ"

โก แบ๋น ย้อนรำลึกอดีตให้ฟังด้วยความภูมิใจ พร้อมกับเล่าต่อว่า ที่ร้านนี่เองที่ทำให้พบลูกค้าคนสำคัญนั่นคือ "อี๊ด ฟุตบาท" ศิลปินเพื่อชีวิตชื่อดัง

"ไม่รู้เหมือนกันว่า บ้านพี่อี๊ดอยู่ที่ไหน แต่แกไปกินที่ร้านบ่อยมาก เป็นลูกค้าประจำ จนกระทั่ง โกแบ๋นแยกทางกับแฟน ก็ยกร้านให้แฟน แล้วตัวเราก็ย้ายไปอยู่โคราชพักหนึ่ง"

หลังจากแยกทาง กับภรรยา เขาไปเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวเรือ ที่จังหวัดนครราชสีมาอยู่ระยะหนึ่ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จด้วยเหตุผลของรสชาติ ที่โกแบ๋นสันนิษฐานว่า น่าจะไม่ถูกปากคนโคราช

ในที่สุดจึงตัดสินใจกลับมาเปิดร้านที่ กรุงเทพฯ-ปริมณฑลอีกครั้ง แถบสะพานพระนั่งเกล้า และย้ายร้านอยู่ 2-3 ครั้ง จนในที่สุดจึงมาปักหลักอยู่ที่ซอยหมู่บ้านบัวทอง ที่ตั้งร้านในปัจจุบัน

"ร้าน นี้ ก็ลูกค้าคนหนึ่งแหละ เขาอยู่แถวนี้ ตอนจะย้ายร้านครั้งล่าสุดเมื่อ 10 ปีก่อน เขาบอกว่า มีที่แถวบ้านให้เช่า เรามาดูก็ถูกใจ เพราะหันไปทางทิศตะวันออก ตอนบ่ายไม่ร้อน เช่าครั้งแรกก็ 3,500"

โก แบ๋น ยังเล่าว่า ลูกค้าเคยสัพยอกว่า ที่อยากให้มาขายแถวนี้เพราะจะได้กินได้ทุกวัน โดยไม่ต้องขับรถไปไกล และลูกค้าประจำเก่าๆ หลายราย เมื่อทราบว่า มาขายอยู่แถวนี้ ก็ยังตามมาเป็นลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

"พี่อี๊ด ก็มาเจอเราที่นี่ด้วยความบังเอิญอีกรอบ แล้วก็เลยแนะนำให้เราลองไปออกร้านบ้าง แรกๆ ก็ยังไม่ค่อยรู้ว่า ต้องทำยังไง อย่างชาม ช้อน ก็เอาของที่ร้านไปเลย ไปร้อยกลับมาไม่ครบร้อย (หัวเราะ)"

นั่น คือที่มาของการเป็น "ก๋วยเตี๋ยวเรือดีลิเวอรี่" ที่ได้รับคำแนะนำมาจาก "อี๊ด ฟุตบาท" โดยโกแบ๋นเริ่มออกร้านครั้งแรก ในงานของโรงเรียนสอนศิลปะแห่งหนึ่ง และหลังจากนั้น ก็มีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

"พอไปออกร้านก็มีคนบอกกันปากต่อปาก ก็โทรศัพท์มาให้ไปอยู่เรื่อยๆ ช่วงฮอตๆ บางเดือนรับ 20 งานเลยก็มี แต่ก่อน 200 ชาม 3,500 ใช้ชาม ช้อน ตะเกียบ สำเร็จรูป ใช้แล้วทิ้งเลย ไม่ต้องขนกลับอีก (ยิ้ม)"

โกแบ๋น ยอมรับว่า "ก๋วยเตี๋ยวเรือดีลิเวอรี่" เป็นช่องทางที่สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ นอกเหนือไปจากการขายที่ร้าน เพราะหมายถึงจำนวนที่แน่นอนของรายได้ เมื่อรับงานในแต่ละครั้ง

นอกจากนั้นแล้ว ยังทำให้ชื่อ "ก๋วยเตี๋ยวเรือ โกแบ๋น-บางกร่าง" เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยเฉพาะในหมู่ออร์แกไนเซอร์ที่จัดงานอีเว้นต์ต่างๆ และต้องจัดซุ้มอาหาร ซึ่งโกแบ๋นเป็นหนึ่งตัวเลือกที่สะดวก-ประหยัด

"อย่างมูลนิธิอมตะ เป็นขาประจำ แทบทุกครั้งที่มีงานก็ให้ไปตลอด หลายคนเป็นแขกประจำมูลนิธิด้วย เจอกันเราจำได้ว่า เขาชอบอะไร เลยยิ่งทำให้เขาถูกใจ เพราะเราจำลูกค้าได้ ซึ่งก็ดูแลแบบนี้กับลูกค้าที่ร้านด้วย"

ถึงแม้จะรับออกงานต่างๆ แต่โกแบ๋นก็ยังคงให้ความสำคัญกับที่ร้านเป็นหลัก โดยที่ร้านจะมีคนปรุงอยู่ 2-3 คน ซึ่งจะถูกส่งไปตามงานต่างๆ พร้อมลูกมือ ในขณะที่โกแบ๋นมักจะอยู่ที่ร้านเองทุกวัน

"ถ้าออกงาน เราจะไปก่อนเริ่มเสิร์ฟประมาณ 1 ชั่วโมง เตรียมตั้งเตา พวกหมู เนื้อ เครื่องใน ก็ลวกรอใส่ชามตั้งเรียงไว้ จากนั้นก็ค่อยลวกเส้น ลวกผัก ตามแต่เวลาลูกค้าสั่ง ก็จะทำให้เสิร์ฟได้เร็วขึ้น"

"ถ้าเป็นที่ร้าน ส่วนใหญ่ โกแบ๋นยืนหน้าเตาเอง ร้านเปิดทุกวัน 8 โมงเช้า ปิดประมาณ 4 โมงเย็น บางวันยืนตั้งแต่เช้าถึงบ่าย 2 แล้วค่อยสลับให้คนอื่นมายืนแทน อยากทำเองไปเสียทุกชาม (ยิ้ม)"

ด้วยรสชาติน้ำซุปที่เป็นสูตรเฉพาะ และรสมือของโกแบ๋น ที่เรียกได้ว่า ไม่ต้องปรุงเพิ่ม ทำให้ร้านปัจจุบันขายได้ไม่ต่ำกว่า 600-700 ชาม ต่อวัน และยิ่งเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ ก็จะขายได้มากเป็นพิเศษ

"น้ำซุปหมู เนื้อ แยกหม้อ เคี่ยวสูตรเฉพาะของเราเอง ส่วนหมูกับเนื้อก็ต้องหมักก่อน ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง แต่ละวันใช้หมูกับเนื้ออย่างละประมาณ 10 กิโลกรัม"

นอก จากหมู เนื้อ เครื่องใน และลูกชิ้นแล้ว ยังมีถั่วงอกอีกราว 15 กิโลกรัม ผักบุ้งไทยอีก 3 มัดใหญ่ๆ รวมไปถึงเส้นต่างๆ ตั้งแต่เส้นเล็ก 15 กิโลกรัม เส้นใหญ่ เส้นหมี่ บะหมี่ อย่างละ 3 กิโลกรัม และวุ้นเส้น 2 กิโลกรัม ในแต่ละวัน

"ตอนนี้ของแพงขึ้น ราคาที่ร้านจากชามละ 10 บาท ขึ้นมาเป็น 15 บาท พิเศษ 25 บาท ใส่ถุง 30 บาท ถ้าออกงานก็ครั้งละขั้นต่ำ 200 ชาม 6,000 บาท พร้อมอุปกรณ์ ถ้าเป็นต่างจังหวัดก็ขอค่าน้ำมันต่างหาก"

"ขาย ได้เท่าไหร่เป็นต้นทุนกว่าครึ่งเลยนะ กำไรต่อชามน้อย เพราะงั้นต้องขายให้ได้เยอะ พอมีออกร้านมาบ่อยๆ ก็เลยเป็นกอบเป็นกำขึ้น ต้องขอบคุณพี่อี๊ดเลยล่ะ ที่เป็นคนเริ่มแนะนำให้ไปออกร้าน"

ยิ่งไป กว่านั้น โกแบ๋นยังยินดีที่จะให้สูตร สำหรับคนที่อยากจะประกอบอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวเรืออีกด้วย แต่มีข้อแม้ว่า ต้องมาเรียนรู้เองที่ร้าน ซึ่งโกแบ๋นยินดีจะสอนกรรมวิธีต่างๆ ให้ด้วยตัวเอง

"เรา เคยได้รับโอกาสมาก่อน ทำให้มีอาชีพเลี้ยงตัวเองได้จนถึงทุกวันนี้ ถ้ามีคนอยากทำจริงๆ ก็ยินดีจะสอนให้นะ แต่ต้องบอกกันก่อนว่า อาชีพนี้เหนื่อยมาก แต่ก็จะหายเหนื่อยตอนลูกค้าบอกว่า เราทำอร่อยนี่ล่ะ

ถ้า มีคนมาให้สอนที่ร้าน ก็ต้องให้เริ่มจากล้างจานก่อน เพราะเราก็เริ่มมาอย่างนี้ จากนั้นก็ค่อยเก็บโต๊ะ เสิร์ฟ เรียนรู้ว่า มีเส้นอะไรบ้าง ใส่อะไรบ้าง ลูกค้าคนไหนกินแบบไหน ค่อยเป็นค่อยไป จนกระทั่งครบทุกอย่าง"

รสชาติ "ก๋วยเตี๋ยวเรือ โกแบ๋น-บางกร่าง" นั้น แนะนำให้ไปทดลองชิมรสมือที่ร้าน หรือหากจะให้ "ก๋วยเตี๋ยวเรือดีลิเวอรี่" ขนไปให้ชิมที่ไหน โกแบ๋นก็ยินดีให้บริการถึงที่

ส่วนจะถูกปากหรือไม่ และสูตรเด็ดเคล็ดลับเป็นอย่างไร คงต้องไปพิสูจน์กันด้วยตัวเองครับ...

ที่มา : เส้นทางเศรษฐี


"ก๋วยเตี๋ยว เรือ โกแบ๋น-บางกร่าง" ซอยหมู่บ้านบัวทอง ใกล้บิ๊กคิงบางใหญ่ (เข้าซอย 200 เมตร ร้านอยู่ซ้ายมือ ตรงข้ามร้านแว่นตาบัวทอง) ถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี บริการก๋วยเตี๋ยวเรือรสเด็ด พร้อมรับออกร้านตามงานต่างๆ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม "คุณพรชัย อ้นอุ่น" หรือ "โกแบ๋น" โทรศัพท์ (089) 061-8865 หรือ (082) 424-9495 ล้อมกรอบ 2


ส่วนผสม

หมู หมัก-เนื้อหมัก หมู/เนื้อ หมักกับ ซอสถั่วเหลือง แป้งข้าวโพด พริกไทย ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง

ส่วนผสมน้ำซุป

กระดูกหมู/เนื้อ ต้มกับ ใบเตย เต้าหู้ยี้ เต้าเจี้ยว น้ำตาลทรายแดง ขิง ข่า กระเทียมทอง และกะทิ


ขอบคุณ
ข่าวสดออนไลน์
เส้นทางเศรษฐี

No comments:

Post a Comment