Sunday, May 13, 2012

Aubergine อาหารฝรั่งเศสแท้จานดั้งเดิม

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 มิถุนายน 2552 12:20 น.

Mr.Jerome Chautard
       ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาอาหารฝรั่งเศสจานมี ชื่อของแคว้นต่างๆ ที่ปรุงโดยพ่อครัวชาวฝรั่งเศสแท้ๆ ที่ยังคงหลงใหลในการปรุงอาหารตามสูตรโบราณดั้งเดิม เหมือนได้ไปกินตามชนบทของฝรั่งเศส แล้วไปพบร้านประเภททำในครอบครัวที่มุ่งจะให้คนกินพอใจมากที่สุด
       อาหารของที่ร้าน Aubergine ก็เช่นเดียวกัน ด้วยความคิดของเจ้าของร้านที่ต้องการให้อาหารของที่นี่ เหมือนอาหารประเภททำกินกันในบ้าน หรือที่เรียกว่า Home Made ตรงกันกับความต้องการของ Mr.Jerome Chautard พ่อครัวชาวฝรั่งเศส ผู้มากด้วยประสบการณ์จากการเป็นพ่อครัวในร้านอาหารที่ Saint Tropez ใน French Riviera แหล่งตากอากาศของปารีเซียง ที่มีแต่ร้านอาหารอร่อยชวนกิน พ่อครัวคนนี้เป็นคนที่เคร่งครัดทั้งในการเลือกวัตถุดิบและวิธีการปรุง ที่อาหารทุกจานต้องเป็นตามสูตรดั้งเดิม ทั้งหน้าตาและรสชาติ และไม่ใยดีกับอาหารแนวใหม่ที่เรียกกันว่า Modern French หรือ Fusion แม้แต่น้อย
       ดังนั้น อาหารจานต่างๆ ของที่ร้าน Aubergine จึงล้วนเป็นอาหารจานเด่นของแต่ละแคว้น ที่ถูกนำมาใส่ไว้ในเมนู ให้ผู้ที่ชื่นชมอาหารจานดั้งเดิมได้เลือกกินกันอย่างจุใจเช่น
       

Les Escargot au Beurre d’Ail
       Les Escargot au Beurre d’Ail อาหารเรียกน้ำย่อยที่ปรุงจากหอยทากสั่งจากฝรั่งเศส มาอบกับเนยสดและกระเทียม เวลาจะกินต้องใช้คีมรัดเปลือกหอยไว้ และใช้ส้อมเล็กเซาะเอาเนื้อหอยทากออกจากเปลือก จะได้เนื้อในที่ทั้งหอมกรุ่นและรสชาติกลมกล่อม อร่อยจนต้องบิขนมปังออกมาเช็ดเนยที่ค้างอยู่ในจานกินจนหมด
Les Cuisses de Grenouille au Beurre d’Ail
       Les Cuisses de Grenouille au Beurre d’Ail เป็นอาหารจานพิเศษจากแคว้น Provence ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ใช้ขากบขนาดเขื่องที่นำเข้าจากญี่ปุ่น ทั้งอวบทั้งขาวเนื้อนุ่มลิ้น นำมาคลุกกับใบผักชีสับละเอียด กระเทียมสด พริกไทยและเกลือเล็กน้อย แตะแป้งพอติดผิวก่อนนำไปทอดด้วยน้ำมันมะกอกจนสุกเหลือง กรอบนอกนุ่มในรสชาตินุ่มนวล จากนั้นราดด้วยซอสที่ปรุงจากไวน์ขาว หอมแดง และไทม์ ลงบนขากบที่ทอดไว้ กินกับไวน์ขาวเย็นเจี๊ยบ เป็นอาหารจานเรียกน้ำย่อยจานเก่งของชาวฝรั่งเศสโดยเฉพาะ ซึ่งถือเป็นจานเด็ดที่ลูกค้าขาประจำต้องสั่งทุกครั้ง
Confit de Canard
       Confit de Canard ใช้เป็ดชิ้นติดสะโพกและน่องมาหมักกับเกลือเม็ดจนได้ที่ จากนั้นนำไปทอดทั้งชิ้นด้วยไฟกลางๆ ในน้ำมันที่เคี่ยวจากมันเป็ด จนสุกทั่วทั้งชิ้น ได้หนังเหลืองกรอบหอม เนื้อในเปื่อยนุ่มยุ่ย วางใส่จานเคียงด้วยมันฝรั่งอบ เป็นอาหารจานเฉพาะจากเมืองบอร์โดซ์ที่ขึ้นชื่อที่สุด อาหารจานนี้ต้องอาศัยฝีมือพ่อครัวที่มีประสบการณ์เท่านั้น จึงจะได้เป็ดที่อร่อยชวนกิน
       Coq au Vin ไก่ตุ๋นในไวน์แดง ใช้ไก่โต้งตัวเขื่องมาหั่นเป็นชิ้นๆ ใส่ไวน์แดงจนท่วม ตั้งบนไฟอ่อนๆ ใส่ หอมใหญ่ กระเทียม ใบกระวานและไทม์ จนเนื้อไก่สุกได้ที่ จากนั้นจึงแยกเนื้อไก่ออก นำน้ำสตูว์มาปรุงรสชาติให้เข้มขึ้นด้วยเบคอน กระเทียม และเห็ดกระดุมจนน้ำงวด แล้วนำไปปรุงพร้อมกันอีกครั้งจนรสชาติเข้าเนื้อ ได้เป็นสตูว์ไก่ในไวน์แดง เป็นอาหารจานขึ้นหน้าขึ้นตาของชาวฝรั่งเศสอีกจานหนึ่ง
       Boeuf Bourguignon จานนี้พ่อครัวเลือกใช้เนื้อแก้มของวัวมาทอดพอสุก ใส่แครอทและหอมหัวใหญ่ผัดจนหอม จากนั้นเคี่ยวในไวน์แดงจากแคว้นเบอร์กันดี พร้อมกระเทียมสดทั้งหัวและน้ำสต็อกเนื้อ เคี่ยวจนเนื้อเปื่อยได้ที่น้ำเริ่มข้นรสชาติชัดเจน เสิร์ฟพร้อมกับมันฝรั่งต้ม เป็นอาหารจานเด็ดของแคว้นเบอร์กันดี ที่ใครๆ ที่ไปเยือนเป็นต้องหาโอกาสกินให้จงได้
       

L’ile Flottant
       สำหรับขนมที่ Aubergine มีให้เลือกชิมได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็น Crepe Suzette ขนมเบื้องเนื้อนุ่มหอม ราดด้วยซอสน้ำส้มสดจุดไฟให้ลุกส่งกลิ่นหอมฟุ้งด้วยเหล้า Grand Marnier กินพร้อมกับไอศกรีมวานิลา ได้รสชาติหวานมันหอม หรือจะเป็น L’ile Flottant ที่ปรุงจากไข่ขาว ครีมสด วานิลลา น้ำตาล ตีจนเป็นก้อนฟองละเอียดเบาหวิว นำไปลอยในคัสตาร์ดซอสรสหวานนุ่มละมุนลิ้น เป็นขนมหวานสุดขึ้นชื่อของฝรั่งเศส ที่หากินไม่ได้ง่ายๆ นัก
       เมนูของ Aubergine ยังประกอบด้วยอาหารฝรั่งเศสอีกมากมาย เลือกสั่งได้ตามความพอใจ หรือจะสั่ง Set Lunch เป็นเมนูอาหารกลางวันในราคาสุดประหยัด ระหว่าง 299 บาท++ และ 349 บาท++

บรรยากาศภายในร้าน
       ส่วนอาหารค่ำเสิร์ฟพร้อมไวน์ 3 คอร์ส ราคา 1,000++ และ 5 คอร์ส ราคา 1,500 บาท++ เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 11.30-14.30 น.และ 18.00-23.00 น.
      
       
ข้อมูล
       Aubergine Restaurant
       ประเภท อาหารฝรั่งเศสสูตรดั้งเดิม
       สถานที่ 71/1 ซอยศาลาแดง 1/1 (สถานีรถไฟฟ้าศาลาแดง และสถานีรถไฟใต้ดินสีลม)
       
ถนนสีลม กทม.10500
       
โทรศัพท์ 02 234 2226

       

No comments:

Post a Comment