Monday, May 23, 2011

"กุ่ยหม่ง" ตำนาน "กุ้งอบเกลือ" บางปลาม้า / แม่ช้อยนางรำ

 โดย : แม่ช้อยนางรำ
"เฮียเอี้ยง" ลูกชาย "อาจือกุ่ย แซ่ลี้" ผู้ทำหน้าที่ต่อจากบิดา รุ่นที่ 2 กับ "ปลาม้า" ในแม่น้ำสุพรรณหน้าบ้าน
       "ร้านอาหารไทย-จีนเก่าแก่เมืองสุพรรณฯ
       "เตี่ย" มาจากเมืองจีนเมื่อร้อยกว่าปีก่อน
       ตอนนี้ถึงรุ่นตี๋ คนชอบกินกุ้งอย่าได้พลาด"

      
       เป็นลูกพี่...ลูกน้องกันมาเป็นสิบ..สิบปี
       ยังไม่เคยพาเจ้านายไปกินกุ้งแม่น้ำ ที่จังหวัดสุพรรณบุรีเลย
      
       เหตุที่ไม่พาไป ทั้งที่ร้านนี้อีชั้นกินฝีมือเขาสี่..ห้าสิบปีเห็นจะได้ก็เพราะร้านนี้เรื่องมาก
      
       สั่งของกินทีก็ยุ่งยาก เหมือนไม่อยากจะขาย
      
       แถมจะไปยืนเมี่ยง..เมี่ยง มอง..มองในครัวก็ไม่ได้ ถูกไล่กลัวว่าจะแอบรู้สูตรหรือไง?
      
       ยุ่งยากนักก็เลยไม่ไปกินแล้วก็เลยไม่เขียนแนะนำให้
      
       แต่ตอนนี้เขาปรับปรุงใหม่ คุณป้าขี้โมโห ขี้หงุดหงิดง่าย..ง่าย อายุมากตอนนี้อยู่เฝ้าบ้าน ปล่อยให้น้องชายที่มี "เซอร์วิส มายด์" หรือมีหัวใจเป็นผู้บริการมาบริการแทน
"กุ้งอบเกลือ" ชนิดตัวใหญ่จัมโบ้ ขายตามน้ำหนัก
       อีชั้นสบายใจ ก็เลยแนะนำเจ้านายได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกว่า "แนะนำร้านอะไรให้โผม"
       

       ร้านนี้ที่ว่าชื่อ "กุ่ยหม่ง" อยู่ที่อำเภอบางปลาม้า สุพรรณบุรี ร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่ร้านหนึ่งของจังหวัดนี้
      
       แล้วก็อร่อยที่สุดของตัวอำเภอนี้!!
      
       อาหารที่ขึ้นชื่อประจำร้านก็คือ "กุ้งอบเกลือ"..."กุ้งกระเทียมพริกไทย""ข้าวผัดกุ้ง"
      
       หรือเมนูที่ใช้กุ้งปรุงทั้งหลาย ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะ
      
       เขาคัดเลือกใช้กุ้งในแม่น้ำสุพรรณ เป็นกุ้งธรรมชาติ เป็นกุ้งตกทั้งใหม่ทั้งสด เรียกว่าไม่ต้องแช่น้ำแข็ง
      
       นักเลงกินกุ้งรู้จักร้านนี้กันแทบทั้งนั้น แล้วไม่สนด้วยว่าราคาจะเท่าไหร่ เรียกว่ากินแล้ว...ถึงใจ นอกจากเมนูกุ้งที่ว่า
      
       เมนูปลาม้า ที่ได้มาจากแม่น้ำสุพรรณก็ขึ้นชื่อเช่นเดียวกัน อย่างที่อีชั้นชอบก็คือ ... "ปลาม้านึ่งมะนาวกระเทียมโทน"… โดนเจ้าค่ะ เจ้านาย
      
       สมัยที่อีชั้นไปกินเมื่อสี่..สาห้าสิบปีก่อน ตอนนั้นเขาเป็นร้านห้องแถวริมแม่น้ำสุพรรณ
      
       พอรุ่นอีชั้นเขียนคอลัมน์ "เปิบพิสดาร" ปี 2519 ร้านเขาย้ายมาอยู่ริมถนน แต่ไม่ใช่ร้านปัจจุบันซึ่งตอนนี้เป็นตึกสองคูหาใหญ่ ที่นั่งมากมาย บรรยากาศสบาย
"กุ้งกระเทียมพริกไทย" ชนิดตัวย่อมขายเป็นจาน
       ร้านใหม่นี้เพิ่งย้ายมาเมื่อปี 43 เมื่อเร็ว..เร็วนี้เอง
      
       ครั้งล่าสุดที่อีชั้นไปกินก็เมื่อปี 49 ไปเจอเพื่อนเก่า คุณ "ขรรค์ชัย บุนปาน" นั่งเหงา..เหงาอยู่คนเดียว ก็เลยไปช่วยถล่มให้ขุนช้างจ่าย
      
       แล้วไปอีกทีเมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมาไว..ไว
      
       ที่ต้องไปก็เพราะว่า อีชั้นจะต้องพาลูกค้าของ "การทางด่วน" ไปเที่ยวตลาดเก้าห้อง อยู่ท้องที่เดียวกัน เที่ยวกันตอนเช้า ไปกินกุ้งอบเกลือ ปลาม้านึ่งมะนาวกระเทียมโทน เชิงปลากรายทอดกรอบ ข้าวผัดกุ้ง แล้วอะไรต่อมิอะไรอื่น..อื่นอีกมากมาย ตามใจตามปากร้านนี้ตอนบ่าย
      
       แต่ถ้ายุ่งยากลำบากนัก
      
       แวะไปกินกุ้งแม่น้ำที่ "บ้านแม่ช้อยนางรำ" ตรงข้ามเจดีย์ศรีสุริโยทัย ตัวเมืองพระนครศรีอยุธยาก็ได้นะเจ้าค่ะ
      
       "กุ่ยหมง" ดัง "กุ้งแม่น้ำอบเกลือ" แต่ “บ้านแม่ช้อยนางรำ" ดัง "กุ้งแม่น้ำเผา" เราอร่อยกันคนละอย่าง นักเลงจริงเขาไม่ข้ามเขตกันหรอกเจ้าค่ะ
      
       หรือถ้าให้สมศักดิ์ศรีเจ้านาย กินกุ้งแม่น้ำสุพรรณ แล้วมาลองกินกุ้งแม่น้ำเจ้าพระยาเปรียบกันซะเลยจะเป็นไร
      
       ..แต่แอะ..แอะ อย่าบอก "กุ้งกิ๊ก" ที่เจ้านายมักจะพาไปด้วยอร่อยกว่านะเจ้าค่ะ กุ้งแบบนั้นมีเอาไว้กินทางปากซะเมื่อไหร่ล่ะ จริงมั๊ยเจ้าค่ะ เจ้านาย??

No comments:

Post a Comment