Thursday, August 23, 2012

“Joe’s Table” โต๊ะแห่งความอร่อย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์19 กรกฎาคม 2555 16:16 น.
       หิวกันแล้วหรือยัง…??
      
       หากแฟนๆ นักกินคนไหนกำลังหิวแล้วอยากจะหาอาหารอร่อยๆ ใส่ท้องให้คลายหิวแล้วล่ะก็ ไปรอที่โต๊ะอาหารได้เลย แต่ว่าไม่ใช่โต๊ะกินข้าวที่บ้านของทุกคนหรอกนะ
      
       แต่ว่า “ตระเวนกิน” จะพามายังร้าน “Joe’s Table” (โจส์ เทเบิ้ล) ที่เป็นร้านอาหารน่ารักๆ นำเสนออาหารอร่อยๆ ช่วยให้ทุกคนหายหิวได้
       ภายในร้านโจส์ เทเบิ้ลตกแต่งอย่างอบอุ่นให้บรรยากาศคล้ายกับการมานั่งกินข้าวอยู่ที่บ้าน ตัวเอง หรือบ้านเพื่อน มีโต๊ะอาหารให้เลือกนั่งในมุมสบายๆ ได้ตามชอบใจ
      
       สำหรับอาหารของที่นี่ต้องบอกว่ามีความน่าสนใจ เพราะนำเสนออาหารฝรั่งเศสแบบต้นตำรับ รวมถึงยังมีอาหารอิตาเลียน โมร็อกคัล นิวออลีน และยังมีอาหารที่มีความพิเศษไม่เหมือนใคร นั่นคือมีอาหารโคโรเนียล หรืออาหารที่เป็นเมืองอาณานิคมของฝรั่งเศส เช่น อาหารเวียดนาม ที่ใช้เทคนิคการทำแบบฝรั่งเศส ซึ่งอาหารแต่ละเมนูของที่นี่จะคัดสรรแต่วัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพ สดใหม่ และเน้นเรื่องความพิถีพิถันในการปรุงแต่ละเมนูให้ออกมาเป็นอาหารจานเด็ดที่ ชวนกินมากมาย
       เอาเป็นว่ามื้อนี้ “ตระเวนกิน” ขอเลือกเมนูเด่นๆ ที่น่าลองลิ้มมาให้ชิมกัน เริ่มด้วยเมนูนี้ Bitter melon salad (160 บาท++) เป็นสลัดมะระสไตล์เวียดนาม แต่ใช้วิธีปรุงแบบฝรั่งเศส ทางร้านนำเอามะระไปต้มกับนมก่อนเพื่อไม่ให้มะระขม แล้วจึงนำมายำกับผักสดต่างๆ อย่างผักแพว สะระแหน่ ผักชีใบเลื่อย หอมแดง พริกขี้หนู ปรุงรสชาติน้ำยำแบบจัดจ้าน โรยด้วยถั่วลิสงและหอมชุบแป้งทอด กินแล้วมะระกรอบนุ่มไม่ขมปาก เข้ากันดีกับผักสดๆ และน้ำยำรสชาติโดนใจ
       ตามมาด้วยอีกหนึ่งเมนูเวียดนาม Grilled beef wrapped with wild betel leaves (160 บาท++) เนื้อห่อใบชะพลูย่าง ที่ทางร้านใช้เนื้อสันนอกติดมันนิดหน่อยเอามาสับและปรุงรสชาติ และนำมาห่อกับใบชะพลูแล้วเอาไปย่างด้วยเตาถ่าน ลิ้มรสเนื้อห่อใบชะพลูย่างถูกปากมากเนื้อนุ่มเคี้ยวนิ่มเข้ากับใบชะพลูหอมๆ ยังมีน้ำจิ้มและซอสสูตรพิเศษให้กินคู่กันเพิ่มรสชาติอร่อยยิ่งขึ้น
       และมาชิมเมนูปลา Fish fillets marinated with dill and turmeric (250 บาท++) ที่เสิร์ฟมาแบบหม้อไฟ เป็นอาหารเวียดนามที่นำเอาเนื้อปลาเก๋ามาหมักกับผงขมิ้นและผงกะหรี่ แล้วนำมาผัดกับน้ำมันมะกอก ใส่ผักชีลาวและต้นหอม มีขนมจีนและน้ำจิ้มกะปิเวียดนามให้กินคู่กัน ลิ้มรสเนื้อปลานุ่มได้กลิ่นของผงกะหรี่กับขมิ้นอ่อนๆ รสชาติเข้มข้น กินคู่กับขนมจีนและน้ำจิ้มหอมๆ ออกเค็มนิดๆ เข้ากันดีแท้
       จากนั้นก็มากิน Duck confit (350 บาท++) เป็ดอบกรอบสไตล์ฝรั่งเศสแท้ๆ ทางร้านพิถีพิถันในการปรุงเป็ดเป็นอย่างมาก ผ่านกรรมวิธีการทำตามสูตรเฉพาะกว่าจะได้เป็ดที่ต้องนำมาทอดให้หนังกรอบเนื้อ ข้างในนุ่ม แล้วก็นำเข้าเตาอบให้หนังกรอบอีกที กินแล้วต้องขอยกนิ้วให้เลยกับเป็ดที่หนังบางกรอบเนื้อในนุ่มมาก กินคู่กับน้ำจิ้มบาซามิค หรือน้ำพริกหนุ่มกับข้าวเหนียวดำ อร่อยลงตัวดีจริง
       แล้วมาชิมเมนูนี้ Dijonnaise Pork Chop with mustard sauce (380 บาท++) ทางร้านนำพอร์คชอปมาหมักเกลือ พริกไทย เอากระดาษไขมาปิดแล้วนำไปอบและยำไปย่าง ราดด้วยซอสที่มีส่วนผสมของเห็ดแชมปิยองนำมาผัดกับมัสตาร์ดดิจองและครีมสด แล่พอร์คชอปส่งเข้าปากเคี้ยวแน่นนุ่มปากผสานกับรสชาติซอสกลมกล่อมเข้ากัน และมีข้าวผัดสูตรพิเศษมาให้กินคู่กันแบบอิ่มท้องกันไป
       ส่งท้ายนำเสนออาหารอินโดนีเซีย Indonesian Fried rice with salted fish (185 บาท++) เป็นข้าวผัดปลาเค็มสไตล์ชวา ทางร้านนำเนื้อปลาเค็มไปนึ่งและหั่นเป็นชิ้นใหญ่สักหน่อย นำมาผัดกับข้าวหอมมะลิใส่ต้นหอมย่าง กระเทียมย่าง หอมใหญ่ย่าง พริกย่าง และมีน้ำซุปมาให้ด้วย กินข้าวผัดข้าวเม็ดนุ่มไม่แฉะไม่แห้งเกินไป เข้ากับเนื้อปลาเค็มหอมๆ อร่อยโดนใจปากมาก
      
       มื้อนี้เราก็แนะนำเมนูเด่นๆ ไปก็มากแล้ว แต่ว่าก็ยังมีเมนูอื่นๆ ในรายการอาหารที่ชวนชิมอีกมากมาย อาทิ Anchovy salad (160 บาท++) Banana blossom salad (135 บาท++) Pasta duck confit with bird eye chill (200 บาท++) Beef cubes with watercress (280 บาท++) ฯลฯ รวมถึงยังมีเค้กโฮมเมดอร่อยๆ ให้เลือกกินกันด้วย
      
       เรียกว่าถ้าหากใครหิวๆ ขอให้ดิ่งมาที่ร้าน “Joe’s Table” แล้วจะ ได้อิ่มเอมกับอาหารอร่อย ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ ซึ่งทุกวันอาทิตย์ เวลา 17.00-20.00 น . ที่ร้านจะมีดนตรีเล่นสด แนวเพลงแจ๊ซให้ได้ฟังกันอย่างเพลิดเพลิน
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       “Joe’s Table” (โจ ส์ เทเบิ้ล) ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 โครงการ The Promenade (เดอะ พรอมานาด) ถ.รามอินทรา (ติดกับศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์) คันนายาว กทม. เปิดทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น. โทร. 0-2947-5691 หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/joestablebistro
       


No comments:

Post a Comment