Thursday, May 26, 2011

จาก "คาเวียร์" ด้วยความเสียดาย /แม่ช้อยนางรำ

โดย : แม่ช้อยนางรำ
"คาเวียร์" ในกล่องสีน้ำเงิน ราคาตลับละหมื่นบาทขึ้นไป
       "สมัยก่อนมารัสเซีย ก็จะได้กินคาเวียร์
       เสียใจ..สมัยนี้ "กลิ่นคาเวียร์" ก็ไม่ได้ดม
       แพงก็มีปัญญาซื้อ แต่มีเงินก็หาซื้อไม่ได้"
      
       มันก็คงจะเหมือนกับชื่อหนัง "เจมส์ บอนด์"
       

       ตอนที่เจ้านายคงจะเคยดู เมื่อสมัย 3-40 ปีก่อนเรื่อง
      
       "FROM RUSSIAN WITH LOVE"
      
       เขียนถึงการเดินทางไปรัสเซีย เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาของอีชั้น ก็คงจะต้องเรียนเจ้านาย ด้วยการตั้งชื่อเรื่องสั้น..สั้นว่า
      
       "จากคาเวียร์ ด้วยความเสียดาย"
      
       ทำไมอีชั้นจึงจะต้องตั้งชื่อแสนจะรันทดเช่นนั้น เรื่องนี้มีคำอธิบายเจ้าค่ะ
      
       ก็เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
      
       อีชั้นได้รับเชิญจาก "ทูตพาณิชย์" ประจำกรุงมอสโก คือคุณ "ภาษิต พุ่มชูศรี" ให้อีชั้นไปโชว์ฝีมือทำอาหารไทยให้บรรดาแขกวี.ไอ.พี ของโรงแรม "เคมปินสกี้" ที่อยู่ใจกลางกรุงมอสโก เรียกว่าโผล่หน้าออกมาจากห้องนอนก็เห็นพระราชวังเคลมลินกับจัตุรัสแดง
"แพนเค้ก" แป้งบางๆแต่ไม่ใช่ “เครปฝรั่งเศส” เป็นแป้งรัสเซียสำหรับกินกับคาเวียร์เฉพาะ
       โรงแรมแพงระดับ "ห้าดาว" ซึ่งมีไม่กี่เจ้าในมหานครใหญ่แห่งนี้
      
       คืนหนึ่งจ่ายกันทีเป็นหมื่น..หมื่น
      
       อีชั้นได้สัมผัสอาหารรัสเซียยามต้นฤดูร้อน ด้วยอุณหภูมิ 10 กว่าองศา..ร้อนแล้วนะเนี้ย!!
      
       เรื่องอาหารไทย ไม่ต้องเขียนเล่าให้เจ้านายอ่านก็ได้ เพราะตอนที่อีชั้นอยู่ที่นั้น ฟาดอาหารรัสเซียชั้นสูง
      
       คือแพงแตกต่างไปจากชาวบ้านเขากินกัน เจ้านายก็กำลังฟาดข้าวแกงจานละ 35-40 บาท อ่วมอรทัยเข้ายุคสมัย...ข้ า ว ย า ก ห ม า ก แ พ ง
       

       เกิดมาท้องพ่อท้องแม่ก็เพิ่งจะเคยเห็นคราวนี้ล่ะเจ้าค่ะ
      
       สมัยอีชั้นเด็ก ข้าวราดแกงจานละบาทเท่านั้นเอง
      
       นี่ก็ต้องถือว่าเป็นเวรของประชาชนคนไทย แล้วก็ต้องถือว่าเป็นกรรมของประเทศชาติ ซึ่งก็มีชะตากรรมเช่นเดียวกับมนุษย์
      
       เอาว่ามาเขียนเล่าเรื่องของกินเล่นที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศนี้ดีกว่า
      
       ของกินที่ว่าก็คือ.. "กินคาเวียร์ จิบวอดก้า"
       

       ของกินคู่กันมาตั้งแต่สมัยโบราณเป็นพัน..พันปี
      
       จนกระทั่งมีเรื่องเล่ากันว่า "พระเจ้าอีวาน" แห่งรัสเซียที่ได้ชื่อว่า..อีวานจอมโหด
      
       โกรธนักโกรธหนา ถ้าอาหารมื้อไหนไม่มี"ไข่คาเวียร์"ให้เสวยก็จะสั่งให้ประหารชีวิตพ่อครัวตัวดีเสียเลย
"ไข่ปลาสเตอร์เจียน" ที่คนไทยเรียกผิดเป็น "ไข่ปลาคาเวียร์"
       อะไร?
       คือ "ไข่คาเวียร์"

      
       ไข่คาเวียร์ไม่ใช่จากปลาชื่อ "คาเวียร์"แต่ได้มาจากปลาชื่อ "สเตอร์เจียน" ซึ่งเป็นปลาโบราณยุคล้านปี ซึ่งยังมีชีวิตอยู่ในทะเลสาบ "แคสเบียน" คนจีนเรียกว่า "ปลาฉ่ำหลง" แปลว่า "ปลามังกรโบราณ" คนไทยเรียก "ไข่ปลาคาเวียร์" เสียใจเรียกไม่ถูกแต่ถ้าคนรัสเซียเขาเรียกว่า "อิครา"

      
       ไปรัสเซียสมัยก่อน เป็นแขกเชิญของรัฐบาล ก็ได้กินไข่ปลาคาเวียร์แกล้มกับเหล้าวอคก้า ซึ่งถือว่าเป็นการเลี้ยงที่ให้เกียรติสูงส่ง
      
       มา “มอสโก” คราวนี้ พักโรงแรม "เคมปิ้นสกี้" ระดับห้าดาว มีไข่คาเวียร์เสิร์ฟทุกเช้า แต่เสียดายไม่ใช่ไข่ปลาสเตอร์เจียนที่ว่า
      
       กลายเป็น "ไข่ปลาซัลมอน" เม็ดโตสีน้ำตาลแทนเสียนี่
      
       ส่วน "ไข่คาเวียร์" หรือ "ไข่ปลาสเตอร์เจียน" เสียใจ ไม่ให้กิน
      
       เรื่องแพงก็ไม่ต้องว่ากัน แพงเท่าไหร่ ฮิฮิฮิ..อีชั้นสามารถซื้อมากินได้ แต่มันผิดกฎหมายนะซีเจ้าค่ะ!!
      
       มันน่าเสียดาย อีชั้นเลยไม่ได้ซื้อกลับมาฝากเจ้านาย
      
       แต่อย่าไปเสียดง เสียดายอะไรกับมัน ฟันไข่ปลาดุก ไข่ปลาสลิดบ้านเราแทนก็แล้วกัน
      
       บ้านเมืองยามนี้ มีไข่ปลาให้กินก็บุญแล้ว
      
       ..จะเอาอะไรกันนักหนา "ผีป่าเข้าเมือง" เรื่องมันถึงได้เป็นเช่นนี้เจ้าค่ะ เจ้านาย

No comments:

Post a Comment