สำหรับคอเพลงแจ๊สทั้งหลาย เชื่อว่าถ้าเอ่ยชื่อร้าน “Brown Sugar the Jazz Boutique”ขึ้นมาแล้วต้องรู้จักถึงชื่อเสียงของร้านกันเป็นอย่างดี เพราะว่าร้าน Brown Sugar โด่ง ดังมาจากที่ย่านหลังสวน มานานเกือบ 30 ปี จัดได้ว่าเป็นร้านตำนานแจ๊สผับของเมืองไทย แต่ว่าทุกวันนี้ได้ย้ายมาอยู่ที่ ถ.พระสุเมรุ และเนรมิตให้ตึกแถวเก่าที่มีมนต์ขลัง กลายมาเป็นร้านแจ๊สที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง โดดเด่นด้วยบรรยากาศร้านที่ตกแต่งแบบคลาสสิค มีงานศิลปะประดับอย่างลงตัว | ||||
แล้วยังมีชั้น 2 ที่จัดให้เป็นส่วนของ Gallery & Play House มีพื้นที่กว่า 80ตร.ม. ทางร้านอยากให้เป็นพื้นที่สำหรับการแสดงนิทรรศการศิลปะแขนงต่างๆ หรือจัดงานคอนเสิร์ต งานอีเว้นท์ จัดกิจกรรมต่างๆ ที่ถ้าใครสนใจก็สามารถมาเลือกใช้บริการพื้นที่ได้ | ||||
นี่แค่บรรยากาศร้านก็ชวนให้เคลิบเคลิ้มน่านั่ง ถ้าพูดถึงดนตรีแจ๊สแล้วรับรองว่าไม่ผิดหวัง ทางร้านจัดเต็มเรื่องดนตรีแจ๊ส โดยทุกวันตั้งแต่ 21.00 น. เป็นต้นไปจะมีนักดนตรีวงประจำอยู่ 3 วง คือ Brown Sugar House Band, Mellow Motif และวงสาวสะดุ้ง แล้วในวันเสาร์-อาทิตย์ ก็จะมีมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินแจ๊สชื่อดังจากทั่วโลกมาเล่นดนตรีแจ๊สให้ฟัง อย่างสนุกสนานสลับหมุนเวียนเปลี่ยนกันไป แต่ถ้าจะมานั่งฟังเพลงแจ๊สให้อิ่มใจอย่างเดียวก็กระไร ต้องขออิ่มท้องแบบครบสูตรกันไปด้วย ซึ่งที่นี่มีอาหารเลิศรสคอยให้ได้ลิ้มรสกันด้วย ซึ่งอาหารของที่นี่มีทั้งอาหารไทย, เม็กซิกัน, เยอรมัน, อิตาเลียน และอาหารเมนูใหม่ๆ แนวฟิวชั่นที่ทางร้านคิดค้นสูตรขึ้นมาโดยเฉพาะ และคัดสรรแต่วัตถุดิบชั้นดีมาปรุงเป็นอาหารจานเด็ดให้ได้ลิ้มรสกันมากมาย | ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
แล้วยังมีเมนูอื่นๆ ที่ชวนกินอีกเพียบ อาทิ ข้าวลาบหมูทอด (190 บาท) สเต็กหมูดำซอสวาซาบิจิ้มแจ่ว (220 บาท) ขาหมูทอดเยอรมัน (380 บาท) กุ้งซอสมะขาม (350 บาท) ขาวัวตุ๋นไวน์สไตล์อิตาเลียน (320 บาท) นอกจากนี้ยังมีอีกสารพัดเมนูเลิศรสที่ชวนให้สั่งมากินคู่กับเครื่องดื่มเย็นๆ พร้อมเพลิดเพลินไปกับดนตรีแจ๊สอันชวนฟัง จากร้าน “Brown Sugar” หนึ่งในตำนานแจ๊สผับของไทยที่ยังมีมนต์ขลังอย่างเหลือเฟือ | ||||
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * “Brown Sugar the Jazz Boutique” ตั้ง อยู่ที่ 469 ถ. พระสุเมรุ บางลำพู กรุงเทพฯ การเดินทางจากแยกบางลำพูมุ่งหน้ามายังวัดบวรนิเวศฯ ตรงมาถึงแยกสะพานวันชาติ แล้วตรงมาเรื่อยๆ จนถึงช่วงโค้งของถนน จะเห็นร้านอยู่ทางซ้ายมือเป็นห้องแถวติดริมถนน มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน สามารถจอดรถได้ริมถนน ร้านเปิดทุกวัน เวลา 19.00-01.00 น. ถ้าจะมาที่ร้านแนะนำว่าควรโทร.มาจองโต๊ะก่อน โทร. 08-9499-1378, 08-1805-7759 หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.brownsugarbangkok.com หรือที่ www.facebook.com/brownsugarbangkok |
Tuesday, April 24, 2012
อร่อยล้ำ ดื่มด่ำแจ๊ส ที่ “Brown Sugar”
ที่มา โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 เมษายน 2555 17:22 น.
“Icedea”...ไอศกรีมใส่ไอเดีย เย็นฉ่ำ รสชาติแหวกแนว
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 เมษายน 2555 12:16 น.
| ||||
ไอศกรีมของทางร้านจะเป็นไอศกรีมโฮมเมดที่มีทั้งแบบครีม และเชอร์เบท แต่ละวันจะมี 20 รสชาติให้ลองชิม และจะหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนรสชาติใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ เรียกว่าไปครั้งไหนก็ต้องได้ลองชิมของใหม่ๆ แปลกๆ อยู่เสมอ | ||||
| ||||
| ||||
นอกจากเมนูที่ลองชิมไปแล้ว คราวนี้มาลองชิมแบบเป็นสกู๊ปดูบ้าง โดยจะขายในราคาสกู๊ปละ 65 บาท ไอศกรีม 2 สกู๊ป ราคา 120 บาท หรือหากอยากชิมแบบใส่โคนที่ทางร้านทำเองก็ขายในราคา 80 บาท นอกจากนี้ ยังมีซื้อกลับบ้านได้ด้วย | ||||
ส่วน ไอศกรีม Global Warming รสชาตินี้เป็นแบบโลกร้อน สีสันสวยงาม เป็นไอศกรีมรสมิ้นท์ ผสมกับโอริโอ้ และช็อกโกแลตชิปเข้าไปด้วย และยิ่งเมื่อละลายก็จะยิ่งเหมือนโลกร้อนจนละลายเลยทีเดียว สุดท้ายลองชิม ไอศกรีมราสเบอร์รี่ ที่ เป็นไอศกรีมผสมกับลูกราสเบอร์รี่ และบัตเตอร์เค้กปั่นรวมกัน เวลาเคี้ยวจะเหมือนมีเค้กเป็นชิ้นๆ อยู่ในคำ พร้อมกับเนื้อของราสเบอร์รี่ออกเปรี้ยวๆ เล็กน้อย | ||||
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * ร้าน “Icedea” ตั้ง อยู่บนชั้น 4 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ถ.พระรามที่ 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม.การเดินทางจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มุ่งหน้าไปทางถนนพญาไท ข้ามสะพานหัวช้าง ชิดขวา ทางเข้าหอศิลป อยู่ก่อนข้ามสี่แยกปทุมวัน หากมาจากถนนพระราม 1 ผ่านสนามกีฬาแห่งชาติ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพญาไท และเลี้ยวซ้ายอีกครั้งก็จะถึงหอศิลป หรือหากใช้บริการ BTS ให้ลงที่สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ จะมีทางเชื่อมเข้าสู่หอศิลป ร้านจะตั้งอยู่บนชั้น 4 บริเวณทางขึ้นลงบันไดเลื่อน ร้านเปิดวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) เวลา 11.30-18.30 น.โทร.0-2331-1741-51 ส่วนอีกสาขาตั้งอยู่ที่ชั้น G เซ็นทรัลลาดพร้าว โทร.0-2103-4058 www.facebook.com/icedea |
ขนมกลีบลำดวน
credit takecareyou bloggang.com
ส่วนผสม แป้งสาลี 5 ถ้วยตวง น้ำตาลป่น 2 1/2 ถ้วยตวง น้ำมันพืช 1 1/2 ถ้วยตวง ฟักเชื่อมสีแดง
วิธีการทำ
ผสมแป้งสาลีกับน้ำตาลป่นเข้าด้วยกัน ควรคนให้กระจาย ตัวทั่วกันดีเสียก่อน จึงเทน้ำมันลงในแป้งนวดเบา ๆ ให้เข้า กันดี ถ้ายังแป้งมากไม่อาจเกาะกันได้ เติมน้ำมันได้อีกเล็ก น้อย คลึงออกเป็นแท่งกลมยาว แล้วตัดเป็นท่อน ให้ท่อนหนึ่ง ๆ หนึ่ง เมื่อปั้นเป็นก้อนกลมจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางสักประมาณ 1 1/2 เซนติเมตร และปั้นเป็นก้อนกลมไว้ให้หมด ใช้มีดคม ๆ ผ่าแต่ละก้อนออกเป็น 4 ส่วน ปั้นแต่ละส่วนให้ คล้ายกลีบดอกลำดวน แล้วจับปลายชนกันเป็น 3 กลีบ ส่วนที่ 4 ให้ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ วางลงตรงกลาง แล้วใช้มีด กรีดเบา ๆ ให้เป็น 3 แฉก เผยอนิด ๆ อย่าให้ขาดจากกัน ให้เหมือนกลีบชั้นในที่สับหว่างกับกลีบชั้นนอกแล้ว วางชิ้น ฟักลงตรงกลางเหมือนเกษรโผล่แผลมอยู่ ปั้นเรียงให้เต็มถาดที่ทาน้ำมันไว้แล้ว นำเข้าอบที่ 350 องศาฟาเรนไฮท์ ประมาณ 8-10 นาที ให้ได้สีนวล ๆ เหมือนดอกลำดวนจริง ๆ จึงนำออกจากเตา พักไว้ให้เย็นสนิทเสียก่อนจึงแซะใส่ขวดโหล อบด้วยดอกมะลิ กระดังงาหรือควันเทียน
กลเม็ดเคล็ดลับ
วิธีการทำ
ผสมแป้งสาลีกับน้ำตาลป่นเข้าด้วยกัน ควรคนให้กระจาย ตัวทั่วกันดีเสียก่อน จึงเทน้ำมันลงในแป้งนวดเบา ๆ ให้เข้า กันดี ถ้ายังแป้งมากไม่อาจเกาะกันได้ เติมน้ำมันได้อีกเล็ก น้อย คลึงออกเป็นแท่งกลมยาว แล้วตัดเป็นท่อน ให้ท่อนหนึ่ง ๆ หนึ่ง เมื่อปั้นเป็นก้อนกลมจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางสักประมาณ 1 1/2 เซนติเมตร และปั้นเป็นก้อนกลมไว้ให้หมด ใช้มีดคม ๆ ผ่าแต่ละก้อนออกเป็น 4 ส่วน ปั้นแต่ละส่วนให้ คล้ายกลีบดอกลำดวน แล้วจับปลายชนกันเป็น 3 กลีบ ส่วนที่ 4 ให้ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ วางลงตรงกลาง แล้วใช้มีด กรีดเบา ๆ ให้เป็น 3 แฉก เผยอนิด ๆ อย่าให้ขาดจากกัน ให้เหมือนกลีบชั้นในที่สับหว่างกับกลีบชั้นนอกแล้ว วางชิ้น ฟักลงตรงกลางเหมือนเกษรโผล่แผลมอยู่ ปั้นเรียงให้เต็มถาดที่ทาน้ำมันไว้แล้ว นำเข้าอบที่ 350 องศาฟาเรนไฮท์ ประมาณ 8-10 นาที ให้ได้สีนวล ๆ เหมือนดอกลำดวนจริง ๆ จึงนำออกจากเตา พักไว้ให้เย็นสนิทเสียก่อนจึงแซะใส่ขวดโหล อบด้วยดอกมะลิ กระดังงาหรือควันเทียน
กลเม็ดเคล็ดลับ
ปัจจุบันนี้ ดอกลำดวน ถือว่าเป็นดอกไม้ประจำจังหวัด ศีรษะเกษ เป็นไม้หอมของไทยชนิดหนึ่ง
ขนมดอกลำดวน ควรมีสีนวลอย่าอบจนสีเข้ม จะไม่เหมือน ดอกไม้จริง ขนาดต้องเท่าของจริง การปั้นกลีบควรให้คล้ายของจริง ด้วย
ขนมนี้แป้งจะกรอบร่วน ไม่กระด้าง รสหวานมัน และมีกลิ่น หอม
ขนมดอกลำดวน ควรมีสีนวลอย่าอบจนสีเข้ม จะไม่เหมือน ดอกไม้จริง ขนาดต้องเท่าของจริง การปั้นกลีบควรให้คล้ายของจริง ด้วย
ขนมนี้แป้งจะกรอบร่วน ไม่กระด้าง รสหวานมัน และมีกลิ่น หอม
Sunday, April 8, 2012
หรรษาหน้าร้อน กับข้าวเหนียวมะม่วงรสเด็ดเจ้าดัง ที่ร้าน “แม่วารี”
มื้อนี้ “ผ่านมาแวะกิน” เลยจะชวนมาชิมข้าวเหนียวมะม่วงอร่อยๆ กันที่ร้าน “แม่วารี” ร้านชื่อดังในย่านทองหล่อ ที่ใครผ่านไปผ่านมาก็ต้องมาลองลิ้ม ทีเด็ดอยู่ที่ข้าวเหนียวมูนของทางร้าน ซึ่งเป็นสูตรเด็ดของแม่วารี หรือคุณวารี จีนสุวรรณ ที่เปิดขายมาหลายสิบปีแล้ว | ||||
กว่าจะได้ข้าวเหนียวมูนอร่อยๆ ออกมาให้ลิ้มชิมรสกันนั้นเรียกว่าต้องผ่านหลากหลายขั้นตอนจริงๆ ซึ่งนอกจาก ข้าวเหนียวมูนสีขาว (กิโลกรัมละ 160 บาท) ก็ยังมี ข้าวเหนียวมูนใบเตย (กิโลกรัมละ 160 บาท) ที่ใช้ใบเตยแท้ๆ ให้สีสวยๆ แถมกลิ่นหอมชื่นใจ ซึ่งเมื่อตักข้าวเหนียวกลิ่นหอมๆ เข้าปากแล้ว ได้รสชาตินุ่มละมุนลิ้นเป็นที่ยิ่ง และนอกจากข้าวเหนียวมูนขาวกับใบเตยแล้ว ยังมี ข้าวเหนียวมูนสีดำ (กิโลกรัมละ 200 บาท) ให้เลือกชิมด้วย แต่จะทำออกมาน้อยกว่าสองอย่างแรก และถ้าจะให้เด็ดจริงๆ ต้องโรยหน้าข้าวเหนียวด้วย ถั่วทอง (กระปุกละ 40 บาท) ที่เคี้ยวแล้วกรุบๆ เค็มๆ เพิ่มความมัน | ||||
แต่นอกจากจะกินข้าวเหนียวมูนกับมะม่วงแล้ว ทางร้านก็ยังมีขนมหวานให้ลิ้มรส อย่างช่วงนี้ก็ต้องลอง ข้าวเหนียวทุเรียน (ชุดละ 70 บาท) ที่ใช้ทุเรียนหมอนทองสุกกำลังดี คัดสรรมาทั้งทุเรียนและน้ำกะทิ กินคู่กับข้าวเหนียวมูน หวานทุเรียน หอมมันกะทิ ข้าวเหนียวนุ่ม เคี้ยวแล้วอร่อยอวลอยู่ในปาก | ||||
หากใครจะมาชิมข้าวเหนียวมูนที่ร้านนี้ ต้องบอกว่าทางร้านไม่มีพื้นที่ให้นั่งที่ร้าน มีแค่บริการสั่งกลับบ้าน หากใครจะโทรสั่งแล้วค่อยมารับไปก็ได้ นอกจากนี้ทางร้านยังเปิดตลอด 24 ชั่วโมง (ข้าวเหนียวมูนมีเฉพาะช่วงเวลา 05.00-24.00 น.) ใครหิวของอร่อยยามไหนก็มากันได้เลย | ||||
ร้าน “แม่วารี” ตั้งอยู่เลขที่ 1 ปากซอยทองหล่อ ถ.สุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. การเดินทางจากถนนสุขุมวิท ให้ตรงมาที่ซอยสุขุมวิท 55 (ซอยทองหล่อ) เลี้ยวเข้าซอยทองหล่อไปประมาณ 20 เมตร ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือติดถนน เปิดทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง โทร. 0-2392-4804, 0-2714-4223 www.maevaree.com |
ขนมจีบ สุดยอดเมนูติ่มซำ ทำเองได้ง่ายกว่าที่คิด
ถ้าจะพูดถึงติ่มซำในภัตตาคารจีน เชื่อแน่ว่าขนมจีบต้องเป็นสิ่งที่ใครหลายคนคิดถึง เพราะความเหนียวนุ่ม อร่อยเต็มคำของขนมจีบนี่เองที่ทำให้ใครลิ้มชิมรสต่างติดใจ แหม พอคิดขึ้นมาก็อยากกินแล้วล่ะสิ แต่จะไปซื้อกินที่เขาทำสำเร็จแล้ว รสชาติก็อาจจะไม่ตรงใจเรา ครั้นจะออกไปกินตามภัตตาคารอาหารจีนก็ราคาแพง วันนี้เราเลยขออาสานำเมนูขนมจีบกุ้งน่ากิ้นน่ากินจากสูตรของ คุณตะโกครับ จาก pantip.com มาฝากให้ลองทำกัน ใครอยากรู้ว่าขนมจีบสูตรนี้เป็นยังไง มีหน้าตาอย่างไร ก็ตามมาดูกัน...
ส่วนผสม
• กุ้ง
• หมู
• น้ำตาล
• รสดี
• น้ำมันงา
• ต้นหอม
• พริกไท
• กระเทียม
• รากผักชี
• แผ่นเกี๊ยว
• น้ำมัน
วิธีทำ
จับกุ้งมาแกะเปลือก เอาหัวออก เลือกมา 5 ตัว
ผ่าหลังเอาลำไส้ออกครับ
เอาส่วนผสม (พริกไท กระเทียม รากผักชี) ทิ่มให้เนียนก่อนครับ
เอาเนื้อกุ้งลงไปทิ่มต่อหลังจากเครื่องเนียนแล้ว
ตำกุ้งให้ละเอียดจนเหนียวแบบนี้ครับ เห็นไหมครับว่า ตะโก คว่ำช้อนไว้
มองอีกด้านนึง เนื้อกุ้งเหนียวจนติดหนึบ แบบนี้น่าจะโอเคแล้วครับ ใช้กุ้งมาตำทั้งหมด 3 ขีด รวม 5 ตัว ได้เท่านี้เอง
กลัวว่าจะไม่พอ เลยเอากุ้งที่ตำไว้เข้าแช่เย็น ใช้หมูบดปรุงรส ที่ขายในห้าง มาผสมนะครับ จะได้ขนมจีบแบบเด้งดึ๋ง ๆ อร่อย ๆ เลยครับ
เอามาตำผสมให้เข้ากันอีกที ตะโกใช้หมูแค่ 2 ขีดนะครับ กุ้ง 3 ขีด ตำรวมกัน
ปรุงรสด้วย น้ำตาล กับ รสดี อย่างละ .75 ช้อน
ในหมูปรุงรส จะมีรสชาติอ่อน ๆ อยู่แล้ว ถ้าใครชอบ กลิ่นน้ำมันงา ก็ใส่ลงไปได้เลยครับ
หลังจากตำเนื้อเข้ากันแล้วต้นหอม ถ้าชอบก็ใส่นิดหน่อย
ส่วนกุ้งที่เหลือ สี่ตัว เอามาหั่นท่อน ๆ แบบนี้ครับ
แล้วเก็บไว้ครึ่งนึง ส่วนที่เหลือใส่ครกผสม ให้เข้ากัน
นำไปให้คิวซีเทสต์ รสชาติก่อน
ตักใส่ถ้วยเพื่อเข้าเวฟชิมรส
แล้วเข้าเวฟ 25 วินาที
ออกมา แจ่มแล้วครับ ไม่ต้องปรุงเพิ่ม ขั้นตอนนี้ ถ้าเราชอบแบบไหนก็ใส่ลงไปครับ
ตะโกใช้แผ่นเกี๊ยวที่ขายในตลาด นำมาตัดเหลี่ยมออกแบบนี้ครับ
ตัดก็ไม่สวย จีบก็ม่ายเป็น
ขั้นตอนนี้แหละครับ ที่ตะโกบอก จีบไม่เป็นจริง ๆ ตักเนื้อมาใส่แผ่นแล้วก็มั่วๆเอาตามนี้
แล้วก็บีบ ๆ ปลายให้เข้ารูป พร้อมลองใส่กุ้งหั่นที่แบ่งไว้
เพื่อให้ขั้นตอนนี้ผ่านไป เร็วๆ ตะโก ข้ามมาตรงนี้เลยเลยครับ เอาเนื้อกุ้งใส่ด้านบน
ที่ จริงแล้วแผ่นเกี๋ยวต้องไม่แห้งนะครับ ควรพรมน้ำหรือใช้สเปย์ละอองน้ำที่แผ่น เพื่อป้องกันแผ่นแข็ง ถ้าแผ่นแห้ง เวลานึ่งจะแข็ง ไม่อร่อย
ตะโกใช้ใบผักมาชุบน้ำ พรมที่แผ่นบาง ๆ ก่อนนำไปนึ่ง
เอาน้ำมันพืช ทาที่ซึ้งก่อนนะครับ ป้องกัน แผ่นติดซึ้ง แล้วจับเรียงอย่าให้ติดมากเกินไป
ใช้เวลานึ่ง 8 นาที หลังจากน้ำเดือดนะครับ
ใครชอบกระเทียมเจียวก็ใส่บนเลยครับ พร้อมแล้วไปทานกันครับ
เสร็จแล้วจ้า ขนมจีบจากฝีมือและสูตรของคุณตะโกครับ ดูจากหน้าตาแล้วน่ากินไม่แพ้ขนมจีบเจ้าดังเลยใช่ไหมล่ะ เห็นแบบนี้แล้วหลายคนคงคันไม้คันมืออยากทำขนมจีบกินเองบ้างล่ะสิ แล้วจะรอช้าอยู่ทำไม ไปทำกันเลย
Subscribe to:
Posts (Atom)