| ห้องอาหารศาลาไทย งดงามด้วยสถาปัตยกรรมเรือนไทยโบราณ |
| | เอกลักษณ์ความเป็นไทยของเรานั้น ต้องบอกเลยว่ามีชื่อเสียงและเป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นยิ้มสยามหวานๆ การแสดงศิลปะนาฎศิลป์อันงดงามและอ่อนช้อย และก็ต้องไม่พลาดที่จะพูดถึง อาหารไทย อันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในเรื่องของรสชาติอันจัดจ้านและเป็นที่ถูกปากของนัก กินต่างชาติอยู่ไม่น้อย หากว่าเวลามีแขก หรือเพื่อนชาวต่างชาติมาเที่ยวเมืองไทย “ตระเวนกิน” เป็นต้องนำเสนอพาพวกเขาให้ไปรับรู้ถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยอันดีงามเสียทุก ครั้งไป อย่างที่ในคราวนี้เมื่อมีเพื่อนต่างชาติมาเที่ยวเมืองไทย เราก็ได้พาเขาไปสัมผัสความเป็นไทยอย่างแท้จริง แถมได้อิ่มอร่อยกับอาหารไทยเลิศรสกันด้วย
|
| บรรยากาศภายในห้องอาหารศาลาไทย |
| | โดยพามาโรงแรมอินทรา รีเจนท์ ตรงประตูน้ำ ซึ่งที่นี่มีความเป็นไทยอันโดดเด่นและน่าสนใจให้ได้มาสัมผัสกันยัง “ห้องอาหารศาลาไทย” ที่ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่บนชั้น 4 ท่ามกลางบรรยากาศริมสระว่ายน้ำ เป็นเรือนไทยหลังงามที่ได้รับเกียรติสูงส่ง จาก ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 13 ของไทย และศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พ.ศ.2528 ให้ความกรุณาออกแบบอาคารหลังนี้ตามสถาปัตยกรรมยุคสุโขทัย มีความสวยงามตามแบบไทยมากๆ เพราะก่อสร้างโดยการเข้าไม้แบบไทยโบราณ ด้วยการตอกหรือสลักลิ่มทั้งหมด ไม่ได้ใช้ตะปูตอกแม้แต่ตัวเดียว ด้านนอกเรือนไทยมีการแกะสลักเสลาไม้มาประดับประดาอย่างงดงามวิจิตรบรรจง แถมยังมีการปลูกพันธุ์ไม้ไทยที่สวยงามมีกลิ่นหอม หาชมได้ยาก อาทิ เข็มเศรษฐี เข็มหอม ลีลาวดี อินจัน จำปี และพลับพลึง มาปลูกรอบบริเวณอาคารทรงไทยหลังนี้ โชว์เอกลักษณ์ความเป็นไทยให้ชาวต่างชาติได้เห็นและเกิดความประทับใจ
|
| การแสดงนาฏศิลป์ไทย |
| | ครั้นเมื่อเดินเข้ามาภายในเรือนไทย ก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงการตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมไทยอันงดงามตระการตา ที่เห็นได้ถึงฝีมือช่างโบราณที่ทำการแกะสลักลายดอกบัวไว้บนเพดานและเสาเรือน และติดตั้งโคมไฟระย้าทองเหลืองบนเพดาน ต้องแสงไฟระยิบระยับเป็นการผสมผสานสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งได้อย่างกลมกลืน และในส่วนของที่นั่งนั้นก็จัดให้เป็นที่นั่งแบบสบายๆ มีโต๊ะสูงขึ้นมาตรงกลาง และมีเบาะนุ่มๆ วางเป็นที่นั่งรอบโต๊ะจะนั่งแบบพับเพียบแบบไทยๆ หรือถ้ากลัวเมื่อยก็สามารถนั่งห้อยเท้าลงไปด้านล่างได้ แถมยังมีหมอนสามเหลี่ยมใบใหญ่เอาไว้ให้นั่งหนุนแขนแบบสบาย ๆ
|
| ชุดสำรับอาหารไทย |
| | เรือนไทยหลังนี้ทางโรงแรมอินทราฯ ได้จัดทำเป็นห้องอาหารศาลาไทยให้บริการอาหารไทยและการแสดงนาฏศิลป์ไทย ซึ่งเป็นอาหารไทยแบบต้นตำรับดั้งเดิมรสเลิศชวนกิน โดยมีเฉพาะมื้อค่ำเท่านั้น และจะจัดอาหารเป็นชุด มีอยู่ 4 ชุดด้วยกัน และจะสับเปลี่ยนอาทิตย์ละ 1 ชุด ซึ่งอาหารแต่ละชุดล้วนแล้วแต่เป็นอาหารไทยยอดนิยมทั้งนั้น และอาหารแต่ละอย่างทางเชฟก็ได้คัดสรรแต่วัถุดิบที่สดใหม่ มีคุณภาพ และปรุงแต่งอย่างพิถีพิถัน
|
| ขนมไทยและผลไม้ |
| | สำหรับในมื้อนี้เราได้ลองลิ้มอาหารชุดเมนูที่ 1 ซึ่งอาหารจะจัดมาเป็นชุดในถาดอย่างสวยงาม ในถาดมีข้าวสวยหุงด้วยข้าวหอมมะลิเนื้อนุ่ม มีกับข้าวถึง 5 อย่าง โดยอย่างแรกเป็น ต้มยำกุ้ง เมนูขึ้นชื่อที่คนต่างชาติ รู้จักกันดี ต้มยำกุ้งของที่นี่เป็นแบบน้ำข้นใส่น้ำพริกเผา มีกุ้งลายเสือเนื้อหวานกินเต็มปากเต็มคำ ส่วนน้ำต้มยำรสชาติเข้มข้นแต่ไม่เผ็ดมากคนต่างชาติกินได้สบายๆ อีกเมนูเป็น ปลาทอดกระเทียมพริกไทย ที่ ใช้เนื้อปลากะพงขาวแล่เอาแต่เนื้อเป็นชิ้นพอดีคำ หมักกับเครื่องปรุงเกลือ พริกไทย กระเทียมสด และคลุกแป้งทอดจนเหลืองกรอบ กินแล้วเนื้อปลากรอบนอกนุ่มในได้รสและกลิ่นหอมของกระเทียม
|
| ความสวยงามของการแกะสลักลายดอกบัวบนเพดาน |
| | เมนูถัดมาเป็น เปรี้ยวหวานหมู ที่ครบเครื่องใส่ ทั้งหมู สับปะรด พริกยักษ์ หอมใหญ่ มะเขือเทศ แตงล้าน ผัดคลุกเคล้ากับซอสเปรี้ยวหวานสูตรเด็ดของเชฟ รสชาติกลมกล่อมอมเปรี้ยวอมหวานถูกปากดี ถัดมาชิมเมนู แกงมัสมั่นไก่ รสเข้มข้นเครื่องแกงที่เชฟปรุงเอง ใช้กะทิสดๆ รสหวานมัน เนื้อไก่นุ่มกำลังดี และเมนูสุดท้ายเป็น ผัดผักรวมมิตร ที่มีผักสดหลายชนิดเอามาผัดกับน้ำมันหอย และใส่เนื้อสัตว์ด้วย กินแล้วผักหวานกรอบรสกลมกล่อมถูกปาก
|
| ชุดการแสดงรำศรีวิชัย |
| | นอกจากอาหารคาวแล้ว ยังมีขนมหวานหลากชนิดของไทยให้กินเป็นของหวานล้างปาก พร้อมกับมีผลไม้ตามฤดูกาล ชาและกาแฟให้ได้อิ่มแบบเต็มที่ ซึ่งราคามากินอาหารพร้อมกับชมการแสดงนาฎศิลป์ไทย ราคาคนละ 1,050 บาท เด็กคนละ 550 บาท หรือถ้าจะมาดูโชว์นาฎศิลป์ไทยอย่างเดียวไม่กินอาหาร ราคาคนละ 550 บาท
|
| โต๊ะนั่งตกแต่งสไตล์ไทยๆ |
| | สำหรับการแสดงจะเริ่มทำการแสดง เวลา 20.30 น หลังจากที่กินอาหารอิ่มแล้ว มีการแสดงดนตรีไทย บรรเลงเพลงสดๆ หลากหลายเพลงไทยเพราะๆ ให้ฟังแบบเพลิดเพลิน หลังจากนั้นจึงตามด้วยการแสดงนาฏศิลป์ไทยอันอ่อนช้อยและสวยงาม 6 ชุด อาทิ รำ 4 ภาค ภาคเหนือเป็นการฟ้อนมาลัย ภาคอีสานเซิ้งโปงลาง ภาคกลางแสดงโขนชุดหนุมานจับนาง และรำศรีวิชัยสลับกับรำลพบุรี ส่วนภาคใต้เป็นรำมโนราห์หรือรำพัด(ปาลีกีปัป) และรำชุดสุดท้ายเป็นรำวง ซึ่งนางรำจะเชิญแขกออกมาร่วมรำวงอย่างสนุกสนาน เป็นการได้สัมผัสถึงวัฒนธรรมไทยด้วยตัวเอง และระหว่างการแสดงจะมีล่ามคอยบอกความเป็นมาของชุดรำต่าง ๆ รวมทั้งแนะนำเครื่องดนตรีไทย แล้วเมื่อชมการแสดงจบนักแสดงก็จะมาโชว์ตัวให้แขกที่มากินอาหารหรือชมการแสดง ได้ถ่ายรูปคู่กับนางรำเป็นที่ระลึก เรียกว่ามาที่ “ห้องอาหารศาลาไทย” จะได้สัมผัสกับ เอกลักษณ์ของเรือนไทยที่งดงาม ได้ชมโชว์ไทยอันสวยงาม ได้อิ่มหนำกับอาหารไทยเลิศรส สร้างความรู้สึกที่อิ่มเอมและประทับใจกับความเป็นไทยอย่างเต็มที่ | |
No comments:
Post a Comment