| ยามเย็นหลังเลิกงานสำหรับ "ตระเวนกิน"คงไม่มีอะไรดีไม่กว่า การนัดพบปะเพื่อนฝูงสังสรรค์กันในร้านอาหารที่มีบรรยากาศดีๆสักร้านหนึ่ง  และร้านที่ถูกเลือกสรรเป็นที่นั่งกิน ดื่ม ในครั้งนี้คือร้านอาหารแนวผับ  แอนด์ เรสเตอรองก์ ที่มีชื่อว่า "The Lake" ที่ตั้งอยู่ริมบึงเมืองทองธานี 3| |   |  | บรรยากาศริมน้ำของร้าน The Lake | 
 |   |  | 
 
 | 
 | The Lake ในที่นี้มีความหมายว่าทะเลสาบ  เนื่องจากทางเจ้าของร้านเล็งเห็นว่า  ที่ตั้งของร้านตั้งอยู่ริมบึงภายในเมืองทองธานี 3  จึงมีมุมที่นั่งบางส่วนติดริมน้ำรื่นรมย์  |  |   |  | อีกหนึ่งมุมภายในร้าน The Lake | 
 |   |  | 
 
 The Lake เริ่มต้นขึ้นมาจากกลุ่มเพื่อนที่ชอบกิน ดื่ม  จึงเกิดแนวคิดกันร่วมลงขันเปิดร้านขึ้นมา  ที่นี่แบ่งออกเป็นทั้งหมดสามส่วนด้วยกัน  ส่วนแรกตั้งอยู่ริมบึงมีที่นั่งทั้งหมด 22 โต๊ะ  ที่มุมนี้จัดได้ว่าเป็นมุมยอดนิยมของทางร้านที่แนะนำว่าควรโทรจองไว้ก่อน  เพราะนักกินทั้งหลายจะได้นั่งเอมอิ่มกินอาหารในบรรยากาศเย็นสบายริมบึงน้ำ ที่ดอกบัวบานสะพรั่ง  พร้อมทั้งมีดนตรีเบาๆเคล้าคลอให้อาหารมื้อนี้กลายมื้อสุดพิเศษ
 
 | 
 | ส่วนที่สองเป็นแบบโอเพ่นแอร์  นั่งกินข้าวในบรรยากาศโปร่งสบายด้วยเก้าอี้สีขาว สะอาดตา  มีโต๊ะพูลไว้ให้เล่น รออาหารสำหรับคนขี้เบื่อ ส่วนสุดท้ายเป็นห้องแอร์  ภายในตกแต่งสไตล์ contemporary เน้นสีขาวดูสะอาด ที่นี่มีดนตรีสดเล่นทุกวัน  ในสไตล์อะคูสติก เริ่มเวลา 21.30 -23.30น.  |  |   |  | นั่งรับลมเย็นริมบึง | 
 |   |  | 
 
 | 
 | ทางด้านอาหารที่นี่ก็มีดีไม่น้อยหน้าบรรยากาศเช่นกัน ที่ The Lake  ได้คัดสรรเมนูอาหารกว่า 200 เมนู เน้นอาหารไทยเป็นหลัก  มาไว้ให้ลูกค้าเลือกชม สั่ง ลิ้มรส  |  |   |  | เนื้อตุ๋นหม้อไฟเดอะเลค | 
 |   |  | 
 "ตระเวนกิน"ขอประเดิมเมนูแรกด้วย เนื้อตุ๋นหม้อไฟเดอะเลค  (150 บาท) ใช้เนื้ออย่างดีนำมาตุ๋นข้ามคืนจนเนื้อเปื่อยยุ่ย  ปรุงรสด้วยเครื่องแกงสูตรพิเศษของทางร้านเสิร์ฟมาในหม้อไฟร้อนๆ  ตักกินคู่กับข้าวสวยร้อนๆสักจานด้วยรสชาติ หวาน  เค็มของเนื้อตุ๋นผสานกันอย่างลงตัวกับรสเผ็ดร้อนของน้ำแกงที่สกัดได้จาก เนื้อตุ๋น ช่วยเพิ่มความลงตัวในเมนูนี้ได้เป็นอย่างดี  ยังไม่นับรวมสารพัดส่วนผสมทั้ง มันฝรั่ง มะเขือเทศ หอมหัวใหญ่  ที่ลงไปเสริมรสชาติให้โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์  สไตล์เนื้อตุ๋นหม้อไฟเดอะเลคมากยิ่งขึ้น
 
 | 
 | ต่อกันด้วย ปลากะพงซอสมะขาม (280  บาท)ปลากะพงสดๆตัวโตน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 7 ขีด  ทอดจนกรอบทอดนุ่มในก่อนจะนำซอสมะขามสูตรเฉพาะตัวของเชฟ มาราดลงไป  ด้วยความเปรี้ยวอมหวานของซอสมะขามเมื่อตักปลากะพงที่ชุ่มด้วยน้ำซอสมะขาม เข้าปากจะสัมผัสได้ทั้งความครบเครื่อง  แบบเปรี้ยวหวานปนเผ็ดนิดๆจากสารพัดเครื่องโรยหน้า อย่างเม็ดมะม่วงหิมพานต์  พริกหยวก มะเขือเทศ และพริกแห้งทอดกรอบ  |  |   |  | ปลากะพงซอสมะขาม | 
 |   |  | 
 
 | 
 | อีกหนึ่งเมนูเนื้อของที่นี่ ต้องยกให้ เนื้อเซอร์ลอยด์จิ้มแจ่ว  (180 บาท) เนื้อเซอร์ลอยด์อย่างดี ย่างแบบมีเดียม  คือตรงกลางยังพอมีเนื้อสีแดงๆอยู่หน่อย  แล้วราดน้ำเกรวีสูตรของทางร้านที่ทำมาจากซอสหอย  ใครที่ต้องการเนื้อแบบสุกๆก็สามารถสั่งกับทางร้านได้  เนื้อจะถูกหั่นชิ้นเสิร์ฟมาบนจานพร้อมด้วยกระเทียม พร้อมด้วยน้ำจิ้มแจ่ว  ไว้กินคู่กัน เนื้อนุ่มไม่เหนียว เข้ากันได้ดีกับน้ำจิ้มแจ่ว  |  |   |  | เนื้อเซอร์ลอยด์จิ้มแจ่ว | 
 |   |  | 
 
 | 
 | มาถึงเมนูผัดกันบ้าง เห็ดออรินจิผัดพริกไทยดำ (130  บาท) ใช้เห็ดออรินจิสดๆขนาดใหญ่ มาผัดรวมกับเครื่องปรุงแบบพริกไทยดำ  พร้อมใส่ส่วนผสมสารพันอย่างพริกหยวก เม็ดพริกไทยอ่อน  เพิ่มความเผ็ดร้อนกับพริกเหลือง ผัดพร้อมเสิร์ฟมาในกระทะร้อน  จานนี้ได้ความหวานจานเนื้อเห็ดและความเผ็ดร้อนจากเครื่องปรุง  |  |   |  | เห็ดออรินจิผัดพริกไทยดำ | 
 |   |  | 
 
 | 
 | อีกหนึ่งจานที่หากินกันได้ไม่บ่อยนักตามร้านอาหารคือ ไข่เจียวคอนโด  (120 บาท) เมนูไข่ธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาเพราะใช้ไข่ไก่ถึง 7 ฟอง  ปรุงรสแบบสูตรลับประจำร้าน ทอดในบล็อกทอดแบบพิเศษ จนฟูกรอบนอกนุ่มใน  แอบกระซิบถามเชฟได้ความว่า กลเม็ดเคล็ดลับของจานนี้  อยู่ที่การทอดต้องทอดด้วยน้ำมันท่วมตัวไข่  |  |   |  | ไข่เจียวคอนโด | 
 |   |  | 
 
 | 
 | ตามติดด้วยเมนูทอดอีกหนึ่งเมนูกับ ทอดมันกุ้ง (130  บาท) กุ้งสดสับละเอียด ชุบแป้งคลุกเกล็ดขนมปัง  ทอดจนเป็นแผ่นกุ้งก่อนเสิร์ฟใส่จานที่ตกแต่งด้วยมะนาวฝาดบางๆ  กับพริกแดงแล้วราดด้วยมัสตาร์ดปรุงพิเศษ เป็นอีกหนึ่งจานที่กลมกล่อมน่ากิน  |  |   |  | ทอดมันกุ้ง | 
 |   |  | 
 
 | 
 | เมนูปิดท้ายของ "ตระเวนกิน" คือ ไก่โหระพากรอบ  (100 บาท) จานนี้โดดเด่นที่ความนุ่มของไก่ที่หมักจนถึงเครื่อง  และความสดกรอบของใบโหระพา ที่ใส่มาแบบไม่หวงเครื่อง  ปรุงรสจนเข้าที่แบบเผ็ดนิดๆ  |  |   |  | ไก่โหระพากรอบ | 
 |   |  | 
 
 | 
 | ใครยังไม่จุใจกับหลายเมนูที่แนะนำขอเสนอเพิ่มเติมอีกด้วย หนวดปลาหมึกคั่วเกลือ (120 บาท),ผักบุ้งผัดกะปิไฟแดง (90 บาท),พล่าแซลมอน(180 บาท),ลาบหมูทอด(120 บาท),โป๊ะแตกใบกะเพรา (150 บาท) และนักดื่มพลาดไม่ได้กับมุมบาร์ค็อกเทลที่มีเครื่องดื่มอีกมากมายไว้รอ ยกตัวอย่างเช่น The lake kamikaze  (179บาท) แก้วนี้เด่นทั้งสีสันแดง ฟ้า ส้ม และรสชาติ  ที่มีส่วนผสมหลากหลายอย่าง เตกิล่า ทริปเปิลเซค น้ำมะนาว น้ำส้ม เป็นต้น  รสหอมนุ่ม ไม่มีกลิ่นแรง เหมาะสำหรับสุภาพสตรี  หลากอรรถรสการกินแบบนี้หาได้ที่ "The Lake"  |  |   |  | The lake kamikaze | 
 |   |  | 
 
 | 
 | * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *  |  |   |  | มุมสบายภายในร้าน | 
 |   |  | 
 
 ร้านอาหาร "The Lake"  ตั้งอยู่ที่ ริมบึง เมืองทอง3 59/35 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงคลองเกลือ  เขตปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120 การเดินทางมายังร้าน "The Lake"  จากทางด่วนแจ้งวัฒนะลงแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางเข้า ม.สุโขทัยธรรมาธิราช ราว  200 เมตร สังเกตป้ายไฟทางขวามือ  จะมีบึงตั้งอยู่เลี้ยวขวาเข้ามาร้านตรงกลางบึง ก็จะถึงร้าน  ทางร้านรับจัดเลี้ยง สามารถจอดรถได้ในร้านและหน้าร้าน  เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 17.00 -24.00 น.มีโปรโมชั่น มากินก่อน 2  ทุ่มลดค่าอาหาร 10% และโปรโมชั่นพิเศษเปิดเหล้า1ขวดฟรี!มิกซ์เซอร์ 1 ชุด  โทร.0-2982-9081,08-5803-5843,08-1558-3341
 | 
No comments:
Post a Comment