| อาหารไทย อาหารจีน อาหารอิตาเลียน อาหารญี่ปุ่น "ตระเวนกิน"  ก็พาไปลิ้มลองกันอยู่บ่อยครั้ง ด้วยความกลัวว่าแฟนานุแฟนจะเบื่อกันเสียก่อน  มาวันนี้จึงจะพาไปหาความแปลกใหม่ ลิ้มรสอาหารสไตล์แปซิฟิก ที่ห้องอาหาร "เทรเดอร์ วิคส์" ในโรงแรมแมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา กรุงเทพฯ| |   |  | บรรยากาศภายในห้องอาหารเทรเดอร์ วิคส์ | 
 |   |  | 
 
 | 
 | สำหรับห้องอาหารเทรเดอร์ วิคส์  ต้นฉบับนั้นก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกใน พ.ศ.2475 ที่เมืองซานฟรานซิสโก  สหรัฐอเมริกา โดย มร.วิกเตอร์ เจ เบอร์เจอรอน  และต่อมาก็ได้รับความนิยมจนสามารถขยายสาขาของร้านเทรเดอร์  วิกส์ออกไปทั่วโลก รวมถึงที่โรงแรมแมริออทฯประเทศไทยด้วยเช่นกัน ซึ่ง  มร.วิกเตอร์คนนี้เองที่เป็นเจ้าของสูตรค็อกเทล "ไหมไท" ที่หลายๆคนเข้าใจผิดว่าเป็นค็อกเทลสัญชาติไทย แต่แท้จริงแล้วไหมไทนั้นมาจากภาษาฮาวายว่า "มาทาอีโร" (Maita’i roa) ที่แปลได้ว่า เยี่ยมมาก และต่อมาจึงเรียกเพี้ยนไปเป็นไหมไทในที่สุด  |  |   |  | ห้องจัดเลี้ยงในบรรยากาศส่วนตัว | 
 |   |  | 
 
 | 
 | เมื่อก้าวเข้ามาภายในห้องอาหาร  ก็ให้รู้สึกตื่นตาไปกับการตกแต่งในสไตล์แปซิฟิก  ที่นำเอารูปปั้นไม้แกะสลักเป็นใบหน้าต่างๆ มาประดับไว้ มีสวนหย่อมเล็กๆ  ภายในห้องอาหารที่จำลองเอากระโจมที่อยู่ของชาวโพลีนีเชียนไว้เพื่อให้ได้ บรรยากาศในขณะกินอาหาร โดยในห้องอาหารนี้จะแบ่งเป็น 2  โซนก็คือด้านในห้องปรับอากาศและด้านนอกรับลมแม่น้ำเย็นๆพร้อมกับชมทิวทัศน์ ของสะพานกรุงเทพฯ อีกทั้งยังมีห้องจัดเลี้ยงเพื่อความเป็นส่วนตัว  และยังมีไหมไท บาร์ บริการเครื่องดื่มแบบฟูลบาร์อีกด้วย  |  |   |  | ไหมไท บาร์ | 
 |   |  | 
 
 | 
 | อีกหนึ่งความโดดเด่นของห้องอาหารเทรเดอร์  วิคส์ที่พลาดไม่ได้ต้องเอ่ยถึงก็คือเตาประกอบอาหารซึ่งจำลองมาจากเตาสมัย ราชวงศ์ฮั่น ซึ่งเป็นวิธีปรุงอาหารสมัยโบราณกว่า 2,000 ปี  การปรุงอาหารในเตานี้เนื้อสัตว์จะไม่โดนเปลวไฟ  เพราะเชื้อเพลิงนั้นจะอยู่ทางด้านหน้าเตา  ใช้เพียงความร้อนที่หมุนเวียนอยู่ในเตา  และควันจากถ่านไม้จากธรรมชาติทำให้อาหารสุกและหอมกรุ่น  และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพด้วย  |  |   |  | ทูน่าคลุกงากับซอสวาซาบิ | 
 |   |  | 
 
 ทีนี้ก็ได้เวลาสำหรับอาหารจานแรกกันแล้ว เริ่มต้นด้วย ทูน่าคลุกงากับซอสวาซาบิ  (420 บาท++) เมนูนี้เป็นเมนูออร์เดิร์ฟเพื่อสุขภาพ  เพราะใช้เนื้อปลาทูน่าสดๆไม่มีมันแทรก สั่งมาเป็นพิเศษจากประเทศญี่ปุ่น  นำมามาสไลด์เป็นชิ้นแล้วคลุกกับงาดำงาขาว เนื้อปลาข้างนอกจะสุกนิดๆ  แต่ข้างในยังดิบอยู่ โรยหน้าด้วยไข่ปลาญี่ปุ่นและไข่ปลาคาเวียร์  วางรองด้วยหัวไชเท้าให้กลิ่นฉุน และทำให้ปลามีรสชาติออกเผ็ดนิดๆ  มีผักไมโครใส่มาด้วย  ส่งเนื้อปลาเข้าปากแล้วต้องยกนิ้วให้ในความสดของปลาทูน่า  กินเข้ากันดีกับหัวไชเท้าและไข่ปลากรุบๆ ปาก
 
 | 
 | ต่อกันจานที่สองกับ ไก่หมักสไตล์จาไมกัน (600  บาท++) เป็นไก่รุ่นๆ  ที่นำมาหมักเข้ากับเครื่องเทศของทางยุโรปบดรวมกับซอสนานถึงหนึ่งวันให้ เครื่องปรุงซึมเข้าถึงเนื้อ จากนั้นนำมาย่างในเตาอบจีนจำลองสมัยราชวงศ์ฮั่น  จนได้กลิ่นหอม เสิร์ฟชิ้นไก่มาบนมันฝรั่งบดและราดด้วยเกรวี่ชิกเก้นซอส  มีฟรุ้ตสลัดมะม่วงและมะละกอสุกกรอบมาเป็นเครื่องเคียง  ลิ้มรสไก่เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ ได้รสซอสเข้มข้นอมเปรี้ยวและเจือเผ็ดนิดๆ ถูกปาก  |  |   |  | ไก่หมักสไตล์จาไมกัน | 
 |   |  | 
 
 | 
 | อย่ามัวรอช้า เสิร์ฟจานที่สามต่อมาด้วย ปลาหิมะกับซอสมิโซ  (900 บาท++) เป็นอีกหนึ่งเมนูปลาเพื่อสุขภาพ  ที่นำปลาหิมะมาจากอเมริกาใต้และญี่ปุ่น เป็นปลาหิมะเนื้อขาวราวกับหิมะ  นำมาทำให้เนื้อปลาข้างนอกสุกเกรียม และนำไปอบอีกครั้งจนสุกทั่วทั้งชิ้น  แล้วจึงนำมาวางบนมันฝรั่งบด ราดด้วยน้ำมันมะกอก ซอสสาเกและซอสมิโซผสมกัน  ลองลิ้มเนื้อปลาหิมะขาวนุ่มเนียนหวานสดได้ใจ  ซึมรสชาติซอสออกหวานละมุนกลมกล่อม  |  |   |  | ปลาหิมะกับซอสมิโซ | 
 |   |  | 
 
 | 
 | สำหรับจานต่อไปนี้เป็นเมนูเด็ดของทางร้าน ซี่โครงหมูอบบาร์บีคิวสไตล์เทรเดอร์ วิคส์  (ครึ่งตัว 400 บาท++ เต็มตัว 800 บาท++)  เป็นซี่โครงหมูคัดสรรพิเศษที่ติดเนื้อเยอะๆ เอามาหมักด้วยสูตรเฉพาะนาน 1-2  วัน ก่อนจะนำมาย่างในเตาอบจีนจำลองสมัยราชวงศ์ฮั่น  แล้วทาด้วยบาร์บีคิวซอสสไตล์เทรเดอร์ วิคส์ ทาแล้วย่าง  ย่างแล้วทาสลับกันไปเรื่อยๆ จนซอสเข้าเนื้อ  เวลากินให้ได้รสชาติต้องทิ้งส้อมและมีด ใช้สองมือจับให้มั่นแล้วลงมือแทะ  จึงจะได้รสซี่โครงหมูเนื้อนุ่มหอมหวานได้รสชาติซอสบาร์บีคิวที่ถูกปาก  |  |   |  | ซี่โครงหมูอบบาร์บีคิวสไตล์เทรเดอร์ วิคส์ | 
 |   |  | 
 
 | 
 | อาหารคาวผ่านไปหลายจาน ขอล้างปากด้วยของหวานอย่าง ช็อคโกแลตแท่งกับไอศกรีมชาเอิร์ลเกรย์ เสิร์ฟพร้อมน้ำเสาวรสและตะไคร้  (250 บาท++) เป็นเมนูของหวานที่มีช็อคโกแลตแท่งวางพาดมาบนจาน  และมีไอศกรีมชาเอิร์ลเกรย์  ที่ทำจากชาเอิร์ลเกรย์ผสมน้ำผึ้งแล้วปั่นจนกลายเป็นเกล็ดไอศกรีม  ลอยมาในน้ำเสาวรสและตะไคร้ กินแล้วชื่นใจ ไอศกรีมรสชาเอิร์ลเกรย์หอมหวาน  ผสานรสชาติเข้ากันกับน้ำเสาวรสและน้ำตะไคร้เปรี้ยวจี๊ดโดนใจ  แถมเคี้ยวเพลินกับแท่งช็อคโกแลตหวานหอม  |  |   |  | ช็อคโกแลตแท่งกับไอศกรีมชาเอิร์ลเกย์ เสิร์ฟพร้อมน้ำเสาวรสและตะไคร้ | 
 |   |  | 
 
 | 
 | มาถึงที่เทรเดอร์ วิคส์แล้วจะพลาดไม่ยอมลิ้มรสค็อกเทลเลื่องชื่ออย่าง ไหมไท  (290 บาท++) ซึ่งเป็น Signature Drink ของที่นี่ได้อย่างไร  ลองชิมไหมไทสูตรต้นตำรับได้กลิ่นอัลมอนด์ผสมกับกับเหล้ารัม  ผสานกับรสเปรี้ยวเล็กน้อยจากน้ำผลไม้ที่ผสมลงไป  เป็นอันปิดท้ายมื้อนี้ได้อย่างสมบูรณ์  |  |   |  | ไหมไท | 
 |   |  | 
 
 และนอกจากอาหารจานเด็ดที่ได้เสิร์ฟมาแล้วนี้ หากใครยังไม่อิ่มท้องก็ยังมีเมนูอื่นๆที่น่าสนใจอย่าง กุ้งทอดสไตล์เทรเดอร์วิคส์ (320 บาท++) เกี๊ยวปูครีมชีสทอด (250 บาท++) เป็ดทอดกรอบห่อแพนเค้ก (520 บาท++) สเต็กเนื้อสันนอกมัสซึซากะ (4,500 บาท++) เครปซูเซ็ทสว์กับไอศกรีมวนิลลา (250 บาท++) เลือกอร่อยกันได้ตามใจชอบ
 | 
No comments:
Post a Comment