| การเดินทางมายังซอยทองหล่อของ "ตระเวนกิน" ในหลายๆครั้ง ส่วนใหญ่จุดมุ่งหมายมักจะอยู่ที่ร้านอาหารจานเด็ด เพราะซอยนี้เรียกได้ว่าเป็นแห่งรวมอาหารที่ถูกปากถูกใจเรามากมาย| |   |  | บรรยากาศโต๊ะนั่งชั้นล่างของร้าน "Delicatezza" | 
 |   |  | 
 
 | 
 | เฉกเช่นมื้อนี้เมื่อเราได้เดินทางมาเยือนซอยทองหล่อกันอีกแล้ว  และไม่ได้มาเพียงลำพังแต่มาพร้อมกับเพื่อนคอเดียวกันที่ชื่นชอบกินอาหาร อิตาเลียนเอามากๆ ซึ่งในมื้อนี้พวกเรามีจุดมุ่งหมายตรงดิ่งมาที่ซ.ทองหล่อ  10 เพื่อมายังร้าน "Delicatezza" (เดลิคาเตซซ่า) เป็นภาษาอิตาเลียน แปลว่า ละเมียดละไม  |  |   |  | อีกหนึ่งมุมโต๊ะนั่งชั้นล่าง | 
 |   |  | 
 
 | 
 | พวกเรามีมูลเหตุจูงใจที่ทำให้อยากมากินอาหารอิตาเลียนที่ร้านนี้  ก็เพราะสืบทราบรู้ว่าจากพรรคพวกนักกินด้วยกันว่าที่นี่เขาบริการอาหารแบบ อิตาเลียนระดับพรี่เมี่ยมแบบโฮมเมดขนานแท้อันเลิศรส โดยมีคุณ ศริยา พอลลา เจริญผล หรือ พี่แป๊ว ซึ่งเป็นแฟนพันธมิตรกู้ชาติ ผู้เป็นทั้งเจ้าของร้านและเป็นเชฟฝีมือเอกเข้าครัวปรุงอาหารเองด้วย  |  |   |  | บรรยากาศโต๊ะนั่งชั้นบน | 
 |   |  | 
 
 | 
 | อาหารอิตาเลียนที่นี่มีความหลากหลายให้เลือกสั่งมากินมากมายหลายเมนู   มื้อนี้"ตระเวนกิน"จึงขอเลือกที่จะสั่งเมนูไฮไลท์จานเด่นของที่นี่มากินแบบ ตามใจปาก โดยเริ่มกันที่ Grilled vegetable (380 บาท++)  เป็นผักย่างหลายอย่างสีสันชวนกิน มีทั้งพริกหวานสีแดง-สีเหลือง เห็ดออเรนจิ  มะเขือม่วง ซูกินี่ แอสพารากัส ที่นำไปกริลล์ในกระทะจนผักสุกกำลังดี  แล้วราดด้วยน้ำสลัดบาซามิคโก้กับโอลีฟออย  ผักย่างแต่ละอย่างล้วนมีรสชาติของผักย่างที่หอมหวาน ผสานกับรสชาติเปรี้ยวๆ  ของน้ำสลัดเข้ากันถูกปากดีนักเชียว  |  |   |  | Grilled vegetable | 
 |   |  | 
 
 | 
 | แล้วจานต่อมาก็ถูกเสิร์ฟมาเป็น Smoked salmon Carpaccio  (490 บาท++) แซลมอนญี่ปุ่นรมควันสไลด์เป็นชิ้น ราดด้วยบาซามิคโก้  และมีผักร็อคเก็ตสลัด กับพาเมซานชีส ใส่มาด้วย  กินเนื้อปลาแซลมอนเนื้อนิ่มหอมกลิ่นรมควัน  รสหวานนุ่มลิ้นซึมรสชาติน้ำบาซามิคโก้ออกเปรี้ยวๆ เจือหวาน  เป็นอะไรที่กลมกลืนรสชาติเข้ากันดี  |  |   |  | Smoked salmon Carpaccio | 
 |   |  | 
 
 | 
 | จากนั้นพวกเราสั่งซุปมากินกัน เป็น Seafood Soup (  499 บาท++) ซุปถ้วยนี้ชามโตไม่ใช่เล่น และอุดมไปด้วยของทะเลนานา  มีกุ้งแชบ๊วยตัวใหญ่ ปลาหมึก หอยลาย หอยตลับ หอยแมลงภู่  ที่ล้วนแล้วแต่เนื้อหวานสดทั้งนั้น  กินเข้ากันกับซุปซอสมะเขือเทศหอมหวานรสละมุนกลมกล่อม  เจือรสเผ็ดปลายลิ้นนิดๆ  |  |   |  | Seafood Soup | 
 |   |  | 
 
 | 
 | หลังจากได้ซดซุปร้อนๆ พอให้ได้คล่องคอ  พวกเราก็สั่งเมนูพาสต้ามากินกันต่อ ที่นี่มีเมนูพาสต้าให้เลือกสั่งมากมาย  แต่ถ้าถามถึงเมนูขึ้นหน้าขึ้นตาที่ว่ามาแล้วต้องสั่งมากินให้ได้ต้องเมนูนี้ เลย Penne smoked salmon cream sauce (390 บาท++)  แต่ก็ต้องบอกก่อนว่าเหมาะสำหรับคนชอบกินพาสต้าแบบครีมซอส  เพราะทางร้านจะนำซอสมะเขือเทศผสมกับครีมซอสสูตรพิเศษใส่พาเมซานชีสและปรุง เคี่ยวอยู่นานจนได้เป็นซอสครีมข้นออกสีส้มๆ  นำมาผัดกับพาสต้าเพนเน่และแซลมอนจากเดนมาร์ค  ชิมพาสต้าจานนี้แล้วโดนใจปากมากๆ  ตัวครีมซอสมะเขือเทศจะสอดแทรกซึมเข้าไปในตัวพาสต้าเพนเน่เนื้อนิ่ม  รสหวานนุ่มเนียนละมุนละไมจริงๆ  |  |   |  | Penne smoked salmon cream sauce | 
 |   |  | 
 
 | 
 | แต่ถ้าไม่ชอบกินพาสต้าแบบครีมซอส ขอเสนอเมนูนี้ Spaghetti with Rock Lobster and white wine  (650 บาท++) เป็นสปาเก็ตตี้เส้นเล็กเอามาผัดกับน้ำมันมะกอก ใส่กระเทียม  ไวน์ขาว และใส่เนื้อล็อบสเตอร์ลงไป  พร้อมกับใส่พริกนิดหน่อยเพื่อเพิ่มความเผ็ด  ม้วนเส้นสปาเก็ตตี้เข้าปากเคี้ยวเส้นเหนียวนุ่มได้รสชาติความหอมของน้ำมัน มะกอกและไวน์ขาว กลมกล่อมรสชาติเข้ากับเนื้อล็อบสเตอร์หวานนุ่มลิ้น  |  |   |  | Spaghetti with Rock Lobster and white wine | 
 |   |  | 
 
 | 
 | พอได้กินเมนูพาสต้าไปแล้วถึง 2 จาน คราวนี้มากินเมนคอร์สกันต่อเป็น Lamb chop  (499 บาท++) ที่ถ้าใครชอบกินเนื้อแกะไม่ควรพลาดลิ้มรสเด็ดขาด  เพราะที่นี่คัดสรรส่วนของเนื้อแกะที่ดีมาทำ  โดยจะนำมาชิ้นเนื้อแกะมาหมักกับเครื่องเทศหลายอย่างและหมักทิ้งไว้ข้ามวันจน เครื่องเทศซึมถึงเนื้อในแกะ แล้วนำมากริลล์ให้สุกเสิร์ฟมาร้อนๆ  มีกระเทียมกับโรสแมรี่โรยหน้ามาด้วย  ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายจนต้องรีบหั่นชิ้นเนื้อแกะแล้วส่งเข้าปากเคี้ยวเนื้อ แกะหอมนุ่มเหนียวหนึบหนับ ได้รสชาติเครื่องหมักที่เข้มข้นซึมถึงเนื้อในแกะ  โดยไม่ต้องมีน้ำเกรวี่หรือน้ำซอสอะไรจิ้มเพิ่มรสชาติ  และที่สำคัญไม่มีกลิ่นสาปแกะเลย  |  |   |  | Lamb chop | 
 |   |  | 
 
 | 
 | กินเมนูของคาวไปจนจะอิ่มท้อง  แต่แน่นอนว่าพวกเราก็ไม่ลืมที่จะเหลือพื้นที่ในท้องไว้กินของหวานด้วย  เพราะที่นี่มีไอศกรีมโฮมเมดที่ทางร้านทำเองให้เลือกสั่งมากินเป็นเมนูล้าง ปากแบบเย็นชื่นฉ่ำลิ้นอย่างหลากรสชาติ รสที่ขอแนะนำมี Sunkist Sorbet  (210 บาท++) จะได้สัมผัสถึงรสชาติไอศกรีมที่มีเนื้อส้มล้วนๆ เปรี้ยวๆ  หวานๆ กินแล้วเย็นสดชื่นฉ่ำปาก  แถมมีเปลือกส้มต้มกับไวน์ขาวราดมาเป็นท็อปปิ้งด้วย  |  |   |  | Ice Cream และ Tiramisu | 
 |   |  | 
 
 | 
 | ส่วนอีกหนึ่งรสชาติที่ไม่ควรพลาดแถมหากินได้ยากคือ Chestnut Ice Cream  (210 บาท++) เป็นไอศกรีมเกาลัดเนื้อเนียน  ที่ทำมาจากเกาลัดเชื่อมของฝรั่งเศส  มีเนื้อเกาลัดให้เคี้ยวนุ่มละมุนไปกับเนื้อไอศกรีมรสหวานกำลังดี  และราดด้วยท็อปปิ้งเกาลัดหวานหอม  แล้วก็ขอปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งเมนูของหวานประจำร้านที่ขายดี นั่นคือ Tiramisu (210 บาท++) เนื้อแน่นเนียนนุ่มเข้มข้นไปด้วยรสชาติของกาแฟเย็นฉ่ำปาก  |  |   |  | มุมห้องเก็บไวน์ | 
 |   |  | 
 
 | 
 | เหล่านี้เป็นเพียงเศษเสี้ยวของเมนูจานเด็ด ที่ “ตระเวนกิน”  และเพื่อนได้ลองลิ้มและติดใจในรสชาติ  จนต้องขอนำมาเสนอให้มิตรรักรักนักกินได้ลองตามไปชิมกันบ้าง  แต่ว่านอกจากนี้แล้วก็ยังมีเมนูอื่นๆ อีกมากในรายการที่ชวนกินไม่แพ้กัน  อาทิ Mixed Salad (240 บาท++) Spaghetti alla Carbonara (340 บาท++) Seabass with green sauce (499 บาท++) Grilled Devil Chicken (490 บาท++) และเมนูอื่นๆ อีกสารพัดที่ชวนให้ได้มานั่งละเมียดละไมไปกับการกินอาหารอิตาเลียนที่ “Delicatezza”  |  |   |  | ครัวเปิดของร้านที่เห็นขั้นตอนการปรุงอาหารของเชฟ | 
 |   |  | 
 
 * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
 
 "Delicatezza"  (เดลิคาเตซซ่า) ตั้งอยู่ที่ 145 ซ.ทองหล่อ 10 ถ. สุขุมวิท คลองตันเหนือ  วัฒนา กทม. การเดินทางนั่งรถไฟฟ้าBTS มาลงที่สถานีทองหล่อ  แล้วตรงเข้ามาที่ทองหล่อซ.10  เข้ามาในซอยนิดเดียวจะเห็นร้านเดลิคาเตซซ่าตั้งอยู่ทางซ้ายมือ  ภายในร้านมีที่จอดรถ เปิดอังคาร-อาทิตย์ เวลา 11.30-14.30 และ 17.30-23.00  น. โทร. 0-2392-4977 ถึง 8, 08-1989-8947
 | 
No comments:
Post a Comment