โดย : สันติ เศวตวิมล | ||||
อาหารญี่ปุ่นส่วนใหญ่ถูกดัดแปลง แต่อาหารญี่ปุ่นอร่อยสุดจะต้อง เป็นอาหารญี่ปุ่นแท้...แท้ไม่ดัดแปลง "แพง ขวัญข้าว"...ลูกสาวผม บอกกับผมและคุณป้าช้อยว่า คืนวันวาเลนไทน์ จะต้องกินอาหารกับคนรักที่สุดในชีวิต ผมก็อยากจะรู้จักคนที่ลูกสาวผมรัก เผื่อ...เผื่อจะได้อุ้มหลานสักที รอมาหลายปีแล้ว เธอพาผมไปที่ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อ "เคนจิ" ที่โรงแรมปาร์ค นายเลิศ | ||||
ตั้งแต่ท่านเสียไปก็ไม่ได้แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนกัน ทั้งที่ชอบอาหารญี่ปุ่นห้อง "เคนจิ" กับอาหารฝรั่งเศส "มาเมซอง" ห้องอาหารญี่ปุ่น "เคนจิ" ตบแต่งใหม่ กลิ่นอายตะวันออกแบบญี่ปุ่นที่ผมเคยมองดูสวนต้นไม้สบายตา...สบายใจ ช่วยทำให้อาหารอร่อยขึ้น แต่ตอนนี้หายไป กลายเป็นบรรยากาศแบบตะวันตก ชนิดอึดอัด ซึ่งเหมาะสำหรับประเทศที่หนาวจัด ไม่ใช่ประเทศที่ร้อนจ้าแบบบ้านเรา แต่เอ๊า...ก็พอจะเอาอยู่ เพราะลูกสาวจะพามาดูคนที่เธอรักมากที่สุดในคืน "วาเลนไทน์"...ไม่รู้ว่าหน้าตาว่าที่ลูกเขยจะหล่อเหลาเหมือนผมมั้ย? | ||||
แต่ผมไม่ได้สนใจจะกี่ดาว เพราะลิ้นฝรั่ง...ลิ้นไทย มันไม่เหมือนกัน ผมเคยชิม "เชฟมิชิลีนสามดาว" ทั้งที่เดินทางมาโชว์ฝีมือบ้านเรา จนไปถึงผมต้องเดินทางไปกินบ้านเขา แล้วผมก็บอกได้ว่า "...ดาวมิชิลีน" กับ "ดาวเปิบพิสดาร" ของ "ป้าช้อย นางรำ" แตกต่งกันครับ อย่างที่มีสำนวนไทยโบราณท่านว่า ...ลิ้นใครลิ้นมัย สูตรใครสูตรมัน จะให้เหมือนกันไม่มีทาง... | ||||
แต่ถ้าเป็นชุดใหญ่ละก็ 7,000 ทั้งนี้ยังไม่รวมค่าภาษี ค่าบริการที่จะต้องชาร์ตอีกต่างหาก เพราะฉะนั้นเพื่อไม่ต้องคิดให้มันยุ่งยาก ทั้งค่าอาหาร ทั้งค่าเครื่องดื่ม รวมทั้งภาษีและบริการ...ตกหัวละหมื่นบาท ถ้าเงินจำนวนนี้สามารถเรียกหาความรักได้ ผมก็ว่า...ไม่แพง!! และไม่แพงด้วย เพราะรายการ "ดินเนอร์ วาเลนไทน์" ลูกสาวผม "แพง ขวัญข้าว" เป็นคนจ่ายครับ | ||||
"คืนแห่งความรัก" เริ่มต้นด้วย "ออเดย์" หรือ "ออเดิร์ฟ" อาหารทะเล ที่ปรุงมาสี่...ห้าอย่าง จานที่สองเป็น "ไข่ตุ๋นญี่ปุ่น" ใส่เนื้อปูแบบรสชาติฝรั่ง จานที่สามเป็นหอยสกาลอป ไข่หอยเม่น ราดด้วยซอสเห็ดทัฟเฟิล ผสมเหล้าสาเก จานที่สี่ เป็น "เป๋าฮื้อสด" จากออสเตรเลีย ราดด้วยซอสพิสดารทำจากกระเพาะของเป๋าฮื้อ จานที่ห้า "กุ้งลอบสเตอร์" จากเมืองเมน อเมริกา ที่ในตัวมีรสชาติของกุ้งผสมกับปู จานที่หก เป็นปลากระทงทอดหนังกรอบ ราดด้วยน้ำซอสแบบญี่ปุ่นปนฝรั่งเศส จานที่เจ็ด เป็นเนื้อโกเบกริลล์ ของญี่ปุ่น มีซอสให้เลือกจิ้ม 4 อย่าง ส่วนจานสุดท้าย เป็นขนมช็อกโกแลตชาวกับสตอเบอร์รี่แดง (สำหรับเหล้าสาเกที่ใช้ดื่มคู่กับอาหารเป็นสาเกชื่อว่า "มาโบโรชิ" ที่แปลว่า "สาเกในฝัน" ที่เชฟเลือกสรรหิ้วมาจากโตเกียว) | ||||
แต่สำหรับผม คืนนั้นความประทับใจไม่ได้อยู่ที่ได้ไปกินอาหารหรอกครับ เพราะกินจนอิ่มหนำสำราญ คนที่ลูกสาวผมบอกว่านัดคนรักมาให้กินข้าวร่วมกันไม่เห็นมาซะที ผมรอไม่ไหวก็เลยต้องถามไปตรง...ตรงว่า "เมื่อไหร่คนที่ลูกรักมากที่สุดในชีวิตจะมาให้พ่อรู้จักเสียที" "แพง ขวัญข้าว" ยิ้มอย่างมีเลศนัย แล้วก็เอานิ้วนางข้างซ้ายที่เป็นนิ้วใส่แหวนหมั้น แหวนแต่งงานชี้มาที่ผมแล้วบอกว่า ..."ก็พ่อนี่ไง แพงรักที่สุดในโลก..." มุกลูกสาวผมเยอะจัง ตามไม่ทันครับ |
Tuesday, March 27, 2012
"ดินเนอร์ วาเลนไทน์" ที่ห้องอาหารญี่ปุ่น "เคนจิ"/สันติ เศวตวิมล
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment