| “มา ชิส ซอ โย” เป็นภาษาเกาหลี แปลว่า “อร่อย”| |   |  | บรรยากาศโต๊ะนั่งชั้นล่างร้านเมียงกา | 
 |   |  | 
 
 “ตระเวนกิน” ต้องขอเอ่ยปากชมเป็นภาษาเกาหลี ก็เพราะว่าในมื้อนี้เราได้มาอิ่มอร่อยกับอาหารเกาหลีรสชาติดีอันถูกปากยังร้านที่มีชื่อว่า “เมียงกา” (Myeong Ga) เป็นภาษาเกาหลี แปลว่า “ร้านที่มีชื่อเสียง” ซึ่งตั้งอยู่ตรงโคเรียนทาวน์ (สุขุมวิทพลาซ่า) ซ.สุขุมวิท 12
 
 | 
 | “เมียงกา” เป็นร้านอาหารเกาหลีขนานแท้จริงๆ ที่เปิดให้บริการความอร่อยมานานกว่า 5 ปีแล้ว มีเจ้าของเป็นคนเกาหลีชื่อคุณ Dae-Sook Yoon เป็น ผู้หญิงที่น่ารัก ยิ้มแย้มแจ่มใส บริการลูกค้าด้วยมิตรไมตรี  และเธอก็ยังเป็นแม่ครัวฝีมือเอกที่ลงมือปรุงอาหารเกาหลีหลากหลายเมนูที่มี ขายอยู่ที่ร้านด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นสูตรแบบต้นตำรับเกาหลีขนานแท้  อีกทั้งวัตถุดิบส่วนใหญ่ก็ต้องส่งตรงมาจากประเทศเกาหลี  และเลือกสรรคัดแต่วัตถุดิบที่ดี  มีคุณภาพเพื่อนำมาปรุงเป็นเมนูเกาหลีที่ชวนลิ้มรสมากมาย  |  |   |  | ห้องส่วนตัวตกแต่งสไตล์เกาหลี | 
 |   |  | 
 
 | 
 | อย่างถ้ามาถึงร้านเมียงกาแล้วก็มีเมนูเกาหลีหลายอย่างที่อยากแนะนำ ให้ได้ลองลิ้มรสกัน โดยก่อนอื่นที่เราจะได้สั่งเมนูจานเด็ดมาชิมกันนั้น  ถือว่าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันเลยก็ว่าได้  ที่ว่าเมื่อเราเข้านั่งที่โต๊ะเรียบร้อยแล้วทางร้านก็จะเสิร์ฟเครื่องเคียง  หรือที่เรียกว่า พันชัง ให้ทุกโต๊ะก่อนเลย  ซึ่งเครื่องเคียงที่ว่านี้ก็คืออาหารจานเล็กๆ ที่ทางร้านจะนำมาเสิร์ฟประมาณ  8 อย่าง โดยจะมีเมนูหลากหลายหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันไปในแต่ละวัน อาทิ  กิมจิหัวไชเท้า แตงกวาดอง เห็ดนางฟ้าปรุงรสน้ำมันงา ไข่ตุ๋น  ถั่วลิสงต้มน้ำตาล ผักขม ยำมะเขือยาว ซูกินีกับมันฝรั่งชุบแป้งทอด  ซึ่งเครื่องเคียงพวกนี้สามารถเติมได้ด้วย  |  |   |  | พันชัง | 
 |   |  | 
 
 | 
 | เอาล่ะจากนั้นก็สั่งอาหารเกาหลีจานหลักมากินกันดีกว่า มีเมนูจานเด่นที่ชวนลิ้มรสอยู่หลายอย่าง อย่างแรกที่อยากแนะนำ คือ กิมชีจิแข่  (Kim Chi Chi Gae) (200 บาท) เป็นซุปผักดองแบบเกาหลี ปรุงรสด้วยหมู 3 ชั้น  เต้าหู้ขาว หัวหอมใหญ่ เสิร์ฟมาในหม้อร้อนๆ พร้อมกับข้าวหอมมะลิ  กินซุปกิมจิหอมๆ ซดน้ำร้อนๆ ชุ่มชื่นโล่งคอ และออกรสเข้มข้นกลมกล่อมมากๆ  กินคู่กับข้าวสวยเม็ดนุ่ม อร่อยได้ใจจริงๆ  |  |   |  | กิมชีจิแข่ | 
 |   |  | 
 
 | 
 | เมนูต่อมา คือ โดลซดบีบิมบับ (Dol Sot Bi Bim Bab)  (220 บาท) ที่ยกเสิร์ฟกันมาแบบเป็นชามหินร้อนๆ  ข้างในมีข้าวสวยคลุกกับน้ำมันงา และมีสารพัดเครื่องใส่โรยหน้ามามีทั้ง  ถั่วงอกยำ เห็ดหอมผัด กิมจิผัด หมูผัดปรุงรส ผักขมยำ มะละกอ ไข่ขาว  และไข่แดงดิบ และมีโคชูจัง (น้ำพริกเกาหลี) มาให้ด้วย  เวลากินให้เอาโคชูจังใส่ลงไปในชามและคลุกเคล้าเครื่องทุกอย่างให้เข้ากัน  ลิ้มรสข้าวเม็ดนุ่มเคี้ยวนิ่มเข้ากับเครื่องทุกอย่างที่ใส่มาได้รสชาติโคชู จังที่เข้ากันได้อย่างกลมกลืน  |  |   |  | โดลซดบีบิมบับ | 
 |   |  | 
 
 | 
 | ตามมาติดๆ ด้วยเมนูนี้ พาจ็อน (Pa Jun) (280 บาท)  หรือที่เรียกว่าพิซซ่าเกาหลี เพราะมีลักษณะกลมๆ เหมือนพิซซ่า  แต่ว่าเป็นแป้งหมักสูตรพิเศษ ใส่กุ้ง หมึก และใส่ต้นหอมเยอะมากๆ  ชิมแล้วก็ถูกปากดีกับแป้งนุ่มๆ ได้รสชาติกุ้ง หมึก  และต้นหอมที่ลงตัวเข้ากัน  และจิ้มกินกับน้ำจิ้มซอสถั่วเหลืองที่ผสมกับน้ำส้มสายชูนิดหน่อย  เพิ่มรสชาติไปอีกแบบ  |  |   |  | พาจ็อน | 
 |   |  | 
 
 | 
 | หลังจากได้กินเมนูจานเดียวกันแล้ว  คราวนี้มากินเมนูสไตล์ปิ้งย่างแบบเกาหลีกันบ้าง  ซึ่งที่นี่มีเนื้อให้เลือกสั่งมาย่างอยู่หลายแบบ อย่างที่อยากนำเสนอก็มี แดจิคัลบี  (Green tea Gal-bi) (300 บาท)  เป็นเนื้อหมูส่วนซี่โครงหมักกับเครื่องเทศและโคชูจังนานกว่า 1 วัน  ก่อนจะนำมาให้ย่างบนเตาถ่านร้อนๆ และยังมีผักสดมาให้ห่อกิน  มีพริกกับกระเทียมมาให้ย่างกินด้วย และมาพร้อมกับน้ำจิ้มที่ให้เลือกกินถึง 3  แบบ คือ มีน้ำจิ้มน้ำมันงาผสมกับเกลือและพริกไทย มีน้ำจิ้มซอสถั่วเหลือง  และน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวที่ทางร้านปรุงขึ้นมาเป็นพิเศษ  |  |   |  | แดจิคัลบี | 
 |   |  | 
 
 ย่างหมูบนเตาร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมๆ พอหมูสุกกำลังพอดี  คีบชิ้นเนื้อหมูส่งเข้าปากเคี้ยวนุ่มได้รสชาติเครื่องหมักถูกปากดี  หรือจะจิ้มกินกับน้ำจิ้มตามรสที่ชอบ และห่อกินกับผักยิ่งอร่อยเข้าไปใหญ่
 
 | 
 | ยังมีเนื้อที่น่าสั่งมาย่างอีก คือ ยังเนียมคัลบี (Yang-nyum  Gal Bi) (450 บาท)  เป็นเนื้อวัวส่วนซี่โครงที่ทางร้านนำมาหมักกับเครื่องปรุง เครื่องเทศเกาหลี  และผักตามสูตรเด็ดของทางร้าน หมักนานกว่า 1 วัน  เนื้อจะถูกเสิร์ฟมาแบบม้วนห่อมาเป็นก้อน เวลาย่างก็คลี่เนื้อออกมาย่างบนเตา  ย่างจนสุกได้ที่ทางร้านจะมีกรรไกรไว้ให้ตัดเนื้อออกเป็นชิ้นๆ พอดีคำ  ลิ้มรสเนื้อเคี้ยวนุ่มหนึบหนับปาก  ได้รสชาติเครื่องหมักกลมกล่อมถูกใจคนกินเนื้อจริงๆ  |  |   |  | ยังเนียมคัลบี | 
 |   |  | 
 
 | 
 | และก็มีเนื้อวัวอีกอย่างที่น่ากิน คือ แอลเอคัลบี  (L.A Gal-bi) (450 บาท) เป็นเนื้อวัวส่วนติดซี่โครง ที่แล่มาเป็นชิ้นยาวๆ  และหมักกับเครื่องเทศเครื่องปรุงเหมือนเนื้อตัวอื่นๆ ซึ่งหมักนานถึง 1  วันเช่นกัน กินเนื้อแล้วก็ต้องบอกว่าเนื้อนุ่มลิ้นมากๆ ไม่เหนียวเลย  |  |   |  | แอลเอคัลบี | 
 |   |  | 
 
 | 
 | ในมื้อนี้เราก็ได้เลือกอิ่มกับอาหารเกาหลีไปหลายเมนูแล้ว  แต่ก็ยังเห็นว่าในเมนูอาหารมีอาหารจานอื่นอีกหลายอย่างที่น่าลองลิ้ม อาทิ Sam Gae Tang (ซุปไก่) (300 บาท) Dak Bul Go Gi (ไก่หมึกย่างสไตล์เกาหลี) (280 บาท) Jab-Chae (ผัดวุ้นเส้นเกาหลี) (350 บาท) Ddok Bok ki (ด็อกโบคกิ) (200 บาท) และอีกสารพัดอาหารเกาหลีที่ล้วนแล้วแต่น่าลองลิ้มทั้งนั้นเลย  |  |   |  | เต็มอิ่มกับเมนูปิ้งย่าง | 
 |   |  | 
 
 | 
 | เรียกว่าหากใครที่เป็นสาวกเกาหลี และชื่นชอบอาหารเกาหลี ก็อยากจะเชิญชวนให้มาที่ร้าน “เมียงกา” แห่งนี้กันดูเพราะจะได้ลิ้มรสชาติอาหารเกาหลีแบบต้นตำรับขนาดแท้ที่ถูกปากคนไทยอย่างแน่นอน  |  |   |  | ย่างเนื้อร้อนๆ บนเตาถ่าน | 
 |   |  | 
 
 | 
 | * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *  |  |   |  | บรรยากาศโต๊ะนั่งชั้น 2 | 
 |   |  | 
 
 “เมียงกา” (Myeong  Ga) ตั้งอยู่ที่ 212/16 ชั้น 1 สุขุมวิทพลาซ่า ซ.สุขุมวิท 12 ถ. สุขุมวิท  คลองเตย คลองเตย กทม. การเดินทางจากถ.สุขุมวิท มุ่งหน้ามาที่ซ.สุขุมวิท 12  สุขุมวิทพลาซ่า (โคเรียนทาวน์) และตรงเข้ามาในสุขุมวิทพลาซ่าบริเวณชั้น 1  จะเห็นร้านเมียงกาตั้งอยู่มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน  จอดรถได้ที่บริเวณลานจอดรถของสุขุมวิทพลาซ่า ร้านเปิดทุกวัน เวลา  10.00-22.00 น. แต่ทุกวันจันทร์เปิด 16.00 น.  ถ้ามากินแนะนำว่าควรโทร.มาจองโต๊ะก่อนจะดี  และทางร้านรับจัดงานเลี้ยงด้วยโทร. 0-2229-4658, 08-1630-0532
 | 
No comments:
Post a Comment