Sunday, February 27, 2011

"Parc" อาหารเพลินปาก บรรยากาศเพลินใจ

บรรยากาศโต๊ะนั่งด้านล่างของร้าน Parc
       เอาอีกแล้วเหล่าก๊วนเพื่อนสนิทมิตรรักนักกินของ "ตระเวนกิน" นัดรวมก๊วนกันมาเฮอาปาร์ตี้กับการกินกันอีกแล้ว โดยในมื้อนี้สถานที่ปาร์ตี้แบบอิ่มหนำของพวกเรา มุ่งตรงมาแถวหลังสวนลุมพินี เพราะสืบรู้มาว่ามีร้านอาหารน้องใหม่สไตล์เรสเทอรองค์แอนด์บาร์เปิดใหม่ ซึ่งมีความน่าสนใจทั้งด้วยบรรยากาศร้าน และอาหารที่ทางร้านเขานำเสนออาหารสไตล์อเมริกันและอิตาเลียนที่ชวนให้เดิน ทางมาลองลิ้มกัน
เคาน์เตอร์บาร์ที่บริการเครื่องดื่มแบบครบครัน
       ร้านที่ว่านี้ก็คือร้าน "Parc" (พาร์ค เป็นภาษาฝรั่งเศส แปลว่า สวน) ที่เพียงแค่เห็นตัวร้านที่กรุกระจกใสแบบโล่งๆ ก็ช่างดูโปร่งสบาย เมื่อเดินเข้ามาด้านในก็สัมผัสได้กับการตกแต่งร้านแบบสไตล์คอนเทมโพรารี่ ผสานสไตล์นิวยอร์คนิดๆ และเล่นแสงไฟสีเหลืองนวลตา สร้างอารมณ์อบอุ่นแบบโรแมนติกได้อีกแบบ มีโต๊ะนั่งเบาะนุ่มแบบแนวยาว และมีมุมโต๊ะนั่งเล็กๆ แบบส่วนตัวด้วย ยังไม่พอที่ชั้นล่างนี้ยังมีมุมเคาน์เตอร์บาร์ที่จะมีบาร์เทนเดอร์มาคอยให้ บริการเครื่องดื่มแบบครบครัน รวมถึงมีไวน์บริการด้วย แล้วเมื่อเดินขึ้นมาที่ชั้น 2 ของร้าน ก็มีโต๊ะนั่งมุมสบายให้เลือกนั่งกันตามใจชอบ แถมยังเปิดเพลงเพราะๆ ให้ฟังอย่างเพลินเพลิด
      
       บรรยากาศอันพาให้ชวนนั่งอย่างนี้ ก็ต้องควบคู่กับอาหารที่ชวนกินเช่นกัน ซึ่งอย่างที่บอกไว้แล้วนั้นว่าที่ร้านนี้เขาเน้นบริการอาหารฝรั่งสไตล์ อเมริกันและอิตาเลียน ที่มีเมนูอันน่าลิ้มลองมากมาย อย่างที่พวกเราเลือกสั่งกันแบบตามใจชอบ และเลือกเอาแต่เมนูเด่นๆ ก็มีหลายเมนูด้วยกัน
Calamari Fritti
       นำเสนอจานแรก Calamari Fritti (150 บาท) คือปลาหมึกชุบแป้งทอดที่อาจดูเหมือนเป็นเมนูธรรมดาๆ แต่ขอบอกว่ารสชาติไม่ธรรมดาอย่างที่คิด เพราะเป็นหมึกกล้วยหั่นมาเป็นวงๆ ชุบแป้งปรุงรสทอดมาจนเหลืองกรอบ ส่งชิ้นหมึกชุปแป้งทอดเข้าปากเคี้ยวกรอบนอกนุ่มในเนื้อแน่นหนึบ จิ้มกินคู่กับซอสเปรี้ยวหวาน และเทาซันซอสเพิ่มรสชาติ
Soft Shell Crab Salad
       ต่อด้วยเมนูนี้ Soft Shell Crab Salad (220 บาท) เป็นสลัดปูนิ่ม ที่ปูนิ่มมาแบบทั้งตัวชุบแป้งทอดกรอบ มาพร้อมกับสลัดผักไฮโดรโพนิกส์ ราดด้วยน้ำสลัดบาซามิก เมนูเด่นที่ปูนิ่มเนื้อกรอบนอกนุ่มใน กินเข้ากันกับสลัดผักสดๆ กลมกล่อมน้ำสลัดบาซามิก
Spicy Mussels
       พอสลัดหมดจานพวกเราสั่ง Spicy Mussels (200 บาท) มากินกัน เมนูนี้หน้าตาดีชวนกินมากๆ เป็นหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ตัวใหญ่ ราดด้วยซอสสไปซี่สูตรเด็ดของทางร้าน แล้วนำไปอบจนหอยสุกได้ที่ เสิร์ฟมาร้อนๆ ลิ้มรสชาติหอยเนื้อนุ่มหวานสดผสานกลมกลึงเข้ากับรสชาติซอสสไปซี่ที่ออกหวาน นิดๆ เผ็ดลิ้นหน่อยๆ
Salmon pink Sauce
       หลังจากกินเมนูหอยไปแล้วเลือกที่จะสั่งเมนูปลามากินบ้าง มีชื่อว่า Salmon pink Sauce (220 บาท) เป็นปลาแซลมอนจากแอตแลนติคเอามาทำให้พอสุก แล้วมีเส้นสปาเก็ตตี้ที่นำมาผัดกับพิงค์ซอสสูตรเฉพาะของทางร้านใส่มาด้วย กินแซลมอนเนื้อนุ่มหวาน เข้าคู่กับเส้นสปาเก็ตตี้ที่ออกรสชาติซอสที่กลมกล่อมปาก
Grilled Tenderloin Pepper Sauce
       อีกหนึ่งเมนูจานเด่นที่เลือกมากินเป็น Grilled Tenderloin Pepper Sauce (450 บาท) คือ เนื้อสันในย่างซอสพริกไทยดำ เป็นเนื้อออสเตรเลียส่วนสันใน เอามากริลล์ (สามารถสั่งได้ว่าเอาสุกมากสุกน้อย) แล้วก็ราดด้วยซอสพริกไทย แล่ชิ้นเนื้อเคี้ยวเข้าปากเนื้อเคี้ยวนุ่มชุ่มความหวานของเนื้อที่ดี ผสานเข้ากับรสชาติซอสพริกไทยดำรสเด็ด
Original Mama’ s Pancake
       และแม้ว่าพวกเราจะอิ่มกับอาหารคาวไปหลายอย่าง แต่ก็ไม่ลืมที่จะสั่งของหวานมากินกันด้วย ที่แนะนำคือOriginal Mama’ s Pancake (80 บาท) เป็นแพนเค้กแป้งสูตรจากอเมริกาที่ทางร้านผสมปรุงแต่งเอง ทำมาทำเป็นแพนเค้กสีเหลืองหอมชวนกิน ราดด้วยน้ำผึ้ง และมีวิปปิ้งครีมให้กินแกล้มกัน แพนเค้กเนื้อนุ่มนิ่มออกรสเค็มนิดๆ แต่ก็ได้ความหวานจากน้ำผึ้งถูกปากดี
บรรยากาศโต๊ะนั่งชั้น 2
       มื้อนี้พวกเราเล่นกินกันเสียอิ่มท้อง แต่ก็ยังแอบเห็นว่าในเมนูยังมีอาหารอีกหลายอย่างที่ชวนกิน อาทิ Seared Tuna Salad (180 บาท) Bruschetta (120 บาท) Charcoal Grilled Lamb Rack (480 บาท) ฯลฯ รวมถึงเครื่องดื่มของที่นี่ก็ชวนดื่มมีทั้งแบบค็อกเทลและม็อกเทล อาทิ Frozen Lychee Mint (80 บาท) Green Parc (80 บาท) Lumpini (220 บาท) และเครื่องดื่มอื่นๆ อีกมากมาย ที่ชวนให้ทั้งดื่มและกินกันมากมาย เรียกว่าอิ่มเอมสำราญแบบเต็มอิ่มเมื่อมาที่ร้าน "Parc" แห่งนี้

No comments:

Post a Comment