เบต้าแคโรทีนนั้น จะพบได้ในผัก และผลไม้ที่มีสีส้ม เหลือง หรือแดง โดย เมื่อเรากินอาหารที่มีเบต้าแคโรทีนเข้าไป ร่างกายก็จะเปลี่ยนเบต้าแคโรทีนให้เป็นวิตามินเอโดยเอนไซม์ในลำไส้ในปริมาณ ที่ร่างกายต้องการ เบต้าแคโรทีนมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก โดยจะช่วยบำรุงสายตา ช่วยป้องกันผิวที่อาจเกิดจากอันตรายของรังสีอัลตราไวโอเลตที่มากับแสงแดดได้ ทำให้ผิวพรรณมีสุขภาพดี ช่วยรักษาสภาพปกติของเซลล์เยื่อบุตาขาว กระจกตา ช่องปาก ทางเดินอาหาร ทางเดินหายใจ รวมถึงทางเดินปัสสาวะให้เป็นปกติ และช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกัน ของร่างกายทำงานได้ดี รวมไปถึงยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอย่างที่บอกไปข้างต้นอีกด้วย
ในผลไม้ไทยนั้น ผลไม้ที่พบสารเบต้าแคโรทีนมากที่สุด 10 อันดับแรกก็คือ 1.มะม่วงน้ำดอกไม้สุก 873 ไมโครกรัม 2.มะเขือเทศราชินี 639 ไมโครกรัม 3.มะละกอสุก 532 ไมโครกรัม 4.แคนตาลูปเหลือง 217 ไมโครกรัม 5.มะปรางหวาน 230 ไมโครกรัม 6.มะยงชิด 207 ไมโครกรัม 7.สับปะรดภูเก็ต 150 ไมโครกรัม 8.แตงโม 122 ไมโครกรัม 9.ส้มสายน้ำผึ้ง 101 ไมโครกรัม และ 10.ลูกพลับ 93 ไมโครกรัม
ทั้งวิตามินอี วิตามินซี และเบต้าแคโรทีนนี้ ต่างก็ล้วนแต่เป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งนั้น อีกทั้งยังหามาบริโภคได้ง่าย รสชาติก็ยังอร่อยถูกปากหลายๆ คนอีกด้วย จึงไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะช่วยเพิ่มสารอาหารที่ต้านทานอนุมูลอิสระให้กับ ร่างกายของเรา
No comments:
Post a Comment