Sunday, February 27, 2011

"BARLEY BISTRO & BAR" ปาร์ตี้ชวนอร่อย

บรรยากาศนั่งสบายๆ ภายในร้าน BARLEY BISTRO & BAR
       ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ต้องเหน็ดเหนื่อยกับการทำงานอันหนักอึ้ง ครั้นพอถึงเย็นวันศุกร์ทีไร เชื่อแน่ว่าใครๆ ต่างก็ต้องคิดอยากจะหาสถานที่ผ่อนคลายลดความเครียด และความเมื่อยล้าจากการทำงานกันเป็นแน่ ซึ่งหากได้ออกมาปาร์ตี้สังสรรค์กับผองเพื่อน มานั่งกินนั่งดื่มกันให้สำราญใจ คงจะเป็นอะไรที่พิเศษสุดว่าไหม??
      
       หากว่าใครพยักหน้าเห็นด้วยกับ "ตระเวนกิน" แล้วล่ะก็ ขอให้ตามเรามาได้เลย เพราะว่าในมื้อนี้เราจะขอพามิตรรักนักกินทุกคนไปปาร์ตี้แฮงเอ้าท์กันแบบอิ่ม เอมทั้งกายและใจ ยังร้านอาหารน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวมาได้ไม่นาน กับร้านที่มีชื่อว่า "BARLEY BISTRO & BAR" (บาร์เล่ย์ บิสโทร แอนด์ บาร์) เป็นร้านอาหารกึ่งบาร์ที่มีสไตล์การตกแต่งเป็นของตัวเอง โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์แนวโมเดิร์นสมัยใหม่ และดูเก๋ไก๋ออกแนวอาร์ตแบบมีสไตล์ ซึ่งภายในร้านที่มีถึง 2 ชั้น คือชั้น 3 และชั้น 4 บนอาคารฟู้ดแชนนอล ได้ถูกจัดตกแต่งให้มีบรรยากาศของร้านที่ชวนนั่ง และมีให้เลือกนั่งถึง 3 โซนด้วยกัน
โต๊ะนั่งโซนบาร์ที่ชั้น 4
       อย่างถ้าหากมากับเพื่อนๆ หลายคนแล้วต้องการมานั่งกินอาหารแบบสบายๆ พูดคุยกันได้อย่างสนุกสนาน แนะนำว่ามาที่ชั้น 3 ที่จัดให้มีโต๊ะนั่งกินอาหารแบบสบายๆ สไตล์โมเดิร์น และแฝงไว้ด้วยงานศิลปะและภาพวาดอันกิ๊บเก๋ แต่ถ้าอยากรื่นรมย์กับการนั่งดื่ม พร้อมกับสนุกสนานไปกับเสียงเพลง และออกแนวมันส์ๆ นิดๆ ต้องขั้นมาที่ชั้น 4 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโซนบาร์ ภายในมีเคาน์เตอร์บาร์ที่คอยบริการเครื่องดื่มแบบครบครัน ส่วนเรื่องของเสียงเพลงนั้น ทางร้านจะเปิดเพลงเพราะๆ ให้ฟังสไตล์แจ๊ซ บอสซ่า และถ้ามาในวันพุธ, ศุกร์, เสาร์ เวลา 21.00-23.00 น. จะมีนักดนตรีมาเล่นดนตรีสดๆ สไตล์ป๊อปแจ๊สใฟ้ฟังกันอย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน
      
       และถ้าอยากนั่งแบบชิลล์ ชิลล์ สัมผัสสายลมเย็นๆ และมองเห็นดวงดาวบนฟากฟ้ายามค่ำคืน แนะนำว่าต้องเป็นโซน out door ที่ถือว่าเป็นโซนยอดฮิตของทางร้าน เป็นลานกว้างที่ถูกตกแต่งให้โปร่งโล่ง มีโต๊ะนั่งแบบหลากหลายให้เลือกนั่งตามใจชอบแบบสบายๆ มีทั้งโซฟานุ่มๆ เก้าอี้ตัวใหญ่ และที่นั่งแบบ Daybed ให้ได้เลือกนั่งเอกเขนกแบบผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี
ปอเปี๊ยะเห็ดชีส
       นี่เป็นแค่ส่วนของบรรยากาศร้านที่ชวนให้มานั่งกัน ส่วนเรื่องอาหารการกินของที่ร้านนี้ก็มีความน่าสนใจไม่น้อยหน้ากัน เพราะว่าอาหารที่ทางร้านนำเสนอนั้น เป็นอาหารสไตล์ฟิวชั่น ที่ทางร้านคิดค้นปรุงแต่งขึ้นมาเอง โดยนำเอาอาหารไทยมาผสมผสานกับอาหารชาติอื่นๆ ออกมาเป็นเมนูพิเศษเฉพาะของทางร้านที่ล้วนแล้วแต่ชวนกินทั้งนั้นเลย แถมทางร้านยังมีการคิดค้นเมนูใหม่ๆ ออกมาหมุนเวียนเปลี่ยนไปอยู่เรื่อยๆ เพื่อให้ได้เลือกอิ่มอร่อยกัน
      
       สำหรับมื้อนี้เราก็ขอนำเสนอเมนูที่น่าลองลิ้มที่ถือว่าเป็นเมนูเด่น ประจำร้านมาให้ชิมก็แล้วกัน เริ่มจากจานแรกเป็นเมนูกินเล่นรองท้องกันก่อนด้วย ปอเปี๊ยะเห็ดชีส (95 บาท+) เป็นแป้งปอเปี๊ยะที่ข้างในห่อด้วยไส้เห็ดหอม และเห็ดฟาง ที่นำมาผัดปรุงรสชาติแล้วม้วนห่อด้วยชีสอีกที และทอดมาแบบเหลืองกรอบ กินแล้วโดนใจแป้งปอเปี๊ยะกรอบนอกนุ่มในด้วยไส้เห็ดรสดี แถมมีชีสหอมๆ นุ่มยืดอยู่ข้างใน และทางร้านยังมีน้ำจิ้มมายองเนสสูตรพิเศษมาให้จิ้มกินเพิ่มรสชาติอีกด้วย
แพนเค้กเม็กซิกัน
       จานต่อมามีชื่อว่า แพนเค้กเม็กซิกัน (110 บาท+) เป็นแป้งทอร์ทิลย่าสไตล์อาหารเม็กซิกัน นำมาสอดไส้ด้วยผักหลายชนิด และใส่ชีสมาด้วย แล้วนำมากริลล์ในกระทะจนแป้งสุกกรอบ กินตอนที่เสิร์ฟมาร้อนๆ สัมผัสได้ถึงแป้งที่บางกรอบนุ่มหนืดชีสและไส้ผักที่เข้ากันดี แล้วก็ยังมีซอสมายองเนสที่ปรุงขึ้นมาเป็นพิเศษให้จิ้มกินเพิ่มรสชาติ
สลัดปูนิ่มรสจัด
       เมนูต่อมาเป็นเมนูใหม่ที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอ คือ สลัดปูนิ่มรสจัด (200 บาท+) ทางร้านนำเอาปูนิ่มทั้งตัวมาชุบแป้งทอดกรอบ มาพร้อมกับผักสลัดที่เลือกใช้แต่ผักออร์แกนิก แล้วราดด้วยน้ำสลัดสูตรเด็ดที่นำเอามายองเนสมาตีผสมกับน้ำจิ้มซีฟู้ด ชิมสลัดปูนิ่มแล้วถูกปากตรงที่ผัดสลัดสดกรอบ ปูนิ่มกรอบนอกนุ่มใน ชุ่มน้ำสลัดรสจัดจ้านสมชื่อแบบไม่เลี่ยน
เพนเน่ฉูฉี่แซลมอน
       เพนเน่ฉูฉี่แซลมอน (180 บาท+) เมนูนี้เป็นการผสมผสานระหว่างอาหารไทยและอาหารอิตาเลียน คือเอาเส้นเพนเน่มาผัดกับน้ำฉูฉี่ที่ทางร้านปรุงขึ้นมาเองตามสูตรเด็ด และใส่เนื้อปลาแซลมอนสดๆ ชิมรสชาติแล้วขอบอกว่าเส้นเพนเน่นุ่มๆ ชุ่มด้วยน้ำฉูฉี่รสจัดจ้านแบบไทยๆ ออกเผ็ดลิ้นนิดหน่อย เนื้อปลาแซลมอนก็นุ่มโดนใจ ขอบอกว่าไม่ลองไม่ได้เมนูนี้
สปาเก็ตตี้กิมจิ
       ส่วนอีกเมนูที่ไม่ควรพลาดคือ สปาเก็ตตี้กิมจิ (140 บาท+) เป็นการนำเอาเส้นสปาเก็ตตี้มาผัดกับซอสกิมจิที่ทางร้านปรุงขึ้นมาตามสูตร เด็ดของทางร้านเอง แถมยังใส่ผักดองและหมูย่างที่ทางร้านทำเองเช่นกัน ลองลิ้มแล้วโดนใจจริงๆ ตรงที่เส้นสปาเก็ตตี้เหนียวนุ่มได้รสชาติซอสกิมจิรสดีแถมมีกลิ่นหอม ส่วนหมูย่างเคี้ยวนุ่มถูกปาก
Green tea Creme brulee
       และปิดท้ายขอนำเสนอเมนูของหวานที่น่าลิ้มรสอย่าง Green tea Creme brulee (140 บาท+) เป็นของหวานที่ข้างบนเป็นแผ่นน้ำตาลหวานๆ ส่วนข้างในเป็นคัสตาร์ดครีมรสชาเขียวเนื้อเนียนนุ่มหอมหวานเป็นที่สุด
ค็อกเทลที่ชวนดื่ม
       ที่กล่าวมานี้ถือว่าเป็นเมนูจานเด่นที่ถ้ามาแล้วต้องไม่พลาดลองลิ้ม แต่ถ้าหากขอเมนูมาเลือกดูเพิ่มเติมก็ยังมีเมนูอื่นๆ ที่น่ากินอีกมากมาย อาทิ ยำผักบุ้งกรอบ (120 บาท+) แซลมอนแซบ (180 บาท+) ซีซ่าสลัดไก่ย่าง (160 บาท+) มูสตับไก่บดกับขนมปังปิ้ง (160 บาท+) สเต็กแซลมอนราดซอสกระเพรา (250 บาท+)
      
       รวมถึงที่นี่ยังมีเครื่องดื่มบริการอีกมากหลาย อย่างถ้าใครชอบดื่มเบียร์ก็มีเบียร์จากเบลเยี่ยมรสดีที่ชวนให้ดื่มกัน ใครเป็นคอไวน์ก็มีไวน์ให้ได้ดื่มเช่นกัน และถ้าใครชอบดื่มค็อกเทลก็มีมาแนะนำ อาทิ Barley bombs (300 บาท+) และ Midori sour (200 บาท+) ถึงตรงนี้แล้วหากใครอยากมาแฮงเอ้าท์ ปาร์ตี้แบบฮาเฮและอิ่มหนำ ก็ขอเชิญมากันได้ที่ร้าน “BARLEY BISTRO & BAR” แห่งนี้ ซึ่งทางร้านยินดีต้อนรับทุกคนอยู่
       

No comments:

Post a Comment