| ถึงแม้ว่าการเดินทางไปชม “หอไอเฟล” ของจริงที่ประเทศฝรั่งเศส  ดูจะเป็นเรื่องยากสำหรับ “ตระเวนกิน”  เพราะด้วยงบประมาณในการเดินทางไปเที่ยวนั้นมีน้อยเสียเหลือเกิน| |   |  | บรรยากาศร้าน D’ EIFFEL ตกแต่งชวนนั่ง | 
 |   |  | 
 
 แต่ถ้าเป็นเรื่องการที่จะได้ลองลิ้ม “อาหารฝรั่งเศส”  นั้นไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเราเลย  เพราะว่าในเมืองไทยมีร้านขายอาหารฝรั่งเศสอยู่หลายร้าน  และแต่ล่ะร้านก็มีอาหารฝรั่งเศสเลิศรสขนานแท้แบบต้นตำรับให้ได้ชิมกันราวกับ ว่าได้บินไปกินถึงถิ่นเลยก็ว่าได้
 
 เหมือนที่ในมื้อนี้เราไม่ต้องเสียเงินนั่งเครื่องบินไปไกลถึง ฝรั่งเศส แต่แค่ขับรถมาที่ศาลายา จ. นครปฐม  ก็ได้มาลิ้มรสอาหารฝรั่งเศสที่อร่อยถูกลิ้นกันยังร้าน “D’ EIFFEL” (ดิ ไอ  เฟล) ที่ร้านอาจจะไม่ได้หรูหราใหญ่โต เป็นเพียงแค่ตึกแถว 2  คูหาของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ที่ทางเจ้าของร้านคือ คุณแดง  สมพร ชลมหาสวัสดิ์ นำมาตกแต่งให้สวยงามเน้นสีขาวดูสะอาดตา โปร่งโล่งสบายๆ  ชวนนั่งในห้องแอร์เย็นๆ และมีโต๊ะนั่งรับลมด้านนอกด้วย
 
 | 
 | อาหารฝรั่งเศสของที่ร้านนี้  ต้องบอกว่าเป็นสูตรสไตล์ฝรั่งเศสขนานแท้ดั้งเดิม  ที่วัตถุดิบเครื่องปรุงที่สำคัญต้องนำเข้ามาจากประเทศฝรั่งเศส  และผ่านการปรุงโดยเชฟสาวที่เป็นภรรยาของคุณแดงเอง  ซึ่งมีฝีมือในการปรุงอาหารฝรั่งเศสได้ตามเแบบฉบับต้นตำรับแท้ๆ  และมีเมนูอาหารฝรั่งเศสให้เลือกลิ้มรสมากมายในราคาไม่แพงอย่างที่คิด  เพราะคุณแดงมีความตั้งใจที่จะทำร้านอาหารฝรั่งเศสให้คนเดินดินได้สัมผัสรส ชาติกันได้แบบสบายกระเป๋า  |  |   |  | บรรยากาศภายในร้าน D’ EIFFEL | 
 |   |  | 
 
 สำหรับเมนูอาหารฝรั่งเศสของที่นี่มีเมนูให้เลือกลิ้มรสแบบหลากหลาย  ซึ่งเมื่อมานั่งสั่งอาหารแล้วทางร้านจะเสิร์ฟขนมปังที่ทางร้านอบเองมาแบบ ร้อนๆ ให้ได้กินอุ่นกระเพาะเรียกน้ำย่อยกันก่อน  แล้วค่อยสั่งเมนูอาหารมาชิมกันซึ่งมีเมนูแนะนำที่ถ้ามาที่ร้านนี้แล้วไม่ควร พลาดต้องสั่งมาลองลิ้มให้ได้ก็มีหลายเมนูด้วยกัน
 
 | 
 | อย่างแรกที่อยากแนะนำเป็น ซุปเห็ด (70 บาท) เสิร์ฟมาร้อนๆ  หอมกรุ่นน่าชิม ทางร้านใช้เห็ดหอมนำมาผัดกับเนย กระเทียม และมันฝรั่ง  แล้วนำมาตุ๋นกับน้ำซุปเห็ดและปั่นให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน  ใส่เนื้อเห็ดหอมมาด้วย เวลาเสิร์ฟเติมครีมสดลงไปอีกนิด  ชิมแล้วเนื้อซุปข้นเนียนรสหอมนุ่มกรุ่นกลิ่นเห็ดหอม  |  |   |  | ซุปเห็ด | 
 |   |  | 
 
 | 
 | ตามมาด้วยอีกหนึ่งซุป คือ ซุปกุ้ง (70 บาท)  ทางร้านใช้กุ้งแชบ๊วยมาบดพร้อมกับมันกุ้ง  มีหอมใหญ่ผัดกับโอลีฟออยและมันกุ้ง  แล้วจึงนำมาปรุงเคี่ยวรวมกับน้ำสต็อกที่ได้จากหัวกุ้ง  ใส่บรั่นดีและสมุนไพรฝรั่งเศสปรุงเคี่ยวให้ทุกอย่างเข้ากันจนสุกแล้วนำมา ปั่นอีกที พร้อมกับใส่เนื้อกุ้งและครีมสดเวลาเสิร์ฟ ลิ้มรสซุปกุ้งร้อนๆ  หอมกลิ่นกุ้งขึ้นจมูก เนื้อซุปข้นรสกลมกล่อมโดนใจ  |  |   |  | ซุปกุ้ง | 
 |   |  | 
 
 | 
 | จากนั้นมาชิมเมนูจานเด่น ตับห่าน (650 บาท)  ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง  เพราะทางร้านเลือกใช้ตับห่านเกรดเอจากฝรั่งเศสมาสไลด์เป็นชิ้น  แล้วทอดกับโอลีฟออย  มีซอสบาซามิคที่ปรุงรสเคี่ยวตุ๋นกับไวน์แดงราดมาบนตับห่าน  เสิร์ฟเคียงมาด้วยร็อคเก็ตสลัด แอปเปิ้ลทอด ลูกพีชในน้ำเชื่อม  และขนมปังอบกรอบ  กินตับห่านแล้วขอยกนิ้วให้รสชาติที่ยอมเยี่ยมตับห่านเนื้อด้านนอกกรอบนิดๆ  เนื้อในเนียนนุ่มชุ่มน้ำซอสหอมหวานกลมกล่อมลิ้น  |  |   |  | ตับห่าน | 
 |   |  | 
 
 | 
 | สตูลิ้น (180 บาท) เป็นอีกหนึ่งเมนูขายดี  ที่นำเอาลิ้นลูกวัวที่คัดมาเป็นพิเศษอย่างดี เอามาตุ๋นกับเครื่องเทศต่างๆ  ตุ๋นด้วยเตาถ่านนานกว่าครึ่งวันจนลิ้นวัวนุ่ม  แล้วสไลด์มาเป็นชิ้นราดด้วยเรดไวน์ซอสที่ทางร้านปรุงขึ้นมาโดยเฉพาะ  ลิ้มรสสตูลิ้นวัวเนื้อนุ่มมากแทบจะละลายได้ในปากและหอมซอสรสดี  และมีผักโขมผัดเนยกับมันบดมาให้กินเคียงกัน  |  |   |  | สตูลิ้น | 
 |   |  | 
 
 | 
 | และถ้าใครชอบกินปลาขอแนะนำ ปลาดอลลี่ผักโขมอบชีส (180 บาท)  เป็นปลาดอลลี่ชิ้นใหญ่นำไปนึ่งจนสุก แล้วมีผักโขมที่นึ่งสุกปรุงรสใส่เนยสด  ครีมสด และเครื่องเทศ นำมาโปะบนเนื้อปลาโรยด้วยชีสแล้วอบ เสิร์ฟมาร้อนๆ  กลิ่นหอมชวนกินเนื้อปลานุ่มนิ่มรสเนียนเข้ากับผักโขม  และมีเครื่องเคียงให้กินคู่กันอย่างผักต้มและมันบดรสดี  |  |   |  | ปลาดอลลี่ผักโขมอบชีส | 
 |   |  | 
 
 | 
 | แล้วก็ต้องไม่พลาดเมนูนี้ด้วย นั่นคือ ซี่โครงแกะย่าง (690 บาท)  ทางร้านนำซี่โครงแกะจากออสเตรเลียมาหมักกับเครื่องเทศฝรั่งเศสแล้วนำมาก ริลล์ เสิร์ฟมากับเห็ดผัดใส่เบคอน ผักโขมผัดกระเทียม  และมีมัสตาร์ดกับมิ้นซอสมาให้ด้วย  แล่ชิ้นเนื้อแกะส่งเคี้ยวเข้าปากเนื้อแกะนุ่มเคี้ยวหนึบปาก ไม่เหม็นสาบเลย  ได้รสชาติเครื่องหมักที่เข้มข้นซึมถึงเนื้อในถูกปากจริงๆ  |  |   |  | ซี่โครงแกะย่าง | 
 |   |  | 
 
 | 
 | ส่งท้ายด้วยของหวาน เชอรี่จูเบอรี่ (120 บาท)  เป็นเชอร์รี่เฟรมกับน้ำตาล ไวน์แดง บรั่นดี และวอดก้า  เฟรมจนข้นเหนียวนิดหน่อย เสิร์ฟมากับไอศกรีมรสวนิลาใส่วิปปิ้งครีมนิดหน่อย  กินแล้วสัมผัสได้ถึงความหอมหวานอมเปรี้ยวนิดๆ ของเชอร์รี่และไอศกรีมเย็นๆ  ชื่นใจปากดีแท้  |  |   |  | เชอรี่จูเบอรี่ | 
 |   |  | 
 
 เมนูต่างๆ  ที่ได้นำมาเสนอนี้จัดว่าเป็นเมนูจานเด็ดที่ไม่ควรพลาดต้องสั่งมาลองลิ้มกัน ให้ได้ และยังมีเมนูอื่นๆ อีก อาทิ หอยเชลล์อบชีส (350 บาท) กุ้งอบชีส (240  บาท) กุ้งพริกไทยดำ (240 บาท) เป็ดซอสส้ม (250 บาท)  และอีกสารพันเมนูอาหารฝรั่งเศสรสเลิศแบต้นตำรับที่สามารถมาชิมลิ้มรสกันได้ ที่ร้าน “D’ EIFFEL” แห่งนี้
 
 | 
 | * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * 
 “D’ EIFFEL” (ดิ ไอ เฟล) ตั้งอยู่ที่ 135/345 ศาลายา ซ.ศาลายา 7  (ซอยธ.กสิกรไทย) จ. นครปฐม  การเดินทางถ้ามาจากถ.บรมราชชนนีให้วิ่งตรงมาจนพุทธมณฑลสาย 4  จะมีป้ายบอกทางให้ขึ้นสะพานเพื่อลงมายังถ.พุทธมณฑลสาย 4  จากนั้นกลับรถแล้วชิดซ้าย ตรงมาที่ซ.ศาลายา 7  จุดสังเกตหน้าปากซอยมีธ.กสิกรไทย ให้เลี้ยวเข้าไปในซอยจะเจอ 4 แยกเล็ก  ก็ให้เลี้ยวขวาแล้วตรงมาประมาณ 150 ม. จะเห็นร้านดิ ไอ เฟลอยู่ขวามือ  มีที่จอดรถหน้าร้านหรือจอดภายในซอย เปิดอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) เวลา  11.00-23.00 น. แต่ครัวปิด 22.00 น. ถ้ามากินแนะนำว่าควรโทร.มาจองโต๊ะก่อน  โทร. 0-2800-2095, 08-6898-1297
 | 
No comments:
Post a Comment