Tuesday, April 24, 2012

อร่อยล้ำ ดื่มด่ำแจ๊ส ที่ “Brown Sugar”

ที่มา โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 เมษายน 2555 17:22 น.
บรรยากาศร้าน Brown Sugar นั่งสบายๆ ฟังเพลงแจ๊ส
       ท่วงทำนองของดนตรีเพลงแจ๊สดังขึ้นอย่างสนุกสนาน พาใจให้ “ตระเวนกิน” ต้องรีบเยื้องกรายเดินตามเสียงดนตรีอันไพเราะสะเนาหู เพื่อไปยังต้นตอของเสียงเพลงแจ๊สที่ชวนฟัง ซึ่งกำลังดังมาจากร้าน “Brown Sugar the Jazz Boutique” ที่ตั้งอยู่ตรง ถ.พระสุเมรุ
      
       สำหรับคอเพลงแจ๊สทั้งหลาย เชื่อว่าถ้าเอ่ยชื่อร้าน “Brown Sugar the Jazz Boutique”ขึ้นมาแล้วต้องรู้จักถึงชื่อเสียงของร้านกันเป็นอย่างดี เพราะว่าร้าน Brown Sugar โด่ง ดังมาจากที่ย่านหลังสวน มานานเกือบ 30 ปี จัดได้ว่าเป็นร้านตำนานแจ๊สผับของเมืองไทย แต่ว่าทุกวันนี้ได้ย้ายมาอยู่ที่ ถ.พระสุเมรุ และเนรมิตให้ตึกแถวเก่าที่มีมนต์ขลัง กลายมาเป็นร้านแจ๊สที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง โดดเด่นด้วยบรรยากาศร้านที่ตกแต่งแบบคลาสสิค มีงานศิลปะประดับอย่างลงตัว
วงดนตรี Brown Sugar House Band
       ด้านในร้านจัดเป็นโต๊ะนั่งแบบสบายๆ มีโต๊ะหลายโซนให้เลือกนั่ง มีทั้งโต๊ะนั่งโซนติดเวทีด้านหน้าที่จะได้เห็นนักดนตรีเล่นเพลงอย่างใกล้ชิด และมีโต๊ะนั่งติดกับเคาเตอร์บาร์ที่คอยบริการเครื่องดื่มแบบครบครัน หรือถ้าใครชอบความเป็นส่วนตัวสักนิดก็มีห้องวีไอพีบริการ 1 ห้อง ส่วนถ้าใครชอบสัมผัสความเป็นธรรมชาติรับลมเย็นๆ ก็มีโซนเทอเรสโต๊ะนั่งด้านหลังที่อยู่ติดกับคลองบางลำพูชวนนั่งแบบรื่นรมย์ กับสายน้ำตกจำลอง
      
       แล้วยังมีชั้น 2 ที่จัดให้เป็นส่วนของ Gallery & Play House มีพื้นที่กว่า 80ตร.ม. ทางร้านอยากให้เป็นพื้นที่สำหรับการแสดงนิทรรศการศิลปะแขนงต่างๆ หรือจัดงานคอนเสิร์ต งานอีเว้นท์ จัดกิจกรรมต่างๆ ที่ถ้าใครสนใจก็สามารถมาเลือกใช้บริการพื้นที่ได้
       และหากใครที่เป็นคอกาแฟโดยเฉพาะ ทางด้านหน้าร้านยังเปิดเป็น Brown Sugar Café ที่จะมีอาหารเช้าและกลางวันแบบจานด่วนแต่เน้นคุณภาพและรสชาติ พร้อมให้ลิ้มรสควบคู่ไปกับการจิบกาแฟหอมๆ รสละมุน และมีเค้กโฮมเมดให้ได้ละเลียดลิ้นกันอีกด้วย ซึ่งส่วนนี้เปิดตั้งแต่ 08.00-19.00 น.
      
       นี่แค่บรรยากาศร้านก็ชวนให้เคลิบเคลิ้มน่านั่ง ถ้าพูดถึงดนตรีแจ๊สแล้วรับรองว่าไม่ผิดหวัง ทางร้านจัดเต็มเรื่องดนตรีแจ๊ส โดยทุกวันตั้งแต่ 21.00 น. เป็นต้นไปจะมีนักดนตรีวงประจำอยู่ 3 วง คือ Brown Sugar House Band, Mellow Motif และวงสาวสะดุ้ง แล้วในวันเสาร์-อาทิตย์ ก็จะมีมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินแจ๊สชื่อดังจากทั่วโลกมาเล่นดนตรีแจ๊สให้ฟัง อย่างสนุกสนานสลับหมุนเวียนเปลี่ยนกันไป
      
       แต่ถ้าจะมานั่งฟังเพลงแจ๊สให้อิ่มใจอย่างเดียวก็กระไร ต้องขออิ่มท้องแบบครบสูตรกันไปด้วย ซึ่งที่นี่มีอาหารเลิศรสคอยให้ได้ลิ้มรสกันด้วย ซึ่งอาหารของที่นี่มีทั้งอาหารไทย, เม็กซิกัน, เยอรมัน, อิตาเลียน และอาหารเมนูใหม่ๆ แนวฟิวชั่นที่ทางร้านคิดค้นสูตรขึ้นมาโดยเฉพาะ และคัดสรรแต่วัตถุดิบชั้นดีมาปรุงเป็นอาหารจานเด็ดให้ได้ลิ้มรสกันมากมาย
สโมกแซลมอนลุยสวน
       อย่างที่อยากจะแนะนำให้ลองลิ้มกันก็มี สโมกแซลมอนลุยสวน (240 บาท) จะได้ลิ้มรสเแซลมอนรมควันจากนอร์เวย์เนื้อหอมนุ่ม กินคู่กับเครื่องสมุนไพรไทยต่างๆ ที่คลุกเคล้ากับน้ำยำ 3 รส เปรี้ยว เค็ม หวานเจือรสเผ็ดนิดหน่อย และมีผักสดมาให้กินเคียงเหมือนกินเมี่ยง
กุ้งคั่วพริกกะเกลือ
       กุ้งคั่วพริกกะเกลือ (350 บาท) เป็นกุ้งทะเลตัวใหญ่ทอดแล้วคั่วกับเกลือและพริกขี้หนู เพิ่มความหอมด้วยเม็ดพริกไทยสดและใบมะกรูดทอด เต็มปากเต็มคำกับกุ้งเนื้อแน่นหวานผสานความเค็มนิดๆ เผ็ดหน่อยๆ หอมกลิ่นเครื่องเทศ
แซลมอนราดซอสมะขามพริกเผา
       แซลมอนราดซอสมะขามพริกเผา (280 บาท) เมนูนี้จะได้ลิ้มรสเนื้อปลาแซลมอนสดจากนอร์เวย์ที่นำมาทอดกรอบนอกนุ่มในชุ่ม ด้วยซอสมะขามน้ำพริกเผาสูตรเด็ด เเปรี้ยว หวาน เค็มโดนใจปากดี
หมูดำผัดกิมจิ
       หมูดำผัดกิมจิ (220 บาท) เมนูใหม่ที่นำหมูดำมาหมักกับซอสสูตรพิเศษ แล้วนำมาผัดกับกิมจิที่ทางร้านทำเอง ปรุงรสใส่ขิง งาขาวคั่ว พริกเกาหลี เสิร์ฟมาแบบกระทะร้อน ลิ้มรสหมูดำเคี้ยวนุ่มปากเข้าเนื้อกับกิมจิที่ถึงเครื่องถูกลิ้น
สปาเก็ตตี้ต้มยำซีฟู้ดซอสครีม
       สปาเก็ตตี้ต้มยำซีฟู้ดซอสครีม (250 บาท) เป็นเมนูฟิวชั่นที่นำเส้นสปาเก็ตตี้มาผัดกับซอสครีมชีสและเครื่องต้มยำไทย ใส่หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ กุ้งทะเล และหมึก ราดหน้าด้วยซอสครีมชีสอีก ม้วนเส้นสปาเก็ตตี้เคี้ยวเหนียวนุ่มปากได้รสชาติเครื่องต้มยำจัดจ้านผสานรส ชาติซอสครีมชีสรสละมุนลิ้นที่เข้ากันได้อย่างลงตัว กินแล้วไม่เลี่ยน
สเต็กเนื้อ
       สเต็กเนื้อ (380 บาท) เสิร์ฟมาแบบกระทะร้อน เป็นเนื้อวัวอย่างดีนำเข้าจากออสเตรเลียผ่านการหมักและกริลล์จนได้ที่ ราดด้วยน้ำเกรวี่สูตรพิเศษ แล่ชิ้นเนื้อส่งเข้าปากเคี้ยวเนื้อนุ่มหนึบหนับปากฉ่ำน้ำเกรวี่รสจัดจ้านออก เผ็ดนิดๆ
      
       แล้วยังมีเมนูอื่นๆ ที่ชวนกินอีกเพียบ อาทิ ข้าวลาบหมูทอด (190 บาท) สเต็กหมูดำซอสวาซาบิจิ้มแจ่ว (220 บาท) ขาหมูทอดเยอรมัน (380 บาท) กุ้งซอสมะขาม (350 บาท) ขาวัวตุ๋นไวน์สไตล์อิตาเลียน (320 บาท)
      
       นอกจากนี้ยังมีอีกสารพัดเมนูเลิศรสที่ชวนให้สั่งมากินคู่กับเครื่องดื่มเย็นๆ พร้อมเพลิดเพลินไปกับดนตรีแจ๊สอันชวนฟัง จากร้าน “Brown Sugar” หนึ่งในตำนานแจ๊สผับของไทยที่ยังมีมนต์ขลังอย่างเหลือเฟือ
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       “Brown Sugar the Jazz Boutique” ตั้ง อยู่ที่ 469 ถ. พระสุเมรุ บางลำพู กรุงเทพฯ การเดินทางจากแยกบางลำพูมุ่งหน้ามายังวัดบวรนิเวศฯ ตรงมาถึงแยกสะพานวันชาติ แล้วตรงมาเรื่อยๆ จนถึงช่วงโค้งของถนน จะเห็นร้านอยู่ทางซ้ายมือเป็นห้องแถวติดริมถนน มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน สามารถจอดรถได้ริมถนน ร้านเปิดทุกวัน เวลา 19.00-01.00 น. ถ้าจะมาที่ร้านแนะนำว่าควรโทร.มาจองโต๊ะก่อน โทร. 08-9499-1378, 08-1805-7759 หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.brownsugarbangkok.com  หรือที่ www.facebook.com/brownsugarbangkok

No comments:

Post a Comment