Saturday, July 16, 2011
◕‿ ขับรถเล่นหลังเลิกเรียนตามหาร้านดินเนอร์อร่อยๆ @ Le Chapitre ร้านเล็กๆแต่อร่อยไม่เล็ก ^^ ‿◕
ชื่อร้าน : " L e C h a p i t r e "
รายการอาหาร : French Cuisine
ที่ตั้งร้าน : 13 Place du terreau, 71400 Autun, France
พิกัด GPS : 46° 56' 41.08" N 4° 17' 58.47" E
ช่วงซัมเมอร์พอเลิกเรียนเสร็จอินดี้ก็ออกกำลังกายสลับกับขับรถเที่ยวคลายเครียดพักสมองไปวันๆ
เลยได้โอกาสสำรวจ & ชิมอาหารตามเมืองที่ได้ไปแวะๆ
... ค่ำนี้จะพาไปหม่ำอาหารฝรั่งเศสจากเมือง Autun กันจ้า ...
ร้านนี้ตั้งอยู่หน้าโบสถ์สำคัญประจำเมือง Autun (โอ-เติง) Cathédrale Saint-Lazare d'Autun เลยหล่ะค่ะ
ค้นหาข้อมูลร้านอร่อยร้านนี้จาก Tripadvisor เช่นเคย ได้คะแนนสูงจนอดไม่ได้ที่จะต้องลอง
Le Chapitre เป็นร้านอาหารขนาดเล็กๆมีประมาณสิบโต๊ะเท่านั้นเองค่ะ
ภายในตกแต่งเรียบๆสไตล์โมเดิน
... กางเมนู สั่งอะไรดีหน้อออ ...
ขอไวน์แดงมาก่อนแล้วกัน 555+
ขอเริ่มด้วย Amuse Bouche ขนาดน่ารักๆเรียกน้ำย่อยกันก่อนค่ะ
Boudin noir roti et émulsion de pommes de terre
ของดำที่ท่านเห็น มันคือ Boudin Sausage
ไส้กรอกบูแดง/บูเดิง ไส้กรอกที่มีส่วนผสมหลักจากหมูและเลือดหมู
อย่าเพิ่งร้อง ...อร๊าย อรึ๋ย... เพราะมันอร่อยมากกกกเลยหล่ะค่ะ
ถ้าอยากซื้อมาลองจากตามซุปเปอร์มาร์เก็ตขอให้เลือกแบบของดีของแท้นิดนึง
เอามาย่างเกรียมๆกรอบนอกนุ่มในแบบนี้รสเยี่ยมไปเลยค่ะ
ส่วนที่อยู่ในถ้วยก็คือ มันบด ตักให้ชมว่าเนื้อเนียนนุ๊มนุ่ม
กลิ่นหอมทั้งนมทั้งครีมทั้งเนย อร่อยมากๆค่ะ
อะมูซบุชมาน้อยๆแบบนี้ ทำให้อยากแล้วจากไปจริงๆ ^^’
มื้อนี้สามคอร์สเช่นเคย เริ่มจาก
... E n t r é e ...
Soupe de pois cassés et petits pois, raviole de carottes au curry,
émulsion de lard fumé
มาแบบเรียบมากๆ แอบขำที่แต่งด้วยถั่ว แครอท และเบคอน ชิ้นน้อยๆที่ขอบจาน
เหมือนต้องการจะบอกให้รู้ว่า ...อะไรอยู่ในจานนี้ !
ถ้าใครชอบทานผัก จานนี้หล่ะใช่เลย
ซุปถั่วสองชนิดข้นนิดๆเนื้อเนียนทานคล่องกลิ่นผักละมุนละไม
แม้แต่ตัวราวิโอลี่ในซุปก็ยังสอดไส้เคอรี่แครอท
ท๊อปด้านบนด้วยโฟมเบคอน (lardon) รมควันที่เห็นสีขาวๆ
ทานรวมๆกันไปได้รสหวานจากผักและเค็มนิดๆจากโฟมเบคอน
อีกหนึ่ง Starter เป็น
Accras de morue sur une pana cotta de haddock et
concassée de tomates sauce pesto
จานนี้ถูกใจใช่เลย ชอบมากถึงมากที่สุด
เชฟไอเดียบรรเจิดทำออกมาถูกปากอินดี้มากๆค่ะ
ลูกกลมๆข้างนอกกรอบนิดๆแต่ไส้ข้างในสีขาวขุ่นๆที่เห็น
เป็นคล้ายๆลูกชิ้นปลา (cod) ที่เนียนและปรุงมารสชาติดีจริงๆค่ะ
แพลมๆด้วยสลัดสีเขียวสด ส่วนก้นแก้วครีมสีขาวชั้นบางๆล่างสุดเป็นพานาคอตต้าปลา (haddock)
เริ่ดจริงๆ ... เพิ่งเคยทานครั้งแรกเลยนะเนี่ย
ส่วนสีส้มๆแดงๆชั้นเหนือขึ้นมาเป็นเพรสโต้มะเขือเทศ
เปรี้ยวหวานเข้มข้นหอมกลิ่นเฮิร์ป บนสุดมีพาร์เมซานขูดอีกแน่ะ
... คิดไปได้ ...
หลายขั้นตอนซับซ้อนพลิกแพลง แต่ลงตัวและก็อร่อยจริงๆค่ะ จานนี้อินดี้ให้สิบเต็ม ^^
คอร์สแรกผ่านไปเล่นเอาเร้าใจกับจานต่อไป มาดูจานหลักกันต่อเลยนะคะ
... P l a t ...
Filet de boeuf aux asperges/ morilles et petits pois
สงสัยเชฟหมดไฟไปกับ starter จานหลักจานนี้เลยออกมาอร่อยแต่ไม่ถึงกับว้าว
เป็น Beef Tenderloin สั่งแบบ medium-rare ไปค่ะ ทานกับหน่อไม้ฝรั่งสีขาว
ถั่วและเห็ดสีดำหน้าตาคล้ายทรัฟเฟิล (Morilles) ตีซอสเป็นโฟมยอดอ่อนๆ
จานนี้อินดี้ไม่ได้เป็นคนสั่งนะคะแต่ก็ไม่พลาดขอชิมนิดนึง
เพราะนานๆจะได้ทานเห็ดแพง 555+
อีกจานหลักเป็นของตัวเอง
Carré d'agneau au thym, pommes dauphines, jus d'oignon
จานนี้แต่งได้ธรรมดาอีกแล้ว งั้นข้ามมาว่ากันที่เรื่องรสชาติดีกว่าเนอะ
จานนี้เป็นซี่โครงแกะมาแบบ medium rare เช่นกัน
เนื้อนุ่มอร่อยเชียวค่ะ หนังกรอบๆเค็มๆชิมไปยังนึกว่าเป็นขาหมูรมควัน ^^’
ปกติจะคุ้นทานคู่กับมันฝรั่งบด งานนี้แปลกนิดนึงเป็นมะเขือม่วงบดกับมันบดค่ะ
ชิมไปแล้วก็อร่อยเข้ากันดี นอกจากนี้ยังมี Pommes Noisettes
มันฝรั่งชุบเกล็ดขนมปังทอดลูกกลมๆกรอบนอกนุ่มในเสิร์ฟมาให้ด้วยค่ะ
คอร์สสุดท้ายของหวานแล้วค่ะ เมนูมีให้เลือกหลายอย่างแต่พร้อมใจสั่งเหมือนกัน ^^
... D e s s e r t ...
Quenelles de chocolat, cookie chocolat blanc/ noix de pecan et tuile de carambar
จานนี้ Chocolate lover เต็มอิ่มแน่นอน
ล่างสุดเป็นไวท์ช๊อคโกแลตพีแคนคุกกี้ ท๊อปด้วยมูสช๊อคโกแลตเกลียวนี้ที่หวานขมเข้มข้นสะใจ
ปักด้วยชอคแลตคาราเมลแคนดี้ละลายมาแบบแผ่นด้านบน
มีแปะทองคำเปลวอีกนิดเพิ่มความไฮโซ อิอิ
หมดเกลี้ยงไม่เหลือ จานอินดี้กรำศึกหนักอย่างโชกโชน ขูดแล้วขูดอีก
เละเทะอายจังเมื่อเทียบกับคนที่ไปด้วย ทานสะอาดเรียบร้อยจนผู้หญิงอาย ^^’
~ ย้ำอีกที่ว่าเป็นร้านเล็กๆที่ซ่อนอยู่ในเมืองเล็กๆ แต่ความอร่อยไม่เล็กเลยจริงๆ ~
ขอจบด้วยภาพบรรยากาศเมืองช่วงเดินเล่นย่อยอาหาร
ท้องฟ้าเวลาประมาณสี่ห้าทุ่มในหน้าร้อน สีฟ้าเข้มจัดสดใสดีจริงๆ
อากาศก็สบายๆไม่ร้อนเหมือนตอนกลางวันด้วยค่ะ
ขอบคุณที่แวะมาชิมด้วยกันนะคะ
แล้วพบกันใหม่บลอคหน้า
บายๆ
No comments:
Post a Comment