Friday, April 29, 2011

Tapas á la Pawdee!




เรามาว่ากันต่อด้วยเมนูทาปาส (Tapas) อีกสักหน่อย คราวนี้ตรงดิ่งมาเข้าครัวกันเลยดีกว่าค่ะ ชุดนี้ประเดิมกันแบบสบายๆ ค่ะ เพราะว่าหาซื้อมาจัดลงจาน แต่งตัวใหม่แค่นั้นเองก็พร้อมที่จะเฮกันมาล้อมวงได้ทันใจ เพราะบางเมนูเราอาจเตรียมไว้ล่วงหน้าได้ค่ะ





จานแรก
สลัดหัวผักชีล้อม
Fennel salad: Fänkålsallad "แฟนโคล-ซาลหลาด"

ส่วน ตัวแล้วชอบมากๆ รสชาดของหัว fennel นี้ให้รสที่พูดแบบภาษาสเว่นสก่ะ (Swedish) ต้องบอกว่ารส lakrits “ล๊าค์คริ่ท์ส” ที่คนไทยส่วนมาก (เท่าที่เจอ) ถ้าเจอขนมรสนี้เข้าไปมักทำหน้าแหยเกือบทุกราย สังเกตุง่ายๆ ขนมที่มีสีดำๆ ดูในวิกิพีเดีย เขาว่าเป็นสารสกัดจากรากพืช Liquorice or licorice หรือชะเอมเทศค่ะ พอดีชอบอะไรที่มีฤทธิ์เป็นยาค่ะ และด้วยความหวานที่มีเสน่ห์...จริงๆ (อิอิ โฆษณาชวนชิม) จึงขอแนะนำเมนูนี้สำหรับคนที่ชอบแนวนี้เท่านั้นนะคะ แต่พอเอามายำแล้วมันตัดความอิ่มแน่นของมื้อนี้ไปได้อย่างดีเชียวค่ะ ยิ่ง ถ้าทานกับเจ้าปลาแซลมอน Gravlax: Sw. gravad lax "กร้าฝหวัดส-ลักซ์" ก็จะเข้ากั๊นเข้ากันอย่างบอกไม่ถูก…อิอิ โฆษณาชวนชิมอีกรอบ

วัตถุดิบ
มีแค่ Fennel 1 หัว (หัวผักชีล้อม หรือ Fänkål "แฟนโคล")
ต้นหอม 1-2 ต้น (Scallion/Spring onions: Sw. salladslök "ซาลหลาดส-เลิ่กค์")
Dill (ผักชีลาว) 3-4 ก้าน …อิอิ อันนี้มักสับสนกันจัง ว่าอันไหนผักชีลาว อันไหนผักชีล้อม… แต่เดี๊ยนไม่สับสนเพราะไม่เรียกภาษาไทยค่ะ เพราะได้พยายามแล้ว หาหลักการจำก็แล้ว แต่ก็ไม่ได้ผลในระยะยาวอ่ะ คราวนี้เลยเอาลาวมาล้อมซะเลยนิ งง งง)

เครื่องปรุง
น้ำมันมะกอก (ลืมเรียกมาถ่ายรูปด้วย)
มะนาว 1 ผล …บ้านใครไม่มีก็ใช้น้ำส้มสายชูประมาณ 1-2 ชต. (Vinegar: Sw. vinäger "วีแน๊เก่อร์") แทนนะจ๊ะ
เกลือพริกไทยปรุงรส


วิธีทำ
1. ล้างหัว fennel ให้สะอาด เพราะอาจมีเศษโคลนดินอยู่ตามซอกกลีบ แล้วตัดส่วนโคนที่เป็นแกนของยอดอ่อนออกเพราะจะมีรสขมและแข็ง ฝานให้บางๆ อาจใช้ที่ฝานหน่อไม้?
เคล็ดลับ fennel ที่ฝานแล้วถ้าถูกอากาศแล้วจะคล้ำ ควรใส่น้ำมะนาวคลุกในระหว่างนี้ค่ะ
2. ผสมน้ำปรุงรส น้ำมันมะกอก 1/2 dl หรือประมาณ 3-4 ชต. น้ำมะนาวประมาณครึ่งผล (รสเปรี้ยวก็เพิ่ม-ลดได้ตามชอบ แต่ขอให้รสเปรี้ยวนำค่ะ) เกลือป่นนิดนึงแค่ปลายนิ้วหยิบโรยลงไปซัก 2 หยิบค่ะ พริกไทยสัก 2-3 แคว่ก... อิอิ ที่บ้านไม่ใช้พริกไทยป่นสำเร็จค่ะ เอาเป็นว่าถ้ามีแบบป่นแล้วก็อย่าให้มากเกินเหตุ แค่ปลายนิ้วมือหยิบก็ใช้ได้ค่ะ (ปอบหยิบไม่เกี่ยว) เดี๋ยวมันจะทำลายอรรถรสของเครื่องดื่มไปซะหมด โดยเฉพาะไวน์
3. พอได้ดังใจก็คลุกส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันกับต้นหอมหั่น (ไม่ต้องฝอยมากเดี๋ยวหาไม่เจอ) และ dill ซึ่งเด็ดเอานะคะเป็นกิ่งเล็กๆ สั้นมั่งยาวมั่งก็ได้จ่ะจะได้ไม่ช้ำ เท่านี้ก็เรียบร้อยค่ะ

ทำไว้ล่วงหน้า เก็บเข้าตู้เย็นได้ค่ะ แต่แบ่ง dill “ดิลล์” ไว้คลุกก่อนเสริฟนะคะ จะได้ดูสดน่าทานมากขึ้นค่ะ


จานที่สอง
มะเขือเทศ-มอสซาเรลล่าชีสกับเพสโต้
(Tomato-Mozzarella Salad with Pesto)



ที่จริงทำแค่ caprese salad ถ้าไม่ชอบหรือไม่มี pesto
แต่อาจเพิ่มรสชาดด้วย Balsamic Vinegar หรือ Italian Dressing ก็ได้


วิธีทำไม่ มีอะไรเลย แค่เตรียมชีสออกจากถุงให้สะเด็ดน้ำแล้วหั่นให้เป็นแผ่นหนาพอประมาณ พอๆ กันกับมะเขือเทศสดๆ ค่ะ แล้วเอามาเรียงสลับกัน (ไม่สลับก็ตามใจ อิอิ แต่มันจะง่ายหน่อยที่จะบังคับว่าเอาชีสไปเอาฉันไปด้วยนะ ห้ามลักไก่) แล้วราด pesto (ทำเองหรือซื้อสำเร็จรูป) ลงไป โรยหน้าเพิ่มสีสันอีกเล็กน้อยด้วยพริกไทยดำและโหระพาฝรั่งค่ะ


จานที่สาม
กุ้งน้ำจืดหมักกับกระเทียมและมะเขือเทศ
(Garlic crayfish with tomatoes)
Vitlökskräftor med tomater


วิธีทำ
รายการนี้ก็เล่นทางลัดอีกตามเคย ถ้าอยากทำทางตรงก็ได้แต่ไม่คุ้มเวลาจ่ะ ซื้อกุ้งน้ำจืด (crayfish: Sw. kräftor "แครฟตั้วร์") มาเป็นกระปุกอย่างนี้ ถ้าไม่มีแบบที่แช่น้ำมันมะกอกก็ไม่มีปัญหา ตอนปรุงก็ใส่เข้าไปด้วยสิจ๊ะ


ถ้า ทำไม่เยอะ… ครึ่งกระปุกนี้สำหรับ 2 คน ก็ใช้มะเขือเทศแค่ 1 ลูกขนาดเล็กกว่ากำปั้น (หญิง) นิดนึง เฉือนแล่เอาเม็ดมะเขือเทศออกนะคะ ไม่งั้นน้ำจะท่วม อิอิ กรรมวิธีแล่เนี่ยคงไม่ต้องบอกนะคะ แต่อย่าให้เละซะล่ะ เดี๋ยวกลายเป็นซอสมะเขือเทศไปซะ

ทีนี้เจ้ากุ้ง ที่ซื้อมา เป็นรสกระเทียมเลยไม่ใส่เพิ่ม กลัวตอนกลางคืนกรนออกมาส่งเสียงดังไม่พอยังส่งกลิ่นประจานอีกแน่ะ เสียโหม๊ด! ถ้าไม่รังเกียจกลิ่นก็บีบหรือสับละเอียดครึ่งกลีบก็พอค่ะ

ปรุง รสด้วยน้ำส้มสายชู 1/2-1 ชช. ก็น่าจะพอ(ก่อน) จากนั้นตามสูตรฝรั่งเกลือกะพริกไทยของคู่กันมาประจำจ่ะ ชิมรสให้ออกเปรี้ยวนิดนึง อ้อ ระวังเรื่องเค็มค่ะ เจ้ากุ้ง เมืองฝรั่งมักจะมีรสเค็มในตัวอยู่แล้ว เพิ่มสีสันด้วยใบโหระพาฝรั่ง (Basil: Sw. basilika"บาซิลิกา") หรือ dill หรือพาสลีย์ (Parsley: Sw. persilja "แพรชิลยา") เลือกเอาอันไหนก็ได้ สับคลุกและโรยหน้าอีกเล็กน้อยก็เป็นอันเสร็จไปอีกหนึ่งอย่างค่ะ


เมนูนี้ทานกับขนมปังปิ้งกรอบๆ แบบที่เรียกกันว่า Bruschetta อืม...

(ขอ ออกตัวนิดนึงนะคะว่า พอดีไม่มีสูตรตายตัวค่ะ ชอบแบบยืดหยุ่น อัตราส่วนควรกะให้เหมาะสมกัน มากเกินหรือน้อยไปมีผลต่อหน้าตาและรสชาดค่ะ)


แนะนำสำหรับคนไกลบ้าน จริงๆ แล้วใช้กุ้งสดๆ (Shrimp: SW. räkor "แร๊กกัวร์") ก็จะดีกว่ามาก ไม่จำเป็นต้องเป็น crayfish เสมอไป ความสดและรสหวานตามธรรมชาตินี่แหละ ที่หากันได้ไม่ง่ายนักในเมืองหนาวเนี่ย มีแต่กุ้งแบบแช่แข็ง ฉนั้นการนำมาใช้ปรุงสำหรับอาหารที่เสริฟรับประทานแบบเย็น ควรคำนึงถึงสุขอนามัยในขั้นตอนการปรุงด้วยนะจ๊ะ


จานต่อมา
ขนมปังกระเทียม
Garlic bread: Sw. vitlöksbröd “วิทเลิ๊กค์ส-เบริ๊ด”


- ขนมปังฝรั่งเศสหรือบาแก็ต (baguette) ถ้าไม่มีอย่าเครียด ขอยืมขนมปังปิ้งแบบแผ่นที่ทานมื้อเช้า...แล้วแต่ครอบครัวของท่านนะจ๊ะ 1-2 แผ่นต่อคนเนี่ยกำลังดีมีแย่งกัน อิอิ
- กระเทียม (vitlök)
- น้ำมันมะกอก (olivolja “โอลีบว์-โอลย่า”)
- örtsalt (เอิ๊ทท์-ซั้ลท์) เกลือป่นผสมเครื่องเทศ ปกติแล้วพอดีมักจะใช้เวลาทำ Crouton-ขนมปังอบกรอบขนาดลูกเต๋าสำหรับ Caesar salad หรือทำเดรสซิ่งสำหรับสลัดผัก จะให้รสชาดเค็ม…อิอิ แน่นอนก็เกลือนี่นา แต่มีลูกเล่นทางการค้าเพิ่มมูลค่าของเกลือ หลอกล่อให้เสียตังค์อ่ะ มีเครื่องเทศเพิ่มมาอีกหน่อยนึงแค่นั้นค่ะ แต่ไม่จำเป็น ถ้าไม่มีก็เกลือ-พริกไทย เค้ามาเป็นเซ็ททุกบ้านต้องมี !

วิธีทำ
ก่อนอื่นก็เตรียมเตาอบ 200-220 oC ถ้าไม่มีก็ใช้กระทะแทนไม่ต้องเครียดนะจ๊ะ หั่นขนมปังหนาประมาณ 2 cm. เอาแบบเฉียงๆ หน่อยจะได้ดูดีและมีที่วางกับเยอะๆ อิอิ

ระหว่าง นั้นก็เอากระเทียม 1 กลีบมาบีบหรือสับก็ได้ ใส่ในน้ำมันมะกอก 2-3 ช้อนโต๊ะ ขึ้นอยู่กับปริมาณขนมปังที่จะทำ แต่ถ้าอยากให้หน้าตาขนมปังดูสีไม่ซีดจืดเกินไปก็ไปขอแบ่งพาสลีย์สับมาจาก เมนูที่ทำข้างต้นจะได้สีออกเขียวๆ ด้วย (อาจใช้เครื่องปั่น ปั่นส่วนผสมเข้าด้วยกัน...เร็วดีแต่เพิ่มงานล้าง!) จากนั้นก็ örtsalt/เกลือ-พริกไทย ชิมรสออกเค็มปะแล่มๆ เน้นอย่าเค็ม! เพราะในอาหารที่จะทานก็มีรสชาดในตัวอยู่แล้ว แต่ถ้าใครอยากให้หอมกลิ่นเนยและไม่เกี่ยงอ้วนก็ใช้เนยแทนน้ำมันมะกอกค่ะ

ทา ขนมปังด้วยน้ำมันมะกอกที่ปรุงรสแล้ว ใช้แปรงสะดวกกว่าค่ะ ไม่มีก็ใช้ช้อนค่อยๆ ทาละเมียดบางๆ แต่จะเปลืองน้ำมันกว่าใช้แปรงจ่ะเพราะขนมปังดูดไปหมดไวจริงๆ

เอา เข้าเตาอบ 8-10 นาที ขึ้นอยู่กับเตาอบแต่ละบ้านนะจ๊ะ บ้านนี้เตาอบตั้งได้สูงสุด 230 เลยใช้แค่ 200 องศาเซลเซียส 10 นาที วางบนชั้นกลางของเตาอบ คอยดูจนได้สีเหลือง หอมกรุ่นออกจากเตาพักไว้สักครู่ก่อนเสริฟท์ ส่วนใครที่ใช้กระทะก็นำมาจี่ใช้ไฟปานกลาง หรือจะย่างบนเตาถ่านก็ทำให้เหลืองกรอบได้เช่นเดียวกันค่ะ


และจานต่อๆ ไป
เริ่มง่ายขึ้นค่ะ แกะถุงแกะห่อจัดลงจานก็เรียบร้อย

อาร์ทิโชกยัดไส้ชีส
(Artichoke Cheese: Sw. Kronärtskocker med grekisk ost)




อาร์ทิโชก (Artichoke: Sw. Kronärtskocka "ครู่น-แอชก็อกก้า") เค้ามาเป็นหัวเล็กๆ ยัดไส้ feta ชีส ทำเองก็ได้ค่ะถ้าเจ้าหัวนี้ราคาไม่สูงนัก แต่ที่สวีเดน พอดีถือว่ายังแพง แถมมาเสียค่าน้ำ-ไฟ-แรงงาน กว่าจะต้มแกะปรุงเหลือแค่นิ๊ดเดียวเองอ่ะ ม่ายคุ้มซะแล้ว มีแพคสำเร็จขายเยอะแยะค่ะ แต่พอดีชอบซื้อที่เคาท์เตอร์ เลือกเองว่าจะเอากี่ชิ้นทานกี่คน แล้วผ่าชันสูตร เอ๊ย ผ่าพิสูจน์ซะหน่อย เวลาเสริฟท์ชาวบ้านจะได้รู้กันไปเลยว่าทานได้มั๊ย อันนี้หมายถึงประเภทขี้แพ้ ทีนี้ดูแล้วจานมันไม่มีสีสันเลยโปะมะกอกดองลงไป เท่านี้ก็ได้ทานเพิ่มอีกหนึ่งจานค่ะ


จานนี้รวมมิตรค่ะ

บนขวา: แฮมรมควันด้วยไลเคน (Lichen-smoked ham: Sw. Lavrökt skinka)
บนซ้าย: เซอราโนแฮม (Spanish Serrano ham: Sw. Serranoskinka)
ล่างซ้าย: ซาลามี่ (แต่งรสด้วยเมล็ดผักชีล้อม) (Fennel salami: Sw. Fänkål salami)

ประหยัดพื้นที่บนโต๊ะเลยดูแน่นล้นจานเลยอ่ะ เอาจานที่จัดวางชีสกับมะเขือเทศมาล้อมวงกันด้วยแฮม หรือเนื้อสไลด์ต่างๆ นำมาม้วนๆ พับๆ หน่อยจะได้มี volume-ปริมาตรบ้าง โดยเฉพาะเจ้า Serano ham (ไม่จำเป็นต้อง Serano นะคะ ตามแต่จะหาได้ตั้งแต่ Parma มาถึงเนื้อแดดเดียวบ้านเราก็อร่อยถูกใจกันได้ในแบบหมู่เฮาเด้อค่าเด้อ) เค้าจะเฉือนด้วยเครื่องได้มาบางเฉียบ เวลาจัดจานควรวางแบบไม่ใส่ใจไม่ต้องพับให้เรียบเนี๊ยบเพราะเค้าจะค่อยๆ แฟ่บลงจะหยิบจับลำบากอีกต่างหาก


เริ่มจัดโต๊ะเลยค่ะ
Smiley Smiley


อิอิ มุมเดิมๆ งบน้อยไม่ลงทุนก็พอสำราญบานใจ เพราะเรารู้ๆ กันดี Smiley Smiley

แต่ยังงั๊ยยังไงเรื่องจัดโต๊ะนี่ก็จะยิ่งสนุกใหญ่ ถ้าชอบตกแต่งเปลี่ยน theme สีและสิ่งแวดล้อมก็ช่วยสร้างความเพลิดเพลินนะคะ


เชิญรับประทานค่ะ


อ้อ! เกือบลืมเครื่องดื่มค่ะ
อาหารชุดนี้มีไวน์ขาว (Naeli Vermentino di Sardegna) จากซาร์ดิเนีย-อิตาลี ซึ่งมีรสชาดของกรดผลไม้ค่อนข้างสูงจึงเข้ากันได้ดีกับอาหารที่มีรสค่อนข้าง เค็ม และแน่นอนอาหารประเภทปลา-ซีฟู๊ด ที่ไม่เคยผิดหวังเลยกับ...ไวน์ขาว


ยังมีอีกมากมายหลายเมนูค่ะ แล้วแต่คุณๆ และวัตถุดิบที่มีในท้องถิ่นน่ะแหละ ไม่ต้องเครียดว่าจะต้องหามาให้ได้...เพียงแต่คำนึงถึงชนิดของเครื่องดื่มเท่านั้น (สำหรับผู้ใหญ่นะคะ) Smiley เบียร์นี่ง่ายค่ะเข้ากันได้ดีเป็นกันเองทุกที่ทุกระดับ...ตลอดงาน

แต่ถ้าหากต้องการบรรยากาศที่ส่วนตัวและค่อนข้างระมัดระวังนิดนึง เสียงเพลงเบาๆ อากาศชิวๆ ขึ้นมาหน่อย ไวน์ก็เป็นอีกทางเลือกนึงค่ะ แต่อาหารที่จะจัดควรเข้ากันได้ดีกับชนิดของไวน์ ถ้าหากอยากดื่มทั้งไวน์ขาวและไวน์แดง ก็อาจจัดอาหารเตรียมเสริฟท์เป็นชุดๆ ไป

จากที่เกริ่นมาในเรื่องราวของทาปาสก็คงจะเข้าใจในลักษณะการทานแบบ ที่ไม่ใช่อิ่มซะทีเดียว ยิ่งทำให้แขกตื่นเต้นกับอาหารที่ทยอยนำมาต้อนรับได้อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะผู้ที่จัดเตรียมงานคงแอบปลื้มไม่น้อยเลยเช่นกันกับความสุขที่ทุกคน ได้มาสนุกร่วมกันกับปาร์ตี้ที่บ้าน...งานนี้เพื่อฉันและเธอ
ขอให้มีความสุขกันทุกคนค่ะ


credit  ชีวิตนี้ขอแค่สุขพอดี  bloggang.com

No comments:

Post a Comment