| บรรยากาศภายในร้านเตาถ่านYakiniku Paradise |
| | สำหรับผู้พิสมัยการกินเนื้อ ลองนึกภาพของ “เนื้อวัว” สีแดงกำลังถูกย่างอยู่บนเตาถ่านร้อนๆ พร้อมกับส่งกลิ่นเนื้ออันหอมฉุยโชยเข้าจมูก โอ้ย!! มันช่างเป็นภาพที่นึกแล้วชวนให้น้ำลายสอปากยิ่งนัก เอาล่ะอย่ามามัวแต่นึกมโนภาพให้น้ำลายไหลยืดกันมากไปกว่านี้เลย เอาเป็นว่าในมื้อนี้ “ตระเวนกิน” ขอเอาใจคอคนรักเนื้อทั้งหลายเป็นพิเศษ ด้วยการพาไปกินเนื้อปิ้งๆ ย่างๆ กันที่ร้าน “เตาถ่าน Yakiniku Paradise” ซึ่งเป็นร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นผสมกับเกาหลีที่เน้นเนื้อย่างเป็นพิเศษ มีคอนเซ็ปของร้านว่า “สวรรค์ของคนรักเนื้อย่าง” ซึ่งทางร้านได้คัดสรรเนื้อวัวของไทยเกรดระดับพรีเมียม และใส่ใจเรื่องความสดเป็นอย่างมาก เพื่อให้คนรักเนื้อได้ลิ้มรสชาติเนื้อวัวที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพที่ดี
|
| เต็มอิ่มกับชุดบุฟเฟต์ |
| | และนอกจากเนื้อวัวที่ต้องเลือกเฟ้นมาเป็นอย่างดีแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ทางร้านใส่ใจไม่แพ้กันก็คือ เรื่องของเตาที่ทางร้านสั่งทำเตามาเป็นพิเศษ ใช้ถ่านที่จากกะลาอัดแท่งเป็นเชื้อเพลิง ให้ความร้อนนานสม่ำเสมอ มีควันน้อยและตัวเตามีระบบดูดควันอยู่ในตัว อีกทั้งยังใช้กระทะTeflon ในการปิ้งย่างทำให้เนื้อไม่ติดเหมือนกับการย่างบนตะแกรง และเนื้อสุกไวกว่า อีกทั้งไม่ต้องคอยเปลี่ยนตะแกรงบ่อยๆ หากมากินเนื้อย่างที่ร้านเตาถ่านนี้แล้วอยากจะกินแบบอิ่มจุใจ ขอแนะนำว่าให้เลือกกินเป็นแบบบุฟเฟต์ ราคาเพียง 389 บาทต่อคน (ไม่รวมเครื่องดื่ม) และสามารถกินได้นานถึง 2 ชม. สำหรับในรายการบุฟเฟต์ของที่นี่จะมีเนื้อวัวถึง 4 แบบให้ได้เลือกลิ้มรสกัน มีเนื้อลาย เป็นเนื้อส่วนน่องสไลด์เป็นชิ้นบางๆ ราดด้วยน้ำซอสสำหรับราดเนื้อเป็นพิเศษ เนื้อลายนี้เคี้ยวนุ่มหนึบหนับปาก เนื้อตัวที่สอง คือ เนื้อสัน เป็นส่วนของเนื้อวัวล้วนๆ ที่เรียกว่าเนื้อลูกมะพร้าว ซึ่งมีความนุ่มมากๆ ทางร้านสไลด์มาเป็นชิ้นบางๆ เช่นกัน และราดด้วยน้ำซอสราดเนื้อสูตรพิเศษ ลิ้มรสสัมผัสได้ถึงความนุ่มของเนื้อที่เคี้ยวนิ่มและหวานรสเนื้อได้ใจ
|
| สารพัดเนื้อคุณภาพ |
| | ถัดมาเป็น เนื้อติดมัน ซึ่งทางร้านเลือกเนื้อเสือร้องไห้ ก็คือบริเวณส่วนอกที่อ่อนนุ่มมีมันปนเล็กน้อย สไลด์มาเป็นชิ้นบางๆ เหมือนกันและราดด้วยซอสสูตรเด็ด กินล้วนโดนใจปากตรงที่เนื้อหวานเคี้ยวนุ่มหนึบปากติดมันนิดๆ เนื้อตัวสุดท้าย คือ เนื้อหนอก ลักษณะของเนื้อเหมือนเนื้อติดมันบวกกับเนื้อลาย สไลด์มาเป็นชิ้นบางๆ ราดด้วยซอสสำหรับเนื้อโดยเฉพาะ กินแล้วสัมผัสได้ถึงความนุ่มของเนื้อ เคี้ยวแล้วมีความกรุบนิดๆ ของเนื้อที่ดี นั่นคือเนื้อทั้ง 4 ตัวที่มีอยู่ในรายการบุฟเฟต์ และใช่ว่าจะมีแต่เนื้อวัวเท่านั้น ยังมีหมูสันคอและหมูติดมัน แล่มาเป็นชิ้นพอดีคำราดด้วยน้ำซอสสูตรเด็ดของทางร้าน ย่างเนื้อหมูบนเตาร้อนๆ กินแล้วหมูเคี้ยวนุ่มหวานปาก
|
| ปิ้งๆ ย่างๆ บนเตาถ่านร้อนๆ |
| | เนื้อไก่ นุ่มๆ ก็มีซึ่งทางร้านเลือกเนื้อไก่ส่วนสะโพก แล้วยังมีปลาโดริ เป็นปลาน้ำจืดจากเวียดนามมาให้ย่างกินแบบเนื้อนุ่มหวาน หมึก ก็ มีเช่นกัน เป็นหมึกกล้วยเนื้อขาวย่างแล้วน่ากิน และก็ยังมีเห็ดออรินจิ มีชุดผักสำหรับย่าง และมีชุดผักสดที่มีผักกาดหอม ผักกาดขาว แตงกวา มาพร้อมกับน้ำจิ้มซันซูมิโซะให้ห่อกินกับเนื้อย่างสไตล์แบบเกาหลี ยังไม่หมดในรายการบุฟเฟต์ยังมี กิมจิ ซุปสาหร่าย ผักยำน้ำมันงา ไข่ตุ๋น ข้าวญี่ปุ่น ข้าวกระเทียม มาให้กินแบบอิ่มสุดๆ กันไปเลย ซึ่งในรายการบุฟเฟต์ทั้งหมดนี้สามารถเลือกสั่งมากินได้แบบตามใจชอบ แหม!!เกือบลืมบอกไปว่าที่นี่น้ำจิ้มรสเด็ดถึง 3 แบบด้วยกันที่จะจิ้มกินกับเนื้อ คือ น้ำจิ้มตัวแรก เป็นน้ำจิ้มตัวเด่นสูตรเด็ดโดยเฉพาะที่ทางร้านทำเอง จิ้มกินกับเนื้อได้รสชาติหวานๆ เค็มๆ แถมมีกลิ่นหอมของผลไม้ และน้ำจิ้มอีก 2 ตัวคือ น้ำจิ้มซันชูมิโซะและพริกเกาหลี
|
| เนื้อใบบัว |
| | และนั่นก็คือ รายการบุฟเฟต์ที่มีให้กินแบบอิ่มสาสมใจปาก แต่ว่าก็ขอบอกว่ายังมีเมนูเนื้อเด่นๆ อย่างอื่นที่มีให้เลือกสั่งมาเป็นจานๆ ที่ชวนกินอีก ไม่ว่าจะเป็น เนื้อใบบัว (200 บาท) เป็นเนื้อมีมันแทรกและมีลายสวย ย่างกินแล้วถูกปากมากเพราะเนื้อสดเคี้ยวนุ่มหวานปาก
|
| เนื้อลูกเต๋า |
| | เนื้อลูกเต๋า (240 บาท) เป็นเนื้อนุ่มชิ้นหนาหั่นเป็นชิ้นลูกเต๋า คลุกเคล้าด้วยเครื่องปรุง เสิร์ฟพร้อมน้ำมะนาวสด ย่างเนื้อลูกเต๋าให้แค่พอสุก จิ้มกับน้ำมะนาวแล้วส่งเข้าปากเคี้ยวแล้วสัมผัสได้ถึงความนุ่มหนึบของเนื้อ รสดี
|
| ยำเนื้อญี่ปุ่น |
| | ลิ้นวัว (240 บาท) เป็นลิ้นวัวสไลด์บางๆ เสิร์ฟมากับน้ำมะนาสด เวลากินย่างลิ้นวัวแค่พอสุก แล้วจิ้มน้ำมะนาว เอาเข้าปากเคี้ยวลิ้นวัวได้ความรู้สึกเด้งๆ กรึบๆ และยังมี ยำเนื้อญี่ปุ่น (120 บาท) เป็นเนื้อส่วนที่นุ่มเป็นพิเศษ นำมาหมักด้วยเครื่องเทศต่างๆ นำไปกริลล์บนกระทะให้พอสุกแค่ส่วนผิว สไลด์เป็นชิ้นพอคำ มีกระเทียมใส่มาด้านบน ส่วนด้านล่างเป็นหอมใหญ่ซอย แล้วราดด้วยน้ำยำสูตรพิเศษ เวลากินให้บีบมะนาวสดลงไปบนเนื้ออีกที แล้วคีบชิ้นเนื้อพร้อมกับกระเทียมและหอมใหญ่ ส่งเข้าปากเคี้ยวคำโตได้รสชาติเนื้อนุ่มๆ หวานฉ่ำปาก และได้รสเปรี้ยวของมะนาวที่เข้ากันดี
|
| เนื้อใบบัว |
| | นอกจากนี้ หากใครอยากจะอิ่มอร่อยกับอาหารสไตล์ญี่ปุ่นและเกาหลี ก็มีเมนูเด็ดที่ชวนกิน อาทิ ข้าวหน้าซี่โครงตุ๋นเกาหลี (85 บาท) ข้าวหน้าเนื้อตุ๋น (95 บาท) ทงคัตซึ (100 บาท) ไก่คาราเหงะ (95 บาท) ข้าวหน้าปลาไหล (160 บาท) และอีกหลากหลายเมนูเด็ด ที่เอาเป็นว่าสาธยายก็คงไม่หมด ต้องชวนกันมาลองลิ้มกันด้วยตัวเองแล้วล่ะ ที่ร้าน"เตาถ่าน yakiniku paradise" แห่งนี้ ซึ่งทางร้านยินดีต้อนรับทุกคนเสมอ * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * “เตาถ่าน yakiniku paradise” ตั้งอยู่ที่ 126/42 ถ.เอกมัย แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.การเดินทางนั่งรถไฟฟ้าลงที่สถานีเอกมัย แล้วเข้ามาในซอยเอกมัย ระหว่างซอยเอกมัย 12 และ 14 ร้านเตาถ่าตั้งอยู่ในโครงการปาร์คอเวนิวโฮมออฟฟิศ มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน จุดสังเกตอยู่ตรงข้ามกับร้านนั่งเล่น เปิดทุกวัน 16.00-24.00 น. ถ้ามากินแนะนำว่าควรโทร.มาจองโต๊ะก่อนที่เบอร์ 0-2714-4534, 08-6616-6195 ทางร้านมีโปรโมชันวันจันทร์-ศุกร์ มาก่อน 17.00 น. สำหรับบุฟเฟต์ มา 4 จ่าย 3 |
No comments:
Post a Comment