Sunday, February 27, 2011

"YAMATO" จอมยุทธ์อาหารญี่ปุ่น ชวนลิ้ม"มิยาบิ"สุดเด็ด

บรรยากาศภายในร้านยะมะโตะ
       ห่างหายจากการพามิตรรักนักกินทั้งหลาย ไปตระเวนกินอาหารจากดินแดนอาทิตย์อุทัยกันเสียนาน มาในมื้อนี้ "ตระเวนกิน" เลยขอเอาใจสาวกคออาหารญี่ปุ่นเป็นพิเศษ ด้วยการพามาลิ้มรสชาติอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับขนานแท้กันยังร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า "YAMATO" (ยะมะโตะ) ซึ่งตั้งอยู่ที่รัชดา ซอย 8
เชฟฮิซาโอะ มัสซึเอดะ
       YAMATO เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีความน่าสนใจไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศของร้านที่ตกแต่งได้อย่างชวนนั่ง ดูสบายๆในอารมณ์และกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นสมัยใหม่ ภายในร้านมีพื้นที่โต๊ะนั่งอย่างกว้างขวางให้เลือกนั่งในมุมโปรดได้ตามใจชอบ แถมยังมีห้องส่วนตัวบริการอีกด้วย
      
       ส่วนเรื่องของอาหารญี่ปุ่น ต้องบอกเลยว่าที่นี่บริการอาหารญี่ปุ่นที่มีรสชาติแบบต้นตำรับจากแดนซากุระ อย่างแท้จริง เพราะมีเชฟชื่อดังชาวญี่ปุ่นนามว่า "ฮิซาโอะ มัสซึเอดะ" ผู้ซึ่งมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการทำอาหารญี่ปุ่นมากว่า 20 ปี ซึ่งชาวญี่ปุ่นรู้จักกันดีและขนานนามให้ว่า "จอมยุทธ์แห่งวงการอาหาร" มาเป็นผู้ปรุงแต่งและคิดค้นเมนูอาหารญี่ปุ่นจานเด็ดมากมาย โดยใส่ใจและคำนึงถึงวัตถุดิบที่เน้นคัดเลือกสรรแต่วัตถุดิบที่ใหม่ สด เพื่อให้ได้ออกมาเป็นอาหารญี่ปุ่นรสเลิศที่พร้อมด้วยหน้าตาของอาหารที่ได้ รับการตกแต่งอย่างสวยงามชวนกิน
Utake Set
       เอาล่ะเมื่อรู้แบ็คกราวน์คร่าวๆของร้านกันแล้ว ทีนี้ตามมาชิมเมนูอาหารญี่ปุ่นจานเด่นของที่นี่กันดีกว่า เริ่มด้วย Utake Set (198 บาท) เมนูนี้ถือว่าเป็นเมนูยอดนิยมของทางร้าน ที่ถ้าใครชอบกินปลาทูน่าไม่ควรพลาดลองลิ้มด้วยประการทั้งปวง เพราะในเซ็ทนี้ประกอบไปด้วยย ซูชิทูน่า ที่ทางร้านเลือกใช้เนื้อปลาทูน่าส่วนท้องที่เน้นความสดมากๆ ทำมาทำเป็นซูชิที่กินแล้วช่างสัมผัสได้ถึงความสดหวานของเนื้อปลาทูน่าเนื้อ แน่นๆ เข้าคู่กับข้าวปั้นนุ่มๆ และยังมีทูน่าสับที่นำมาปรุงรสแล้วโปะลงบนข้าวญี่ปุ่นนุ่มๆ โรยหน้าด้วยต้นหอมและสาหร่าย กินแล้วโดนใจตรงที่ทูน่ารสดีเนื้อนุ่มสดจริงๆ ยังไม่หมดยังมีทูน่าดิบราดซอสและมายองเนสทำเหมือนสลัดให้กินอีกด้วย แถมยังมีปีกไก่ทอดรสดี และซุปมิโซะให้ซดกินแบบชุ่มคอ เรียกว่ากินเซ็ทนี้แล้วชวนอิ่มไม่น้อยเลย
Higawari Zukedon
       จากเซ็ทเมนูทูน่า มากินเมนูนี้ Higawari Zukedon (149 บาท) เป็นข้าวญี่ปุ่นปรุงรสแล้วด้านบนเต็มไปด้วยสารพัดหน้ามากมาย มีทั้งกุ้ง ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ไข่หวาน หมึก ที่ทุกอย่างคลุกเคล้าด้วยซอสสูตรเด็ดของทางร้าน แล้วโรยหน้าด้วยไข่กุ้งและงาขาว พร้อมเสิร์ฟมากับผักดอง และซุปมิโซะ กินเมนูนี้แล้วถูกปากไม่ใช่น้อยกับหน้าต่างๆ ที่ใส่มาทุกอย่างมีความสดและมีรสชาติที่ดีกินเข้ากับข้าวญี่ปุ่นเม็ดนุ่มถูก ลิ้น
Miyabi
       เมนูต่อมาใครที่ชื่นชอบกินซูชิขอบอกว่าต้องโดนใจอย่างแรง กับเมนูที่มีชื่อว่า Miyabi (600 บาท) แค่เห็นหน้าชื่อก็ดึงดูดแล้วสำหรับแฟนหนังญี่ปุ่นบางประเภท ในขณะที่หน้าตาเมนูนี้ก็ดึงดูดไม่แพ้กัน ด้วยไม้ไผ่ลำยาวที่มีซูชิรวมหลากหลายหน้าวางมา มีทั้งซูชิหนวดหมึกยักษ์ ซูชิกุ้ง ซูชิปลาแซลมอน ซูชิปลาทูน่า ซูชิปูอัด ซูชิปลาซาบะดอง ซูชิทูน่าสับ ซูชิโรลน้ำเต้าหวาน ซูชิไข่หวาน และซูชิปลาชิมาอะจิ ได้ลิ้มรสซูชิทุกหน้าแล้วขอยกนิ้วให้ในความสดและความเลิศรสของซูชิแต่ละหน้า เรียกว่าใครเป็นคอซูชิไม่ควรพลาดเมนูนี้เด็ดขาด
Saba Teriyaki Set
       ส่วนถ้าใครพิสมัยในรสชาติของปลาซาบะก็ขอแนะนำเมนูนี้ Saba Teriyaki Set (199 บาท) เป็นปลาซาบะเอามาย่างกับซอสเทอริยากิ ปลาซาบะเนื้อแน่นนุ่มหอมหวานซอสเทอริยากิ แถมในเซ็ทยังมีเทมปุระกรอบนอกนุ่มในให้ได้กิน พร้อมกับมีข้าวญี่ปุ่นให้กินได้แบบเติมไม่อั้น มีผักดองและซุปมิโซะร้อนๆ ให้อีกด้วย
Aburi Hotate No Carpacchio
       เมื่อได้ลิ้มรสปลาแล้วมาชิมหอยเชลล์กันบ้าง กับเมนูนี้ Aburi Hotate No Carpacchio (เล็ก300 บาท ใหญ่ 650 บาท) เป็นหอยเชลล์สดๆ เอามาย่างนิดหน่อยแบบครึ่งสุกครึ่งดิบ แล้วราดด้วยซอสCarpacchio สูตรเฉพาะของทางร้าน มีต้นหอมซอยโรยมาด้วยอย่างสวยงาม ชิมหอยเชลล์เนื้อนิ่มสัมผัสได้ถึงความหวานสดของหอยเชลล์ผสานกับรสชาติซอสที่ ออกเปรี้ยวนิดๆ
Hifuki Dori
       แล้วอีกหนึ่งเมนูที่อยากชวนให้กิน คือ Hifuki Dori (เล็ก 300 บาท ใหญ่ 600 บาท) เป็นการนำเอาเนื้อไก่ส่วนสะโพกมาชุบแป้ง แล้วนำมาผัดกับซอสไปซี่สูตรเด็ดของทางร้าน และพริกแห้ง โรยหน้าด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์ กินไก่แล้วถูกปากเนื้อไก่กรอบนอกนุ่มในได้รสชาติซอสสไปซี่ออกเค็มๆ หวานๆ ไม่ถึงกับเผ็ดมากมายถูกปากดี
บรรยากาศห้องส่วนตัว
       แต่ขอบอกว่าเมนูอาหารญี่ปุ่นจานเด่นของที่นี่ไม่ได้มีแค่นี้ เพราะ ในเมนูอาหารยังมีอาหารญี่ปุ่นจานเด็ดอื่นๆ อีกหลายอย่างที่ชวนกิน อาทิ Ebi Chili Fondue (250 บาท) Teriyaki Chicken Don (78 บาท) Salmon Don (118 บาท) Kaisen Salada Yamato Fu (220 บาท) ฯลฯ และถ้าใครเป็นคอดื่มสาเกที่นี่ก็มีสาเกทั้งร้อนและเย็นบริการให้แก่นักดื่ม ด้วย เอาเป็นว่าถ้าใครเป็นคออาหารญี่ปุ่นที่ต้องการสัมผัสกับรสชาติอาหารญี่ปุ่น แบบต้นตำรับอันถูกปาก พร้อมกับได้นั่งกินในบรรยากาศร้านสไตล์โมเดิร์นก็ชวนเชิญมากันได้ที่ร้าน "YAMATO"
       

No comments:

Post a Comment