ส่วนผสม
เนื้อบ๊วยไม่มีเม็ด | 1 กิโลกรัม |
น้ำตาลทรายแดง | 250 กรัม |
พริกไทยป่น | 1 ช้อนโต๊ะ |
เม็ดยี่หร่าคั่ว | 1 ช้อนโต๊ะ |
กานพลู | 1 ช้อนชา |
ลูกผักชี | 2 - 3 ลูก |
อบเชย | 1 แท่ง |
ขิงสับ | 1 แง่ง |
น้ำส้มสายชู | 375 มล. |
วิธีทำ
นำส่วนผสมทั้งหมดลงในกระทะ ต้มจนเดือด ลดไฟลง เคี่ยวต่ออีก 20 นาที จนกระทั่งเนื้อบ๊วยเปื่อยละเอียด แล้วจึงเทกรองลงบนตะแกรง ให้เหลือแต่น้ำ หรือมีเนื้อบ๊วยผสมบ้าง เก็บใส่ขวดโหล นำออกมาเสิร์ฟพร้อมอาหารเวลาต้องการ
เกี๊ยวกรอบคลุกงา
ส่วนผสม (สำหรับ 50-60 ชิ้น)
งาขาว | 4 ช้อนโต๊ะ |
งาดำ | 4 ช้อนโต๊ะ |
แผ่นเกี๊ยว (ห่อละประมาณ 40 แผ่น) | 1-2 ห่อ |
เกลือ | เล็กน้อย |
น้ำมัน (สำหรับทอด) | |
วิธีทำ
1. ผสมงาทั้ง 2 ชนิด เข้าด้วยกัน ตักน้ำใส่ชามอีกใบหนึ่ง นำแผ่นเกี๊ยวออกมาวาง พรมน้ำเล็กน้อยบนแผ่นเกี๊ยว และโรยด้วยงาที่ผสมเอาไว้แล้ว
2. เติมน้ำมันลงในกระทะประมาณ 1 ใน 3 ของกระทะ รอจนกระทั่งน้ำมันมีอุณหภูมิ 190 องศาเซลเซียส หรือทดสอบด้วยการฉีกมุมเล็กๆของแผ่นเกี๊ยวหรือใช้เกล็ดขนมปังหย่อนลงไป ถ้าฟูกรอบลอยขึ้นมาภายใน 30 วินาที เป็นอันว่าใช้ได้
3. นำเกี๊ยวลงไปทอดในน้ำมันจนฟู และเหลืองกรอบ นำขึ้นมาพักไว้บนกระดาษซับมัน โรยด้วยเกลือ
4. ทอดจนกระทั่งแผ่นเกี๊ยวที่เราเตรียมไว้หมด เสิร์ฟขณะร้อนๆ รับประทานกับน้ำจิ้มหวาน น้ำจิ้มบ๊วย ครีมสด โยเกิร์ต มายองเนส
ฮะเก๋า
ส่วนผสม
เนื้อกุ้งขาวกลาง | 500 กรัม |
มันหมูหั่น | 100 กรัม |
มันหมูเจียว | 30 กรัม |
ไข่ขาว | 1 ฟอง |
แป้งข้าวโพด | 10 กรัม |
เกลือ | 0.5 กรัม |
อาโรมาต | 7.5 กรัม |
น้ำตาล | 10 กรัม |
พริกไทย | 5 กรัม |
น้ำมันงา (พอประมาณ) | |
วิธีทำ
1. นำเนื้อกุ้ง ล้างให้สะอาด ปล่อยให้สะเด็ดน้ำให้แห้ง นำมาผสมเกลือ แป้งข้าวโพดแล้วนำไปตีจนเนื้อกุ้งแตก ใส่ไข่ขาว ตีให้เข้ากัน
2. นำรสชาติที่เตรียมไว้ลงผสม ตีให้เข้ากันอีกครั้งและใส่น้ำมันงา
3. แช่ตู้เย็น เย็นจัด ประมาณ 1/2 ชั่วโมง
ส่วนผสมแป้งห่อ
แป้งตั่งหมิ่น 120 กรัม
แป้งมันฮ่องกง 60 กรัม
วิธีทำแป้ง
1. ตั้งน้ำให้เดือด
2. นำแป้งใส่ภาชนะ แบ่งแป้งมันฮ่องกงเป็น 2 ส่วนเท่าๆกัน ใส่รวมกับแป้งตั่งหมิ่นไปครึ่งหนึ่ง
3. เมื่อน้ำเดือดแล้ว ใส่น้ำเดือดลงที่แป้ง (แป้งที่มีแป้งตั่งหมิ่นกับแป้งฮ่องกง) ใส่น้ำร้อนผสมแป้งให้สุกได้ที่ ไม่แฉะ
4. นำแป้งมันฮ่องกงที่เหลือมานวดให้เข้ากัน ใส่น้ำมันพืชลงผสมนิดหน่อย
>>เมื่อได้แป้งและไส้เรียบร้อยแล้ว ให้แบ่งแป้งที่จะปั้นและแผ่ให้เป็นแผ่นบาง จากนั้นวางไส้ลงให้พอเหมาะจึงจับจีบ แล้วนำไปนึ่ง 5 นาที
เยื่อไผ่เห็ดหอม
ส่วนผสม
เยื่อไผ่ | 100 กรัม |
ผักกาดไต้หวัน | 200 กรัม |
เห็ดหอมแช่น้ำจนนุ่ม ต้มสุก | 10 ดอก |
น้ำมันหอย | 1/4 ถ้วย |
เหล้าจีน | 2 ช้อนโต๊ะ |
น้ำสต็อกไก่ | 2 ถ้วย |
วิธีทำ
1. ล้างผักกาดไต้หวัน ตัดเป็นกาบๆ ล้างอีกครั้งให้สะอาด ใส่ตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ
2. ลวกในน้ำเดือดพอผักสุกเขียวใส ตักขึ้นใส่น้ำเย็น สงขึ้นให้สะเด็ดน้ำ
3. ล้างเยื่อไผ่ แช่น้ำจนนุ่ม ล้างอีกครั้งให้สะอาด ลวกในน้ำเดือดพอสุก ตักขึ้นใส่น้ำเย็น บีบน้ำออกหั่นเป็นชิ้นพอคำ
4. ต้มน้ำสต็อกไก่ด้วยไฟกลางให้เดือด ใส่น้ำมันหอย คนให้เข้ากัน ใส่เหล้าจีน เดือดอีกครั้ง ยกลง เป็นน้ำปรุงรส
5. เรียงเยื่อไผ่ เห็ดหอม และผักกาดไต้หวันลงในจานเล็ก วางในเข่งสำหรับนึ่งอีกครั้ง ตักน้ำปรุงรสใส่ 2 ช้อนโต๊ะ
6. ตั้งน้ำในลังถึงให้เดือด ลดไฟอ่อนๆ วางเข่งเยื่อไผ่นึ่งนานประมาณ 5-7 นาที ยกลง เสิร์ฟร้อนๆ แป้งตั้งหมิ่น แบบทำเอง
ส่วนผสม
แป้งข้าวเจ้า 11/2 ถ้วยตวง
แป้งข้าวเหนียว 1/2 ถ้วยตวง
แป้งมัน 1/2 ถ้วยตวง
น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง
น้ำมัน 1/4 ถ้วยตวง
แป้งมัน(สำหรับใช้นวด) 1/4 ถ้วยตวง
วิธีทำแป้งข้าวเจ้า 11/2 ถ้วยตวง
แป้งข้าวเหนียว 1/2 ถ้วยตวง
แป้งมัน 1/2 ถ้วยตวง
น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง
น้ำมัน 1/4 ถ้วยตวง
แป้งมัน(สำหรับใช้นวด) 1/4 ถ้วยตวง
1. ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว แป้งมันเข้าด้วยกัน ใส่น้ำมันและน้ำนวดจนเข้ากัน ใส่ในกระทะทองหรือหม้อเคลือบแล้วนำไปตั้งไฟใช้ไฟปานกลาง ใช้พายไม้กวนจนแป้งสุกร่อนจากกระทะจึงยกลงพักไว้ให้แป้งเย็น
2. นำแป้งมันสำหรับใช้นวดใส่ในส่วนผสมข้อ 1 แล้วนวดจนแป้งไม่ติดมือจึงตัดแป้งเป็นก้อนหนักก้อนละประมาณ 10 กรัม คลุมผ้าพักไว้สำหรับทำฮะเก๋า เปาะเปี้ยะทอด
เปาะเปี๊ยะทอดสูตรนี้ เพิ่มเต้าหู้และบล็อคโคลี เป็นไส้ให้รสชาติต่างจากปอเปี๊ยะทอดทั่วไป เด็กๆสามารถทานได้ และทำให้ทานผักได้ง่ายขึ้น
ส่วนผสม
ส่วนผสม
หมูสันใน | 250 กรัม |
หอมแดงสับ | 6 หัว |
กระเทียมสับ | 2 กลีบ |
บล็อคโคลี | 100 กรัม |
เต้าหู้ขาวหั่นเป็นก้อนเล็กๆขนาด 5x5 มม. | 100 กรัม |
น้ำมันหอย | 2 ช้อนโต๊ะ |
ซีอิ๊วดำ | 2 ช้อนโต๊ะ |
น้ำส้มสายชู | 2 ช้อนชา |
น้ำตาล | 2 ช้อนชา |
แผ่นเปาะเปี้ยะ | 32 แผ่น |
น้ำมันพืช สำหรับทอด | |
วิธีทำ
1. หั่นเนื้อหมูให้เป็นแท่งยาว ส่วนบล็อคโคลีหั่นแฉลบเป็นชิ้นๆ เตรียมไว้
2. ใส่น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ ตั้งไฟให้ร้อน ผัดหัวหอม กระเทียมและหมูจนสุกดี จึงเริ่มใส่บล็อคโคลี เต้าหู้ขาว น้ำมันหอย ซีอิ๋วขาว น้ำส้มสายชูและน้ำตาล ผัดจนทุกอย่างสุกดี ชิมรสตามชอบ แล้วตักขึ้นพักไว้ให้พออุ่นๆ
3. วางแผ่นเปาะเปี้ยะบนโต๊ะ แล้วตักไส้วางตรงกลางหมุนห่อเก็บปลายให้มิดชิด
4. ตั้งน้ำมันให้ร้อนประมาณ 180 องศาเซลเซียส จึงนำเปาะเปี๊ยะลงทอด นำขึ้นพักไว้ เสิร์ฟขณะอุ่นๆพร้อมน้ำจิ้มบ๊วย หรือน้ำจิ้มเปรี้ยวหวานปอเปี๊ยะสดเวียดนามไส้ไก่
ส่วนผสม
อกไก่ไร้หนัง | 150 กรัม |
ซีอิ๊วดำ | 4 ช้อนโต๊ะ |
กระเทียมสับ | 2 กลีบ |
เหล้าจีน | 2 ช้อนโต๊ะ |
แผ่นเปาะเปี๊ยะ | 24 แผ่น |
ผักชี | 15 กรัม |
ใบแมงลักหรือใบโหระพา | 15 กรัม |
น้ำจิ้ม
น้ำตาล | 100 กรัม |
ผิวส้มและน้ำมะนาว | 2 ลูก |
พริกขี้หนูซอย | 2 เม็ด |
น้ำส้มสายชู | 80 มล. |
วิธีทำ
1. ผสมซีอิ๊ว กระเทียม เหล้าจีน จากนั้นนำไปหมักให้ทั่วอกไก่ที่เตรียมไว้ นำเข้าเก็บในตู้เย็นอย่างน้อย 2 ชั่วโมง หรือข้ามคืนก็ได้
2. จากนั้นนำไก่ออกวางบนถาด นำเข้าเตาอบ อบด้วยอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 40 นาที นำออกจากเตาอบทิ้งไว้ให้เย็น หั่นไก่ออกเป็นท่อนๆจำนวน 12 ท่อน ใส่เตรียมไว้ในจาน
3. ให้นำแผ่นเปาะเปี๊ยะจุ่มในน้ำอุ่น วางลงบนโต๊ะนำชิ้นไก่วางลงพร้อมด้วยผักชี ใบแมงลักหรือใบโหระพา จากนั้นห่อให้สวยงาม
4. การทำน้ำจิ้ม ใส่เครื่องปรุงที่จัดเตรียมไว้ลงในกระทะ เคี่ยวประมาณ 5 นาที ตักใส่ถ้วยทิ้งไว้ให้เย็น แล้วจึงเสิร์ฟพร้อมเปาะเปี๊ยะ
เกี๊ยวทอดเจ
ส่วนผสม (จำนวน 40 ชิ้น)
แผ่นเกี๋ยวเจ (ห่อละ 150 กรัม ) 1 ห่อ
น้ำมันพืช 3 ถ้วย
ผักกาดสำหรับรองจาน
ไส้
แผ่นเกี๋ยวเจ (ห่อละ 150 กรัม ) 1 ห่อ
น้ำมันพืช 3 ถ้วย
ผักกาดสำหรับรองจาน
ไส้
พริกไทยเม็ด | 1/2 ช้อนชา |
น้ำมันพืช | 2 ช้อนโต๊ะ |
เห็ดเป๋าฮื้อสับหยาบ | 50 กรัม |
เห็ดฟางสับหยาบ | 50 กรัม |
เผือกนึ่งสุกยีละเอียด | 1/3 ถ้วย |
มันฝรั่งนึ่งสุกยีละเอียด | 1/3 ถ้วย |
แห้วต้มสับหยาบ | 1/3 ถ้วย |
ซอสปรุงรส | 1 1/2 ช้อนชา |
ซีอิ๊วขาว | 1 1/2 ช้อนชา |
แครอทสับละเอียด | 2-3 ช้อนโต๊ะ |
เห็ดหอมแห้งทอดสับละเอียด | 1/4 ถ้วย |
น้ำจิ้มหวาน
บ๊วยดอง เอาเม็ดออก | 1 เม็ด |
พริกขี้หนูสีแดงเม็ดใหญ่ | 2-3 เม็ด |
น้ำบ๊วยดอง | 1ช้อนโต๊ะ |
น้ำตาลทรายแดง | 1/4 ถ้วย |
น้ำส้มสายชูหมักจากผลไม้หรือข้าว | 3ช้อนโต๊ะ |
เกลือสมุทร | 1/2 ช้อนชา |
วิธีทำ
1. ทำน้ำจิ้มหวานโดยโขลกเนื้อบ๊วยดองกับพริกขี้หนูเข้าด้วยกันให้ละเอียด ตักใส่ถ้วย พักไว้ จากนั้นใส่น้ำบ๊วยดอง น้ำตาล น้ำส้มสายชู และเกลือ ลงในหม้อใบเล็ก คนให้ทั่ว ยกขึ้นตั้งบนไฟอ่อน เคี่ยวพอเหนียวเล็กน้อย ปิดไฟ ตักน้ำจิ้มใส่ถ้วยบ๊วยดองที่โขลก คนพอทั่ว เตรียมไว้
2. ทำไส้โดยโขลกพริกไทยให้ละเอียดจากนั้นใส่ลงผัดกับน้ำมันในกระทะด้วยไฟกลางจนมีกลิ่นหอม ใส่เห็ดเป๋าฮื้อ เห็ดฟาง ผัดเข้าด้วยกันจนสุก
3. ใส่เผือก มันฝรั่งและแห้ว ผัดให้สุกทั่ว ปรุงรสด้วยซอสปรุงรสกับซีอิ๊วขาว ใส่แครอท เห็ดหอมแห้ง ผัดพอทั่ว ปิดไฟ ตักใส่จาน พักให้เย็น
4. คลี่แผ่นเกี๊ยว ตักไส้ใส่ตรงกลางแผ่นเกี๊ยวประมาณ 1 ช้อนชา พับครึ่งเป็นรูปสามเหลี่ยม แล้วนำปลายแผ่นเกี๊ยวมาทับกันให้ตรงกลางนูน ทาริมด้วยน้ำให้แผ่นเกี๊ยวติดกัน ใส่จาน คลุมด้วยผ้าขาวบาง เพื่อไม่ให้แห้ง ทำจนหมด
5. ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางจนร้อน ใส่เกี๊ยวที่ห่อลงทอดจนสุกและเหลืองกรอบทั่ว ตักขึ้นพักในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมันทอดจนหมด
6. จัดใส่จานที่รองด้วยผักกาด ตกแต่งด้วยเลมอน เสิร์ฟร้อนๆกับน้ำจิ้มหวานน้ำจิ้มรสเปรี้ยวหวาน
ส่วนผสม
น้ำตาล | 100 กรัม |
น้ำส้มสายชู | 125 มล. |
น้ำมะนาว | 1 ลูก |
ผิวส้ม | 1 ลูก |
พริกป่น | 1 - 2 ช้อนชา |
งาคั่ว | 1 ช้อนโต๊ะ |
วิธีทำ
ผสมน้ำตาล น้ำส้มสายชู น้ำมะนาว ผิวส้มและพริกป่น ลงในกระทะต้มจนเดือด แล้วเคี่ยวต่ออีก 5 นาที จนส่วนผสมงวดลงครึ่งหนึ่ง ตักขึ้นรอกระทั่งเย็นโรยงา เป็นขั้นตอนสุดท้าย ซาลาเปาไส้เห็ดพริกไทยดำ (เจ)
ส่วนผสม
เนสวีต้า (สูตรโปรตีนถั่วเหลือง) | 1/2 ถ้วย |
แป้งสาลีเอนกประสงค์ | 3 ถ้วย |
ยีสต์ | 1 1/2 ช้อนชา |
น้ำตาล | 1 ช้อนโต๊ะ |
น้ำ | 2/3 ถ้วย |
เนยขาว | 3 ช้อนโต๊ะ |
แครอท และขึ้นฉ่ายซอยเล็กๆ | 2 ช้อนโต๊ะ |
เห็ดหอมหั่นสี่เหลี่ยม | 5 ดอก |
เห็ดออรินจิหั่นสี่เหลี่ยม | 1 ถ้วย |
เนื้อเทียมหั่นสี่เหลี่ยม | 1/2 ถ้วย |
ซอสเห็ดหอม | 1 ช้อนโต๊ะ |
ซอสปรุงรส | 1 ช้อนโต๊ะ |
น้ำมันพืชสำหรับผัด | |
พริกไทยดำบด | |
วิธีทำ
1. หั่นเห็ดทั้ง 2 ชนิดและเนื้อเทียมเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเตรียมไว้
2. ผัดเห็ดและเนื้อเทียมกับน้ำมันให้สุก ปรุงรสด้วยซอสปรุงรสและพริกไทยดำ ผัดให้แห้ง พักไว้ให้เย็น
3. ผสมแป้งสาลี เนสวีต้า ยีสต์ และน้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน ใส่ในโถผสมเตรียมไว้
4. ค่อยๆเทน้ำใส่ลงในส่วนผสมของแห้ง นวดด้วยความเร็วปานกลางจนเข้ากันดี
5. เติมเนยขาว ขึ้นฉ่าย และแครอทซอย นวดต่อจนส่วนผสมเนียน พักแป้งไว้ 30 นาที
6. แบ่งแป้งเป็นก้อนละ 40 กรัม ตักไส้ที่ผัดไว้ ปิดตะเข็บให้สนิท วางบนกระดาษ พักไว้ 1 ชั่วโมง
7. นึ่งซาลาเปาด้วยไฟแรง ประมาณ 15 นาทีหรือจนสุก ขนมจีบ (สำหรับ 50 ลูก)
ส่วนผสม
กระเทียม | 2 กลีบ |
ขิงสดปอกเปลือก | 1 แง่ง |
ตะไคร้ | 2 ต้น |
ใบมะกรูด | 8 ใบ |
พริกขี้หนู | 2 เม็ด |
หอมแดง | 12 หัว |
น้ำปลา หรือซีอิ๋วขาว | 4 ช้อนโต๊ะ |
อกไก่สับ | 500 กรัม |
กะทิ | 4 ช้อนโต๊ะ |
แผ่นเกี๊ยว (แบบบาง) | 50 แผ่น |
วิธีทำ
1. โขลกหรือปั่น กระเทียม ขิง ตะไคร้ ใบมะกรูด พริก หัวหอมเข้าด้วยกัน จากนั้นใส่น้ำปลาหรือซีอิ๊วขาวเล็กน้อย นำใส่ในชามคลุกกับไก่สับแล้วค่อยๆเติมน้ำกะทิผสมลงไป
2. ตัดแผ่นเกี๊ยวให้เป็นแผ่นกลม วางแผ่นเกี๊ยวที่ได้ลงบนผิวโต๊ะที่แห้ง ตักไส้ 1 ช้อนชา ห่อให้ได้รูปทรงขนมจีบ นำปวางบนโต๊ะและแตะด้านบนเบาๆเพื่อให้แผ่นเกี๊ยวติดกันดีมากขึ้น
3. นึ่งในซึ้งประมาณ 8 นาที เสิร์ฟพร้อมจิ๊กโฉ่ว หรือน้ำจิ้มขิง
ขนมผักกาดทอด
ส่วนผสม
หัวไชเท้าขูดฝอย บีบน้ำออก | 3 ถ้วย |
กุ้งแห้ง | 2 ช้อนโต๊ะ |
ไข่ขาวของไข่ไก่ | 1 ฟอง |
เห็ดหอมแช่น้ำจนนุ่ม ต้มสุกหั่นเส้น | 3 ดอก |
ใบคะน้าทอดกรอบ | 1 ถ้วย |
เกลือป่น | 1 ช้อนชา |
พริกไทยป่น | 1/4 ช้อนโต๊ะ |
แป้งข้าวโพด | 1 1/2 ถ้วย |
ถั่วลิสงต้มสุก | 1/4 ถ้วย |
เหล้าจีน | 1 ช้อนโต๊ะ |
น้ำสต๊อกไก่ | 3/4 ถ้วย |
น้ำมันงา | 2 ช้อนโต๊ะ |
น้ำมันพืช | 3 ช้อนโต๊ะ |
วิธีทำ
1. ผสมแป้งข้าวโพดกับไข่ขาวเข้าด้วยกัน ค่อยๆใส่น้ำสต๊อกไก่ คนให้เข้ากัน
2. ใส่เหล้าจีน พริกไทยและเกลือ คนให้ทั่ว ใส่หัวไชเท้า กุ้งแห้ง ถั่วลิสง น้ำมันงาและเห็ดหอม คนให้เข้ากัน นำไปกวนกับน้ำมันด้วยไฟอ่อนจนข้น ยกลง
3. ตักส่วนผสมที่กวนใส่พิมพ์ที่ทาน้ำมัน ใช้ทัพพีกดส่วนผสมให้แน่น นำไปนึ่งในน้ำเดือดไฟแรง นานประมาณ 20 นาที หรือจนสุก ยกลง ทิ้งไว้ให้เย็น แคะออกจากพิมพ์ หั่นเป็นชิ้นขนาดพอคำ
4. ใส่น้ำมันลงในกระทะแบน 1/2 ถ้วย ตั้งไฟกลางพอร้อน ใส่ขนมหัวผักกาดลงทอดพอเหลืองทั่ว ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน
5. จัดใส่จาน วางใบคะน้าทอดกรอบด้านบน รับประทานกับจิ๊กโฉ่ซาลาเปาไส้ครีม
ส่วนผสม
ตัวแป้ง
แป้งสาลี 4 ถ้วยตวง
น้ำอุ่น 1 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
ยีสท์แห้ง 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1/4 ช้อนชา
ลูกเชอร์รี่สีแดง สำหรับแต่ง
กระดาษลอกลายสีขาว ตัดเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาดประมาณ 1x1 นิ้ว ขึ้นอยู่กับขนาดของซาลาเปา
ไส้ครีม
น้ำตาลทราย 250 กรัม
มาการีน 200 กรัม
แป้งสาลี ร่อน 2 ครั้ง 75 กรัม
นมผง 500 กรัม
นมสด 50 กรัม
แป้งคัสตาร์ด 500 กรัม
ไข่ไก่ฟองใหญ่ 4 ฟอง
กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1. ร่อนแป้งสาลี 1 ครั้ง ผสมน้ำตาล เกลือ ยีสท์ น้ำมันพืช เข้าด้วยกัน ใส่น้ำอ่นลงนวดแป้ง
ให้เข้ากันจนเนียนดี แล้วทำแป้งให้เป็นก้อนกลม ทาน้ำมันให้ทั่วแป้งบางๆ เพื่อไม่ให้แป้งแห้ง
ใส่ชาม ตั้งทิ้งไว้ 30 นาที ควรใช้ผ้าขาวบาง ชุบน้ำบิดหมาดๆ คลุมไว้ จะทำให้แป้งขึ้นเป็น 2 เท่าตัว
2. ทำไส้ โดยนำส่วนผสมไส้ครีมทั้งหมด ผสมเข้าด้วยกัน นำไปกรอง แล้วใส่หม้อตุ๋น
จนกระทั่งส่วนผสมเหนียว ปั้นได้ จึงยกลง แล้วทิ้งไว้ให้เย็น
3. นำแป้งมานวดอีกครั้ง เพื่อไล่อากาศออก แล้วแบ่งเป็นก้อน ก้อนละประมาณ 10-20 กรัม ตามแต่ต้องการลูกใหญ่หรือเล็ก
4. นำแป้งที่แบ่งไว้เป็นก้อนๆ มาแผ่ออกเป็นแผ่น ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 2 นิ้ว นำแป้งวางลงบนฝ่ามือ ตักไส้ใส่ตรงกลางแผ่นแป้ง แล้วห่อแป้งเข้ามารวมกันให้มิดไส้
คลึงให้เป็นลูกกลมๆ วางลงบนกระดาษลอกลายสีขาว ที่เตรียมไว้ วางพักไว้ประมาณ 5 นาที
5. นำซาลาเปาที่พักไว้ ไปนึ่งในลังถึง ที่มีน้ำเดือดพล่าน ใช้เวลานึ่งประมาณ 15 นาที จึงยกลงจัดเสริ์ฟได้ทันที
ซาลาเปาไส้หมูสับ
ส่วนผสมยีสต์ (ส่วนที่ 1) | | |
น้ำ ยีสต์ แป้งสาลีสำหรับทำซาลาเป่า ส่วนผสมแป้ง (ส่วนที่ 2) แป้งสาลีสำหรับทำซาลาเป่า ผงฟู น้ำตาลทราย เกลือป่น น้ำเย็น เนยขาว | 1 1/2 1 1/2 7 1/2 2 1/2 1 1/3 1 1 1/4 2/3 | ถ้วยตวง ช้อนโต๊ะ ถ้วยตวง ถ้วยตวง ช้อนชา ถ้วยตวง ช้อนชา ถ้วยตวง ถ้วยตวง |
วิธีทำ |
1) ร่อนแป้งสาลี ส่วนที่1 ผสมกับยีสต์และน้ำ นวดให้เข้ากัน พักไว้จนขึ้นอีกเท่าตัว พักไว้ 2) ร่อนแป้ง ส่วนที่ 2 กับผงฟูเข้าด้วยกัน 3) ผสมน้ำตาล เกลือ น้ำเข้าด้วยกัน แล้วใส่ลงในแป้ง เคล้าให้เข้ากัน ใส่เนยขาว นวดให้เข้ากันพักไว้ 4) นำส่วนผสมของยีสต์ (ข้อ 1) ใส่ลงในส่วนผสม (ข้อ 3) นวดรวมกันจนไม่ติดมือ หมักไว้ 15 - 20 นาที หรือขึ้นเป็น 2 เท่า 5) นวดแป้งไล่ฟองอากาศออก แล้วปั้นเป็นก้อนกลม ขนาดตามต้องการ พักไว้ 10 นาท ี6) แผ่แป้งเป็นกระพุ้งใส่ไส้แล้วปิดให้สนิท พักไว้ 5 นาที นำไปนึ่งไฟแรงนานประมาณ 12 นาที พอสุกยกลง |
ส่วนผสมไส้หมูสับ | | |
หมูสับละเอียด มันแกวสับละเอียด หน่อไม้สับละเอียด ซอสปรุงรส น้ำตาลทราย | 2 1/2 2 1 2 | ถ้วยตวง ถ้วยตวง ถ้วยตวง ช้อนโต๊ะ ช้อนโต๊ะ |
วิธีทำ 1) สับมันแกวให้ละเอียด บีบน้ำออกให้หมด 2) ผสมหมูสับ มันแกวกับหน่อไม้ ผสมให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาลทราย หมักพักไว้ 15 นาที จึงนำมาใช้ |
No comments:
Post a Comment