Monday, February 28, 2011

"สวนอาหารเพ็ญ" เน้นความสด รสถึงใจ

บรรยากาศภายในชั้นล่างสวนอาหารเพ็ญ
       ว่ากันว่าหากสาวไหนมี "เสน่ห์ปลายจวัก" เป็นแม่บ้านแม่เรือนทำกับข้าวกับปลาเก่ง นั้นถือว่ามีเสน่ห์มัดใจชายให้หลงใหล ถึงแม้ว่า "ผู้จัดการตระเวนกิน" เองจะไม่มีเสน่ห์ปลายจวักมัดใจใครเขา เพราะว่าไม่ถนัดเรื่องทำอาหาร แต่เราก็ถนัดในเรื่องหาที่กินที่ดื่ม ซึ่งก็ไม่รู้ว่าความถนัดด้านนี้จะมัดใจใครได้หรือเปล่า
      
       อย่างในมื้อนี้เราก็ได้ไปสรรหาร้านอาหารเลิศลิ้นมาฝากมิตรรักนักกินกันอีกเช่นเคย และร้านอาหารที่อยากจะนำเสนอนั้นก็คือ "สวนอาหารเพ็ญ" ที่ตั้งอยู่ตรงถ. จันทน์ ซึ่งเราได้มีโอกาสเดินทางไปตระเวนกินลองลิ้มรสชาติอาหารของที่ร้านนี้มาแล้ว ถึงขั้นติดอกติดใจในเสน่ห์ปลายจวักของแม่ครัวฝีมือดีของร้านนี้เข้าอย่างจัง ที่ได้นำเสนออาหารไทยแบบรสชาติจัดจ้าน และยังมีซีฟู้ดสดๆ ที่ได้คัดสรรแต่วัตถุดิบของดี มีคุณภาพมาจากหลายแหล่งอาหารทะเลที่ดีของไทย นำมาปรุงแต่งเป็นเมนูเลิศรสสารพัดที่ล้วนแล้วแต่ชวนชิมมากมาย
ทอดมันปลากราย
       ถ้ามาแล้วก็ไม่ควรที่จะพลาดสั่งเมนูจานเด็ดเหล่านี้ที่เราได้ลองลิ้มจนถูกปากและอยากแนะนำให้ลองชิมกันก็มี ทอดมันปลากราย (ชิ้นละ 50 บาท) เป็นทอดมันปลากรายชิ้นใหญ่ ที่อัดแน่นไปด้วยเนื้อปลากรายล้วนๆ ผสมกับเครื่องเคราเครื่องพริกแกงสูตรเด็ดของทางร้าน และใส่ถั่วฝักยาวผสมลงไปด้วย ปั้นเป็นชิ้นกลมแบนขนาดใหญ่แล้วทอดจนสุกหอม เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ดที่ทางร้านทำเองเช่นกัน หั่นชิ้นทอดมันปลากรายส่งเข้าปาก เคี้ยวนุ่มเนื้อแน่นหนึบหนับปากได้รสชาติปลากรายล้วนๆ
กุ้งแม่น้ำเผา
       กุ้งแม่น้ำเผา (ตัวละ 600 บาท) เมนูซีฟู้ดสดๆ ที่คนชอบกินกุ้งไม่ควรพลาดสั่งด้วยประการทั้งปวง เป็นกุ้งแม่น้ำแท้ๆ จากแปดริ้ว คัดสรรแต่ตัวโตๆ และต้องมีมันกุ้ง นำมาย่างด้วยเตาถ่านจนกุ้งสุกหอมกำลังกิน ลองลิ้มรสชาติกุ้งเผาแล้วก็ต้องยกนิ้วให้ในความสดของกุ้งเนื้อแน่นขาว หวานสดได้ใจ มันของกุ้งหอมมัน ยิ่งจิ้มกินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้านเปรี้ยว เค็ม เผ็ด ขอบอกว่าเลิศลิ้นเกินคำบรรยาย
ปลานกแก้วแดดเดียว
       ปลานกแก้วแดดเดียว (680 บาท) เป็นอีกหนึ่งเมนูซีฟู้ดที่หากินได้ยากนอกจากที่นี่ เพราะทางร้านสั่งปลานกแก้วเนื้อขาวนำเข้ามาจากเวียดนาม นำมาแล่เอาก้างออกแล้วตากแดดให้แห้งก่อนจะนำมาทอดจนปลาสุกเหลืองกรอบดูน่า กิน มาพร้อมเครื่องเคียงสารพัดมีทั้งหอมแดง หอมเจียว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วลิสง ใบสะระแหน่ และมีน้ำจิ้ม 2 แบบ มีน้ำจิ้มมะม่วงและน้ำจิ้มซอสมะขาม กินเนื้อปลานกแก้วกรอบนอกเนื้อในนุ่มหวาน แกล้มกับเครื่องเคียงต่างๆ ราดน้ำจิ้มมะม่วงออกหวานๆ อมเปรี้ยว ส่วนน้ำจิ้มซอสมะขามเปรี้ยวเผ็ดถูกลิ้น
เนื้อตุ๋นพลังช้าง
       กินเมนูซีฟู้ดไปแล้วถึง 2 อย่างคราวนี้มากินเมนูไทยสุดแซบอย่าง เนื้อตุ๋นพลังช้าง (เล็ก 150 บาท ใหญ่ 350 บาท) ที่ฟังแค่ชื่อก็ชวนติดตามแล้ว เนื้อตุ๋นชามนี้ทางร้านคัดเนื้อสันในวัวอย่างดี มีเอ็นและข้อด้วย นำมาตุ๋นกับเครื่องเทศยาจีนเคี่ยวนานเป็นวันๆ จนเนื้อวัวเปื่อยยุ่ย ปรุงรสชาติกับน้ำซุปหอมๆ ออกรสชาติแซบเด็ด ซดน้ำซุปร้อนๆ ชุ่มชื่นโล่งคอ เนื้อนิ่มเคี้ยวนุ่มได้ที่ดีนักแล
ข้าวเหนียวมะม่วง
       พอจัดการกินอาหารคาวจนเกือบอิ่มท้อง ขอบอกว่าควรเหลือพื้นที่กระเพาะให้ของหวานด้วย เพราะที่นี่มีของหวานขึ้นชื่อที่ชวนกินอย่าง ข้าวเหนียวมะม่วง (120 บาท) ที่ทางร้านมูนข้าวเหนียวเองด้วยสูตรเด็ดเฉพาะ และมาพร้อมกับมะม่วงน้ำดอกไม้สุกเหลืองหอม ลิ้มรสข้าวเหนียวมูนเป็นเม็ดนุ่มปากออกหวาน เค็ม มันกินเข้ากันกับมะม่วงน้ำดอกไม้หวานๆ อ้อ!! และทางร้านยังมีผลไม้เป็นฝรั่งแจกฟรีให้กับลุกค้าทุกตะได้กินล้างปากกันด้วย
อีกหนึ่งมุมโต๊ะนั่งสบายๆ
       และทั้งหมดนี้ก็คือมื้ออันอิ่มหนำของเรา แต่ถ้าหากมิตรรักนักกินเกิดมากันหลายคน เมนูที่แนะนำเหล่านี้อาจจะไม่พอ ก็ขอบอกว่ายังมีเมนูอื่นๆ ที่ชวนสั่งมากินอีก อาทิ ปูทะเลนึ่ง (ขีดละ 100-120 บาท) หอยเป๋าฮื้อผัดพริกเผา (350 บาท) หอยนางรมกระทะร้อน (180 บาท) ลิ้นเป็ดพะโล้ (200 บาท) และอีกสารพัดเมนูไทย-ซีฟู้ด ที่ชวนสั่งมานั่งกินกันในบรรยากาศร้าน "สวนอาหารเพ็ญ" ที่จัดตกแต่งแบบให้นั่งสบายๆ ในสไตล์เหมือนบ้าน
      
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       "สวนอาหารเพ็ญ" ตั้งอยู่ที่ 2068/4 ถ.จันทน์ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ การเดินทางถ้ามาจากถ.สาทร ให้วิ่งตรงมายังถ.นราธิวาสราชนครินทร์ วิ่งตรงมาเรื่อยๆ จนมาถึงแยกแล้วให้เลี้ยวขวาเข้าถ.จันทน์ ตรงเข้ามานิดเดียวจะเห็นสวนอาหารเพ็ญตั้งอยู่ซ้ายมือ ตรงข้ามกับถ.จันทน์ ซอย 2 มีที่จอดรถด้านข้างร้าน เปิดทุกวัน เวลา 11.00-14.00 น. และ 17.00-23.00 น. ถ้ามาทานศุกร์-อาทิตย์ แนะนำว่าควรโทร.มาจองโต๊ะก่อนจะดีที่เบอร์ 0-2287-2907, 0-2286-7061, 0-2286-3058

No comments:

Post a Comment