Saturday, May 21, 2011

"ศาลาไทย-แต่เตี้ยม"ดื่มน้ำชา...กินของว่างอย่าง "แต้จิ๋ว"/สันติ เศวตวิมล

โดย สันติ เศวตวิมล
"ศาลาไทย" กลางวันขายขนมจีบน้ำชา "แต่เตี้ยม" กลางคืนขายอาหารจีน-ฝรั่ง "ฟิวชั่น"
       อาหารกลางวันแบบกวางตุ้งเรียกว่า "ติ่มซำ" แต่อาหารกลางวันแบบแต้จิ๋วเรียกว่า "แต่เตี้ยม" ฟังแล้วคล้ายกัน แต่ความอร่อยแตกต่างกัน
      
        "ป้าช้อย"...บอกกับผมว่า
      
        ขนมจีบ-ซาลาเปา ที่กินกับน้ำชาร้อน...ร้อนตอนกลางวันที่ตอนนี้บ้านเรานิยมกินกันเป็นแบบคนกวางตุ้งเขากินที่เรียกว่า "ติ่มซำ"
      
        (ติ่มซำ...แปลเป็นไทยก็หมายความว่า กินตามใจ กินตามสบาย)
      
        เพราะฉะนั้นสมัยก่อน คนขายก็จะยกเอามาให้เลือก คือเห็นหน้าค่าตากันซะก่อน แล้วค่อยยกเข่งที่นึงมาร้อน...ร้อน
      
        แต่ตอนนี้กิน "ติ่มซำ" อย่างเก่าก่อน คือคนขายจะเอาใส่ถาดคล้องคอเอามาให้เลือกถึงข้างโต๊ะไม่มีกันแล้ว ที่ขาย...ขายทุกวันนี้เป็นติ่มซำแช่เย็น...แช่แข็ง อยากกินทีจะดึงเอาไปนึ่งของจึงไม่สดเมื่อไม่สดก็ไม่...โทซิก!!
"แต่เตี้ยม" ของกินว่างกับน้ำชาแบบแต้จิ๋ว มีแตกต่างกันถึง 17-20 รายการ อร่อยไม่เหมือนกวางตุ้ง
       ป้าแกเล่า แล้วเมื่ออาทิตย์ก่อนป้าแกพาผมไปกินขนมจีบ...ซาลาเปากับน้ำชาร้อน...ร้อน แล้วก็สอนผมว่า
      
        ...นี่คือการกินขนมจีบซาลาเปา แล้วก็น้ำร้อนแบบโบราณ...
      
        ผมกินร้านที่ป้าแกพาไป แล้วแทบจะปูผ้ากราบไหว้ฝีมือ เพราะนี่คือการกินขนมจีบ-ซาลาเปาอร่อยที่สุดเท่าที่ผมเคยกินมา
      
        อร่อยกว่าร้านติ่มซำต้นตำหรับที่ฮ่องกงที่ผมบินไปกินเสียด้วยซ้ำ
      
        พอผมชมกับคุณป้าเช่นนั้น แกก็ตอบว่า
      
        "เด็ก...กินไม่เป็น นี่มันติ่มซำของกวางตุ้งที่ไหนกัน นี่มันแต่เตี้ยม ขนมจีบ-ซาลาเปา น้ำชาจีนของแต้จิ๋วคนจีนบ้านเราน่ะ"
"แต่เตี้ยมร้อน" เคล็ดลับอร่อยทำใหม่สด สั่งแล้วนึ่งทันที ("ติ่มซำกวางตุ้ง" จะแช่เย็น แช่แข็ง ไม่เป็นของสด)
       ร้านที่ป้าช้อยพาผมไปกินแต่เตี้ยม ชื่อร้านว่า "ศาลาไทย" อยู่ถนนพระราม 3 ตรงข้ามกับวัดดอกไม้ แถวสาธุประดิษฐ์
      
        ร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่อายุกว่า 80 กว่าปี สมัยก่อนอยู่ที่หัวมุมศาลาแดง ถนนสีลม ตรงกันข้ามกับโรงแรมดุสิตธานี
      
        เจ้าของร้านเป็นนักเรียนฝรั่งเศส ชื่อ "คุณอั๋น" เป็นสถาปนิกออกแบบอาคารทันสมัยของกรุงเทพยุคนั้น
      
        "คุณอั๋น" เป็นคนชอบทำอาหารชอบเต้นรำ จึงตั้ง "ศาลาไทย" ขึ้นมาเป็นเสมือนสโมสรนักเรียน ดื่มกินเต้นรำกัน จนร้าน "ศาลาไทย" โด่งดังที่สุดสมัยก่อนสงครามและหลังสงครามโลก
      
        ตอนกลางวันที่นี่จะมี "แต่เตี้ยม" หรือขนมจีบ-ซาลาเปา น้ำชาจีนให้กินกัน พอตอนกลางคืนจึงจะมีดินเนอร์อาหารจีน
       ป้าช้อย...แกเล่าว่า
      
        เหตุผลที่ "แต่เตี้ยม" ของร้านศาลาไทยโด่งดังก็เพราะตระกูลดั้งเดิมของ "คุณอั้ม" มีเชื้อสายจีนฮกเกี้ยนมาจากเมืองจีน(จีนฮกเกี้ยนกับจีนแต้จิ๋วมีความละม้าย คล้ายคลึงกันทั้งภาษาพูด อาหารการกิน ร่วมทั้งศิลปะในการดื่มน้ำชา)
      
        ที่สำคัญก็คือ ชาของร้าน "ศาลาแดง" เป็นชาจีนจากฮกเกี้ยน ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นชาที่ดีที่สุดของเมืองจีน
      
        ตระกูลของ "คุณอั๋น" ยังเป็นเจ้าของไร่ชาอยู่ที่เมืองเซียะเหมิน ปัจจุบันชาจากไร่ของคุณอั๋นก็ยังส่งมาขายเฉพาะที่ร้าน "ศาลาไทย" แห่งเดียวเท่านั้น
ก่อนที่คุณอั๋นจะ ตั้งร้านอาหารศาลาไทย ตระกูลของคุณอั๋นมาจากเมืองจีนตั้งแต่สมัยต้นรัตนโกสินทร์ ตั้งร้านขายชาใบจีนอยู่ที่หน้าวัดเกาะ (วัดสัมพันธวงศ์) เยาวราช ชื่อร้านใบชา "กิ่งทอง"
       ตำนานร้านใบชา "กิ่งทอง"
      
        ชาจากไร่เมืองจีนที่มีขายชื่อว่า "แต้อ๋อง" แปลไทยว่า "ชาจักรพรรดิ์" ถ้ามากินแต่เตี้ยมที่นี่สามารถสั่งมาดื่มได้ กาละ 150 บาท แต่ถ้าเป็นชาจุ๋ยเซียน หรือทิกวนอิม กาละ 100 บาท...ถ้าถูกใจเพราะถูกปากถูกคอ ก็ขอปันซื้อที่ร้านขายกระป๋องละ 400 บาท
      
        ไปกิน "แต่เตี้ยม" กับคุณป้าช้อยคราวนั้น ได้ความรู้เรื่องกินขนมจีบ-ซาลาเปากับชาจีนมากมาย แต่ที่ประทับปาก...ประทับใจก็รสชาติของแต่เตี้ยมแต้จิ๋วอร่อยแตกต่างไปจาก ติ่มซำของพวกกวางตุ้ง
      
        ส่วนที่ไม่ได้พรรณนาความก็เพราะว่า
      
        ไม่รู้จะเขียนเล่าได้อย่างไร แต่เตี้ยมของที่นี่มีมากมายตั้งแต่ 17-20 รายการ คุณจะต้องไปลองกันเองและที่สำคัญป้าช้อยแกบอกว่า
      
        ...กิน กินซะ นี่เป็นร้านแต่เตี้ยมร้านสุดท้ายในยุทธจักร ที่ผิดจากร้านนี้แล้วซี้ซั้วต่ากันทั้งนั้น...*
       *****************************************
      
       ร้านศาลาไทย ถนนพระราม 3 ตรงข้ามวัดดอกไม้ สาธุประดิษฐ์ โทรศัพท์ 02 358 0022 - 4

No comments:

Post a Comment