Saturday, May 21, 2011

สวัสดีปีใหม่กินทับทิม ดื่มกระหล่ำจายที่ "อินเดีย"กันมั๊ยเจ้าค่ะ / แม่ช้อยนางรำ

โดย : แม่ช้อยนางรำ
"อนาด"ภาษาอินเดียเรียกทับทิมอย่างนั้น ทับทิมอินเดีย จากภูเขาหิมาลัย เมืองซิมลา
       "คุณหญิงย่าอีชั้น...ไปไหว้พระพุทธบาท สระบุรี
      
       "ไปสามที่ ได้ขึ้นสรรค์" ท่านก็ว่าจองท่าน
      
       แต่ขอเชิญชวนท่านไปไหว้นพระที่อินเดียไปครั้งเดียวถึง...สวรรค์เจ้าค่ะ"
       

       สวัสดีปีใหม่เจ้าค่ะ
      
       ปีใหม่..ปีขาลเริ่มต้นกันตั้งแต่วันนี้ แล้วก็กราบเรียนเขียนให้พระเดชพระคุณทั้งหลายได้รู้กันว่า
      
       คอลัมน์ "เปิปพิสดาร" ที่อีชั้นเขียนขึ้นปีที่ 34 แล้ว!!!
      
       สามสิบสี่ปี...ถ้าเป็นชีวิตทั้งหลาย เป็นต้นไม้ใหญ่ก็โตใหญ่เก็บดอก..ออกผลตอบแทนให้ชื่นอกชื่นใจ
      
       ถ้าเป็นสัตว์เล็ก...สัตว์ใหญ่ ก็เจริญออกลูกออกหลานยั้วเยี้ย
      
       แต่นี่เป็นเพียงข้อเขียน ก็เติบโตได้ตามความเมตตาของพระเดชพระคุณ ที่อ่านกันมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2519 เอาล่ะเป็นอันว่าขอเชิญอ่านกันต่อไป
      
       เมนูแม่ช้อย..หรือเปิปพิสดาร คำจำกัดความก็มีสั้น..สั้นว่า "เปิปพิสดาร มาตราฐานความอร่อย ของแม่ช้อย นางรำ"
       

       เป็นประจำ ทำติดต่อกันมาเป็นเวลาเกือบยี่สิบปี
      
       ช่วงปลายปี ช่วงต้นปี อีชั้นจะพาแควน..แควนไปไหว้พระพุทธเจ้าที่ประเทศอิรเดียดินแดนที่พระ พุทธองค์ทรงตรัสรู้บอกกับพระอานนท์ว่า
"กะหลำจาย"ชาอินเดียผสมเครื่องเทศแขก อร่อยแปลก..แปลก ดื่มชาเป็นอายุยืน
       "ชนใดได้มากราบไหว้ สังเวชสถานทั้งสี่ แม้ตายแค่กายดับ แต่จิตจักสู่สวรรค์"
      
       เหตุที่พระองค์ทรงตรัสไว้เช่นนั้นก็เพราะว่า
      
       ดินแดนแห่งนี้เป็นดินแดนที่ผู้ที่มาจะได้เกิดความสังเวชเวทนา เห็นแล้วก็ปลงตกได้ว่า...ชีวิตแท้ มีแต่ความทุกข์
      
       คนเราเมื่อเห็นทุกข์ ก็ปลงตก
      
       เมื่อปลงได้ ก็ขึ้นสวรรค์ได้
      
       ถ้าปลงไม่ได้ ยังยึดมั่น..ถือมั่น ถืออัตตาตัวกูของกู ตัวมึงของมึง จึงต้องเวียนว่ายอยู่ในความทุกข์ไม่ใช่ชาตินี้เท่านั้น
      
       ไปเกิดชาติหน้า ชาติไหน..ไหน ทุกข์ทั้งนั้น ทุกข์มันไม่มีวันสิ้นสุด
      
       ส่วนที่อีชั้น พาแควน..แควนไปไหว้พระพุทธเจ้าที่อินเดียในช่วงนี้ก็เพราะว่า
      
       เป็นอินเดียช่วงปลายปีตุลา..พฤศจิกา..ธันวา
      
       อินเดียต้นปีช่วงเดือนมกรา..กุมภา..อากาศสบายที่ซู๊ด!!เจ้าค่ะ
      
       อุณหภูมิที่นั่นประมาณ 18-20 องศา เรียกว่าไม่ร้อนแล้วยังเย็นสบาย
      
       จะเดินไปไหนเนื้อตัวไม่มีเหงื่อเหนียวเหนอะหนะ
      
       เรียกว่าคนอายุ 60-70ขึ้นภูเขาคิชกูฏ คันธกูฏบนยอดเขาเมืองราชคฤห์ได้สบาย..สบาย
      
       ตอนกลางคืนนั่งปฏิบัติธรรมกรรมฐาน หรือวิปัสนาใต้ต้นศรีโพธิ์ พุทธคายา ยุง แมลงมาวุ่นวายรบกวน น้อยที่สุด
      
       ยิ่งถ้าไปถึงลุมพินี เห็นพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า..เช้า มองเห็นภูเขาหิมาลัย เป็นภาพอัศจรรย์ใจ..เหมือนเทวดาเปิดโลกให้มอง
"ทันดูรี" คืออาหารอบเตาดินแบบพันปี อร่อยเหมือนสมัยพุทธกาล
       จะเศร้าแต่ไม่หมอง เป็นความเศร้าที่ซาบซึ้ง ถึงกับน้ำตาซึม แต่ไม่ใช่น้ำตาโลกที่ร้องไห้ด้วยความเสียใจ อันเกิดจากภายนอก
      
       เป็นน้ำตาที่ซึมออกมาด้วยความปิติ จากภายใน ยามได้สถานที่พระพุทธองค์ทรงดับขันธ์ เสด็จปรินิพานที่สาละวโนทยาน กุสินารา
      
       นอกจากจะอิ่มธรรมกันทั่วหน้าแล้ว
      
       อินเดียในยามนี้ก็มีอาหารการกินอร่อยที่ซู้ด!!
      
       (ก็แน่ล่ะเจ้าค่ะ ท่านที่แควนอีชั้น ชอบเปิป ชอบกินกันไม่ใช่หรือเจ้าค่ะ) อินเดียในช่วงนี้จะมี "ทับทิม" ออกมาสู่ตลาด
      
       ทับทิมนี้ คนอินเดียเรียกว่า "อนาด" เป็นทับทิมที่ว่าอร่อยที่สุดในโลก ปลูกที่เมื่องซิมลาบนทือกภูเขาหิมาลัย
      
       น้ำทับทิมหวานชื่นใจ เม็ดก็นิ่มเคี้ยวกลืนได้ กินแล้วยังช่วยขับถ่ายสะดวกสบายในตอนเช้า
      
       คนอินเดียเขาจึงว่า...ทับทิมเป็นยา!!
      
       ทับทิม..หรืออนาดออกสู่ตลาดในช่วงนี้ราคาถูกที่สุด หอบเอามาฝากพวกที่เทวดายังไม่นำพาไปกราบไหว้พุทธภูมิ ได้ผลบุญจากการเดินทางเหมือนกัน
      
       การเดินทางไปกับอีชั้น ประสบการณ์ 20ปีในอินเดีย ไปก่อนที่จะมีเครื่องบินไทยอินเตอร์จะไปเหมือนเดี๋ยวนี้
      
       เดินทางด้วย เครื่องบินไทยอินเตอร์เหมือนกัน พักโรงแรมต่างกันกับของฮีชั้น๕ดาว
      
       อาหารก็ต่างกัน มุกมื้ออีชั้น เข้าครัวทำอาหารไทย อาหารแขก อาหารจีน กระทั่งอาหารฝรั่งด้วยตัวเอง
      
       รถโค๊ชปรับอากาศที่ใช้ รถโค๊ชของอีชั้นมีห้องน้ำในรถ ไม่ต้องนั่งยอง..ยองกลางทุ่งป่าให้อดสูขายขี้หน้า
      
       ด้วยมาตราฐาน "เปิปพิสดาร"อีชั้นจึงกล้าเชิญชวนพระเดชพระคุณท่านร่วมเดินทางไปกับอีชั้น ปลายเดือนมกราคมนี้
      
       ไปอินเดียไปกับใครก็ได้ทั้งนั้น แต่ถ้าไปกับอีชั้น
      
       กลับมาแล้วไม่ด่ากัน แถมยังจะขอไปอีกครั้ง..สอง..สามครั้งถามคนที่เขาไปมาแล้วก็ได้
      
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       ขอรายละเอียดเดินทางที่ บริษัท "พี.โอ.พี ทราเวิล" หมายเลขโทรศัพท์0-2653-7171(เครือพ่วงสาย10สาย)
       

No comments:

Post a Comment